การวิเคราะห์และเปรียบเทียบอัตรากำลังพยาบาลในหน่วยตรวจพิเศษโรคหัวใจ แบบไม่รุกล้ำ: การคำนวณตามมาตรฐานการจัดอัตรากำลังเทียบเท่าเต็มเวลา (Full Time Equivalents: FTEs)

บทคัดย่อ

บทนำ : การให้บริการในหน่วยตรวจพิเศษโรคหัวใจแบบไม่รุกล้ำต้องอาศัยพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง จำนวนบุคลากรพยาบาลที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญในการให้บริการที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพ โดยเฉพาะในหัตถการที่ซับซ้อน การขาดแคลนบุคลากรหรือการจัดอัตรากำลังที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพการดูแลผู้ป่วย

วัตถุประสงค์ : 1) วิเคราะห์อัตรากำลังจากภาระงานในหน่วยตรวจพิเศษโรคหัวใจ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 2) เปรียบเทียบอัตรากำลังที่ต้องการตามวิธีมาตรฐานการจัดอัตรากำลังเทียบเท่าเต็มเวลา (Full Time Equivalents: FTEs) กับอัตรากำลังจริง

วิธีดำเนินการวิจัย : การวิจัยเชิงพรรณนา เก็บข้อมูลระหว่างกุมภาพันธ์-กรกฎาคม 2567 จากผู้ป่วย 23,209 ราย พยาบาลวิชาชีพ (RN) 3 คน และพนักงานช่วยการพยาบาล (OA) 12 คน (หมุนเวียนวันละ 4 คน) ใช้แบบบันทึกเวลาในการทำหัตถการ (CVI=0.86, ICC=0.845) และข้อมูลสถิติคลินิก คำนวณ FTEs จากภาระงานรวม 8,010.6 ชั่วโมง/ปี และเปรียบเทียบกับมาตรฐานสภาการพยาบาล (สัดส่วน RN:PN 70:30)

ผลการศึกษา : ภาระงานเฉลี่ย 34.83 ชั่วโมง/วัน ผู้ป่วยเฉลี่ย 100.91 ราย/วัน ต้องการ FTEs 5.72 (RN 4 คน, PN 2 คน) หรือ RN 6 คนหากไม่มี PN ขณะที่ปัจจุบันมี RN 3 คนและ OA 4 คน หัตถการที่ใช้เวลามากที่สุดคือการให้ยาโดบูทามีนกระตุ้นหัวใจระหว่างทำการตรวจหัวใจด้วยเครื่องสะท้อนเสียงความถี่สูง (Dobutamine Stress Echocardiogram) (3:36:30 ชม./เคส) และการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อน (2,451:39:00 ชม./ปี)

สรุป : การขาด PN ทำให้ RN มีภาระงานเกิน ส่งผลต่อคุณภาพการดูแล ข้อเสนอแนะ: เพิ่ม RN/PN ตามสัดส่วน 70:30 ฝึกอบรม OA และพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์ภาระงานที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อความยั่งยืนของระบบสุขภาพ