การพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง (The Development of Information Technology for Learner-Centered Instruction of Ramkhamhaeng University Graduate Students)
Main Article Content
Abstract
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาปัญหาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง (2) เพื่อศึกษาการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง (3) เพื่อเปรียบเทียบปัญหาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ตามเพศ อายุ คณะที่ศึกษา และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าถึง กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงชั้นปีที่ 1 ใน 4 คณะได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ คณะรัฐศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ และคณะนิติศาสตร์โดยศึกษาอยู่ส่วนกลาง (หัวหมาก) และสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติส่วนภูมิภาค 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสงขลา และจังหวัดนครศรีธรรมราช ใช้แบบสอบถามเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .947 สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าความถี่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติค่าทีการวิเคราะห์ความแปรปรวนและทดสอบเป็นรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ่
ผลการวิจัยพบว่านักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามีปัญหาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( =3.31) นักศึกษามีปัญหาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านสถานที่อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านอุปกรณ์ด้านระบบสารสนเทศ และด้านบริการนักศึกษามีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง นอกจากนี้นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามีความต้องการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =3.85) และรายด้าน ได้แก่ด้านการศึกษาและด้านการติดต่อสื่อสารอยู่ในระดับมาก สำหรับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่มีเพศ และอายุต่างกันมีปัญหาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ในภาพรวมแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่ศึกษาในคณะที่ต่างกันมีปัญหาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ในภาพรวมแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่มีปัญหาการใช้ด้านระบบสารสนเทศ และด้านสถานที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในขณะที่นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่มีเพศ อายุ และคณะที่ศึกษาต่างกันมีการพัฒนา (มีความต้องการ) การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ในภาพรวมและรายด้านแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
This research is conducted for 3 reasons 1) study the problems of using information technology focusing on learners-centered instruction of Ramkhamhaeng University Graduate Students 2) study the development of using information technology focusing on learners-centered instruction of Ramkhamhaeng University Graduate Students 3) compare the difficulties of usage and development of information technology focusing on learners-centered instruction of Ramkhamhaeng University Graduate Students. The testimonials include Ramkhamhaeng University Graduate Students year 1 in 4 faculties; Business Administration, Political Science, Education, and Law education center (HuaMak) and other 4 campuses in honour of His Majesty the King of Ramkhamhaeng University in Chiang Rai, NakhonRatchsima, Songkla, and Nakhon Si Thammarat using the questionnaire to collect reliable data equals to .947. The data were analyzed using frequency, percentage, means, standard deviation, T test, analysis of variance, and comparison test by Scheffe's method.
Findings are as follow:
Graduate students have problems of using information technology for learning, in average, at a moderate level ( =3.31). A number of students struggle using information technology in location. In equipment and supplies, information system, and service, students struggle in a moderate level. Moreover, The requirement to develop the usage of information technology for learning of the graduate students is at a high level ( =3.85) and in dimension of information technology such as in education and communication are at the same level.
Graduate students’ ages are mixed and thus resulting different problem of using information technology for learning. In general, there was a statistically insignificant difference at level .05. The graduate students in different faculties encounter different problem in using information technology for learning at statistically insignificant difference at level .05. There was a problem in using information system and location statistically significant difference at level .05, while the graduate students at different age, sex, and faculties developed overview information technology for learning and in dimension.