แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในจังหวัดนครปฐม

Main Article Content

รัชฎาพร เกตานนท์ แนวแห่งธรรม

Abstract

           การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพการดำเนินการ สภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นของกลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นในจังหวัดนครปฐม 2) ศึกษาวิธีปฎิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ของกลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น 3) ศึกษาจุดอ่อน จุดแข็ง อุปสรรคและโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นในจังหวัดนครปฐมตามแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 4) ศึกษาการเทียบเคียงการดำเนินงานของกลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จ 5) ศึกษาแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) ได้แก่ 1)ผู้เชี่ยวชาญด้านความคิดสร้างสรรค์ การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 2) สมาชิกกลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าว 3) ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึกแบบมีโครงสร้าง (Structured Interview) วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า

 

            1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสร้างสรรค์ตามแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หมายถึง การคิดออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความแปลกแตกต่างไปจากเดิม โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการเพิ่มมูลค่า และคุณค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ และกลุ่มอาชีพฯ มีความต้องการผลิตผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นในสังคมไทยให้มากขึ้นเนื่องจากได้รับความสนใจและตลาดมีความต้องการมากขึ้นตลอดเวลา เนื่องจากมีกรรมวิธีหรือกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย ไร้สารเคมี ทำให้ผู้ใช้มีสุขภาพอนามัยที่ดีขึ้น และยังเป็นการสร้างฐานที่มั่นคงทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนด้วย ความต้องการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ ความรู้ในเรื่องของการออกแบบผลิตภัณฑ์ ความคิดสร้างสรรค์ และการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้แก่กลุ่มอาชีพ 

            2. วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศในการดำเนินงานของกลุ่มอาชีพฯ จังหวัดนครปฐม คือ วิธีการดำเนินงานในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นของกลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าว ได้แก่ 1)การออกแบบผลิตภัณฑ์ 2)กระบวนการผลิต 3)กลยุทธ์ทางการตลาด 4)จุดเด่นจุดอ่อน 5)ปัจจัยแห่งความสำเร็จ 6)ปัญหาอุปสรรค และ7)คุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นต่อชีวิตและสังคมท้องถิ่นตลอดจนการถ่ายทอดและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นของกลุ่มอาชีพ

            3. กลุ่มผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าวมีโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เติบโตเป็นผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญท้องถิ่นที่มีความโดดเด่นของจังหวัดนครปฐมได้ด้วยมีจุดแข็งในเรื่องของวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างชัดเจน ผลิตภัณฑ์มีความคงทนถาวร สามารถเสริมสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ และมีจุดอ่อนในเรื่องของวัตถุดิบหายากมากขึ้น       การขาดแคลนแรงงานประเภทช่างฝีมือขั้นสูงและขาดองค์ความรู้ที่สามารถส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ กลุ่มอาชีพ โอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์นั้นพบว่า กลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าวในจังหวัดนครปฐมสามารถพัฒนาให้เป็นธุรกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืนได้ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ได้แก่ 1) ความเหมาะสมในเรื่องของโลจิสติกส์ 2) การสนับสนุนจากรัฐบาลและ 3) ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในประเทศต่างๆ ที่นิยมสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เป็นงานช่างฝีมือและแสดงออกถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม

           4. การเทียบเคียงการดำเนินงานของกลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จในด้านปฏิบัติงานมีความคล้ายคลึงกันในประเด็น การมีโครงสร้างองค์กรที่เข้มแข็ง สมาชิกในกลุ่มมีความรู้ ความสามารถและมีทักษะทางอาชีพ มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และมีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการ และกลุ่มอาชีพฯ มีกลยุทธ์ที่ดีตลอดจนมีการค้นหากลยุทธ์ใหม่ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ

           5.  แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์มีประเด็นหลักๆ ในการพัฒนา 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการบริหารจัดการองค์กร 2) ด้านการบริหารจัดการด้านการตลาด 3) ด้านการบริหารจัดการด้านการผลิตและบริการ และ 4) ด้านการปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน ซึ่งการพัฒนาในทุกด้านมีรากฐานมาจากแนวคิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์บนพื้นฐานใน 7 ประเด็น ได้แก่ 1)การใช้องค์ความรู้ 2)การศึกษา 3)การสร้างสรรค์งาน 4)การใช้ทรัพย์สินทางปัญญา ที่เชื่อมโยงกับพื้นฐานทางวัฒนธรรม 5)วัฒนธรรม 6)ภูมิปัญญา และ7) เทคโนโลยี/นวัตกรรมสมัยใหม่ ซึ่งเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นกะลามะพร้าวในจังหวัดนครปฐมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้มีความก้าวหน้า มั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืน ต่อไป

 

          This was the research on the guideline of developing the local wisdom for promoting the creative economy in Nakhonpathom province. This was the qualitative research as Multisite Multi-case Research. There were purposes for 1) studying the basis data, the status of the operation, the status of the problems and the needs in developing the folk wisdom of the career group of the folk wisdom in Nakhonpathom 2) studying the best practice of the career group of the folk wisdom 3) studying the weak and strong points, the obstacles and the opportunity of developing the products of the folk wisdom in Nakhonpathom according to the notion of the creative economy 4) comparing the successful operation of the career groups of the folk wisdom 5) studying the guideline of developing the products of the folk wisdom for promoting the creative economy. The key informants were 1) the specialists in terms of the creative thinking, the value-added products, the design and the development of the products, 2) the members of the career groups of the coconut shells, 3) the ones involved in the products of the folk wisdom. The tool used in this research was the structured interview.The data was analyzed by the content analysis. The results were found that:

