การส่งบทความ

เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อส่งบทความ

ข้อกำหนดการส่งบทความ

ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและยืนยันว่าปฏิบัติตามข้อกำหนดการส่งบทความทุกข้อ บทความที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดอาจถูกส่งคืนให้ผู้แต่งดำเนินการแก้ไข
  • บทความไม่เคยได้รับการตีพิมพ์หรือไม่ได้อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น (หากมีโปรดอธิบายในข้อความถึงบรรณาธิการ)
  • ไฟล์ต้นฉบับบทความอยู่ในรูปแบบ OpenOffice, Microsoft Word หรือ RTF
  • เอกสารอ้างอิงจากอินเทอร์เน็ตต้องระบุ URL ที่สามารถเข้าถึงได้
  • ข้อความในบทความมีระยะห่างระหว่างบรรทัดแบบบรรทัดเดียว (single-spaced), ภาษาไทยใช้ตัวอักษรขนาด 16pt และภาษาอังกฤษใช้ตัวอักษร 12 pt, ใช้ตัวเอียงแทนการขีดเส้นใต้ (ยกเว้นที่อยู่ URL) และวางภาพประกอบ รูปวาด และตารางไว้ภายในเนื้อหาตามตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่แยกไว้ท้ายบทความ
  • บทความเป็นไปตามรูปแบบและหลักเกณฑ์การเขียนเอกสารอ้างอิงที่ระบุไว้ในคำแนะนำสำหรับผู้แต่ง

คำแนะนำผู้แต่ง

คำแนะนำสำหรับผู้เขียน
    วารสารสมาคมศัลยศาสตร์ทั่วไปยินดีรับบทความวิชาการหรือรายงานผลการวิจัยที่เกี่ยวกับด้านศัลยศาสตร์ โดยเรื่องที่ส่งมาจะต้องไม่เคยตีพิมพ์หรือกำลังรอพิมพ์ในวารสารอื่น ทั้งนี้ทางกองบรรณาธิการตรวจทานแก้ไขเรื่องต้นฉบับและพิจารณาตีพิมพ์ตามลำดับก่อนหลัง

 

หลักเกณฑ์และคำแนะนำสำหรับส่งเรื่องลงพิมพ์

1. บทความที่ส่งลงพิมพ์
     - นิพนธ์ต้นฉบับ การเขียนเป็นบทหรือตอนตามลำดับดังนี้  “บทคัดย่อ บทนำ วัสดุและวิธีการศึกษา ผลการศึกษาวิจารณ์ กิตติกรรมประกาศ เอกสารอ้างอิง” ความยาวของเรื่องไม่เกิน 10 หน้าพิมพ์ 

     - รายงานผลการศึกษา ประกอบด้วย บทคัดย่อ บทนำ ปฏิบัติงาน วิธีการดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน วิจารณ์ กิตติกรรมประกาศ เอกสารอ้างอิง

     - บทความพื้นวิชาควรเป็นบทความที่ให้ความรู้ รวบรวม  สิ่งที่ตรวจพบใหม่ หรือเรื่องที่หน้าสนใจ ผู้อ่านสามารถนำไปประยุกต์ได้

     - บทความวิเคราะห์สถานการณ์โรคต่างๆ ประกอบ ด้วยบทคัดย่อ บทนำความรู้ หรือข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องที่นำมาเขียน วิจารณ์ หรือวิเคราะห์สรุป ควรมีเอกสารอ้างอิงที่ค่อนข้างทันสมัย


2.การเตรียมบทความเพื่อลงพิมพ์
   ชื่อเรื่อง ควรสั้นกะทัดรัด ให้ได้ใจความที่ครอบคลุม และตรงกับวัตถุประสงค์และเนื้อหาเรื่อง ชื่อเรื่องต้องมีภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ชื่อผู้เขียน ให้มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ(ไม่ใช้คำย่อ) พร้อมทั้งอภิไธยต่อท้ายชื่อและสถาบัน ที่ทำงานอยู่ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เนื้อเรื่อง ควรใช้ภาษาไทยให้ได้มากที่สุด และ ภาษาที่เข้าใจง่าย สั้นกะทัดรัด และชัดเจนเพื่อประหยัดเวลาของผู้อ่าน หากใช้คำย่อต้องเขียนคำเต็มไว้ครั้งแรก บทคัดย่อ คือการย่อเนื้อหาสำคัญ เฉพาะที่จำเป็น เท่านั้นระบุตัวเลขทางสถิติที่สำคัญ
ใช้ภาษารัดกุมเป็นประโยคสมบูรณ์และเป็นร้อยแก้วความยาวไม่เกิน 15 บรรทัด และมีส่วนประกอบคือ วัตถุ ประสงค์ วัสดุและวิธีการศึกษา ผลการศึกษาและวิจารณ์หรือข้อเสนอแนะ(อย่างย่อ)ไม่ต้องมีเชิงอรรถอ้างอิงบทคัดย่อต้องเขียนทั้งภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษ ไม่เกิน 350 คำ

