การแปรเปลี่ยนจากรูปธรรมของจิตรกรรมของไทยสู่หลักธรรมในพุทธศาสนา

Main Article Content

อนุโรจน์ จันทร์โพธิ์ศรี
พิษณุ ศุภนิมิตร
ปรีชา เถาทอง

Abstract

            การได้พบเห็นจิตรกรรมฝาผนังของไทยตั้งแต่ ยุคสุโขทัย, อยุธยา จนกระทั่ง รัตนโกสินทร์ ที่เขียนเรื่องพุทธประวัติ ชาดก เป็นจิตรกรรมสมัยอยุธยา ที่บัดนี้ผุกร่อน ตามกาลเวลาอันเกิดจากความชื้น ความเค็มของปูนก่อ ปูนฉาบ ทำให้ผนังกะเทาะ เป็นชั้นๆ คงเหลือส่วนที่เป็นภาพเขียนที่มีสีเลือนรางเพียงบางแห่งเป็นความเสียหายของความละเอียดอ่อนของศิลปกรรมที่เป็นมรดกสำคัญของชาติ นับเป็นความสะเทือนใจอย่างรุนแรงสำหรับผู้รักการสร้างสรรค์ศิลปะไทย ก่อให้เกิดความคิดที่ขัดแย้งกันระหว่างความงามละเอียดอ่อนที่ผสมกันเป็นศิลปะที่มนุษย์สร้างขึ้น กับร่องรอยความบังเอิญที่ค่อยเป็นค่อยไปตามเหตุปัจจัยทางธรรมชาติ สิ่งนี้ก่อให้เกิด ข้อคิดพิจารณาหลักธรรมะ คือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่และเสื่อมสลายไป แสดงถึงช่วงของกาลเวลาหลายช่วง ต่อเนื่องกันจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เหตุแห่งสัจธรรมตามคำสอนของพระพุทธองค์พระบรมศาสดาแห่งพระพุทธศาสนา เพื่อทำความเข้าใจร่วมกับเรื่องราวของจิตรกรรมเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ทำให้เห็นถึงความหมายของพระไตรลักษณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ลักษณะส่วนตัวในการสร้างสรรค์ผลงานชุดนี้แสดงออกโดยใช้พื้นผิวที่กะเทาะเสริมเติมเข้าไปในผลงานจิตรกรรมชุดนี้ จะเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้สิ่งที่เสื่อมสลายตามธรรมชาติและภาพจิตรกรรมเดิมที่พอเหลืออยู่ กลายเป็นงานสร้างสรรค์ที่สะเทือนใจและกระทบใจผู้ชม


           Upon seeing the texture of the Ayutthaya period mural painting of the story of the Buddha on the temple walls of Wat Prasat, Nonthaburl it is clear that the texture is decaying over time, humidity and the salt from the cement are causing the layers to slowly peal. The remaining paint has now become faded, giving the impression of a new beauty to the art of the creator through time. This is in accord with the Buddhist teachings of Life which outlines the process of birth, development and decline, a process that will always continue. Buddhist Doctrine and Buddhist Art emphasize the meaning of the Three Noble Truths (พระไตรลักษณ์). The personal methods of using special techniques to add textures in this art will bridge the old mural painting which is faded by time, with modern art to become a masterpiece impressing the eyes of the viewers


Article Details

Section
บทความ : ศิลปะและการออกแบบ