            1.The results of the basis data, the status of the operation, the status of the problems, the needs in developing the product of the folk wisdom, the career groups of the folk wisdom, in Nakhonpathom were found that the development of the products as the creativity according to the idea of the creative economy meant the design of the new product which was different from the original by using the creativity for the added-value and  worth of the products and the needs of the creative product in Thai society in order to be always interested and wanted and the increasing tendency in the future because people and consumers needed the new styles of products responding to the variety of demand and the difference from the past. Besides, the benefit of the products of the folk wisdom was seen. There were the save process and the procedure without any chemical which made the consumers be more healthy. It made the secure base in terms of the economy for the community. For the problems and the needs in developing the products of the folk wisdom, they were found that the important issues of the problems were the lack of knowledge of designing the creatice product which was new and unique, including the lack of workers having the skills who came into the manufacturing process and the succession of the products. Therefore, the development of the products of the folk wisdom should be started from the training giving the knowledge on the design of the products, the creativity, the value-added products for the career groups by making the brand be well-known, beautiful, vary, and unique. The local tradition was related to the product style for example there were the story telling for promoting the outstanding point and the difference of the product.

            2.  The results of the best practice of the career groups of the products of the folk wisdom were found that the best practice method of the operation of the career group was the operation for the creative products of the folk wisdom of the career groups of coconut shells. The product design, the manufacture procedure, the marketing strategy, the weak and strong points, the successful factors, the problems, the value of the folk wisdom affecting to the living style and the local society throughout the transfer and the conservation of the folk wisdom of the career groups at present were found that Both groups of the career groups of coconut shells had the similar method of the best practice in terms of creating the strong point of their own products. The coconut shells of each group were beautiful and unique. The successful factors were the loving in their works, the skill in creative art, and the patience. The similar problems of both groups were the lack of workers having good skill, and the successors. They had the similar marketing strategies. In other words, both of them had the method to distribute and publicize their own products by 1) receiving the orders from customers directly, 2) setting up a booth of the folk wisdom or OTOP, 3) creating the website, webpage,4) publicizing by themselves though the programs on TV about the career documentary and the folk wisdom, 5) having their own shops for distributing the products. For the difference, both of them had the different ideas on designing the products including to the manufacture procedure which was outstanding and unique, emphasizing the utility. However, the value of the folk wisdom affecting to the living style and the local society throughout the transfer and the conservation of the folk wisdom of both the career groups were found that the creation and the development of coconut shells had so much value for the product groups,the creators, the local communities in many ways which were the value on mind of the creators, the value on developing the communities by making the communities well known, promoting the local economy throughout making the conscious mind on the communities,  the participation, the unity, the neighborliness, the strong base of the communities.The transfer the folk wisdom was found that they directly transferred to whom close to them and the members of the career groups. They transferred by the seminar and training for the interesting people.

            3.The results of the weak and the strong points, the obstacles and the opportunity in developing the product of the folk wisdom in Nakhonpathom according to the idea of the creative economy were found that the product groups of coconut shells had the opportunity in developing the products to grow up as the outstanding products of the folk wisdom in Nakhonpathom because there were many strong points which were able to be developed and cumulative into the creative economy. In other words, 1) It was easy to find the raw material so the capital was decreased, 2) the products were outstanding and unique in terms of the precious local culture which was the high skill and it was difficult to copy, 3) the products were durable, beautiful, had the sustainably useful life, 4) It was able to promote the base in terms of the creative economy to be more strong and self-sufficient. The weak points were found that 1) the weak point of the products themselves was some types of products for example the sacred objects must use the specific raw material which was the shell eyed; nowadays they were rare so it was harder than any other types of products to find and be not sufficient for the customers’ need some time; besides, some products were fragile because they were sculptured very neatly and beautifully; Therefore, it must be very careful to manufacture and transportation which was especially good, 2) The lack of the workers with high skills who were able to transfer the products of coconut shells; so it was the obstacle to develop the products sustainably, 3) the lack of the knowledge which was able to promote and develop the products of the career groups.

           For the opportunity in developing the products into the creative economy, it was found that the career groups of coconut shells in Nakhonpathom were able to be developed to be the creative business sustainably last because of the supportive factors which were 1) the proper logistics because nakhonpathom was one of the progressive centers in the Western of Thailand; Nakhonpathom was close to Bangkok which was the capital of Thailand and was the door of the Western region and the southern region; in the future, Nakhonpathom would be the door to the land of ASEAN; the transportation was comfortable, easy to communicate, and suitable to spread wide the network, 2) the government had the policy to promote and support both the  knowledge and the budget to the career groups, 3) the products of the folk wisdom were the needs of customers in many countries which liked the goods and the products which were the handworks and expressed the unique culture.

             4. The results of comparing the operation of the successful career groups of the products of the folk wisdom were found that the operation was similar in terms of the strong management, the members in the groups had the knowledge, the ability and the career skills which applied the technology properly, and had the vision of managing  the career groups which occurred from members in the groups, the good strategies and searched for new strategies for developing the products of the career groups which consisted of the folk wisdom which had the base of the creative work from the local culture, the manufacture procedure and the proper products development, the strategies of managing the marketing, and the principles of the business development sustainably by transferring, conserving, and cumulating the folk wisdom.

              5. The results of the guideline of developing the products of the folk wisdom for promoting the creative economy were found that there were 4 sides of the guideline of developing the products which were 1) the management of the organization, 2) the marketing management, 3) the management of the manufacture and the service, and 4)the improvement and the local business development sustainably; the development in every side had the base from the idea of moving the creative economy in 7 issues which were 1) the knowledge, 2) the education, 3) the creativity, 4) the intellectual property, 5) the culture, 6) the technology and the innovation; they were the guideline of developing the products of the folk wisdom of coconut shells inNakhonpathom for promoting the creative economy to be progressive, strong, wealthy, and stainable.

Article Details

Section
บทความ : มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