วัสดุและวิธีการดำเนินการวิจัย กล่าวถึง วิธีการศึกษา แหล่งที่มาของข้อมูล วิธีการรวบรวมข้อมูล วิธีการเลือกสุ่มตัวอย่างและกาใช้  เครื่องมือช่วยในการวิจัย ตลอดจนวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลหรือใช้หลักสถิติมา ประยุกต์ ผลการศึกษา อธิบาย

สิ่งที่ได้พบจากการวิจัย โดยเสนอหลักฐานและข้อมูลอย่างเป็นระเบียบพร้อมทั้งแปลความหมายของผลที่ค้นพบ หรือวิเคราะห์

วิจารณ์ ควรเขียนอภิปรายผลการวิจัยว่าเป็นไป ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่เพียงใด และควรอ้างอิงทฤษฎีหรือผลการดำเนินงานของผู้ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย

สรุป (ถ้ามี) ควรเขียนสรุปเกี่ยวกับการวิจัย (สรุปให้ตรงประเด็น) และข้อเสนอแนะที่อาจนำผลงานการวิจัยไปใช้ประโยชน์ หรือให้ ข้อเสนอแนะประเด็นปัญหาที่สามารถปฏิบัติได้สำหรับการวิจัยครั้งต่อไป

เอกสารอ้างอิง

1) ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในความถูกต้องของเอกสารอ้างอิง การอ้างอิงเอกสารใช้ระบบ Vancouver 

2) การอ้างอิงเอกสารใดให้ใช้เครื่องหมาย เชิงอรรถเป็นหมายเลขโดยใช้หมายเลขอารบิก ยกกำลัง โดยไม่มีวงเล็บ หลังประโยคที่อ้างอิง
3) เอกสารอ้างอิงหากเป็นวารสารภาษา อังกฤษให้ใช้ชื่อย่อวารสารตามหนังสือ Index Medicus การใช้เอกสารอ้างอิงไม่ถูกแบบจะทำให้เรื่องส่งมาเกิดความล่าช้าในกาพิมพ์ เพราะต้องมีการติดต่อ ผู้เขียนเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมให้ครบตาม หลักเกณฑ์

การอ้างเอกสาร
ก. ภาษาอังกฤษ
ลำดับที่.ชื่อผู้แต่ง (สกุล อักษรย่อของชื่อ).ชื่อ เรื่อง ชื่อวารสาร ปี ค.ศ.; ปีที่พิมพ์ (volume): หน้าแรก-หน้าสุดท้าย (แบบย่อ).
*ในกรณีที่ผู้แต่งเกิน 6 คน ให้ใส่ชื่อผู้แต่ง 6 คนแรก แล้วตามด้วย et al.


ตัวอย่าง
1. Fischl MA, Dickinson GM, Scott GB. Evaluation of
Heterosexual patners, children and household
contracts of Adults with AIDS.JAMA 1987; 257: 640-4.

ข. ภาษาไทย
ใช้เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษ แต่ชื่อผู้แต่งให้เขียนเต็ม ตามด้วยนามสกล และใช้ชื่อวารสารเป็นตัวเต็ม
ตัวอย่าง
2. ธุระ รามสูต, นิวัติ มนตรีสุวัติ, สุรศักดิ์ สัมปัตตะนิช, อุบัติการณ์โรคเรื้อนระยะแรก โดยการศึกษาจุลพยาธิวิทยาคลินิกจากวงด่างขาวของผิวผู้ป่วยที่สงสัยเป็นโรคเรื้อน 589 ราย.วารสารโรคติดต่อ 2527;10: 101-2

การอ้างอิงหนังสือหรือตำรา
ก. การอ้างอิงหนังสือหรือตำรา
ลำดับที่. ชื่อผู้แต่ง(สกุล อักษรย่อของชื่อ). ชื่อหนังสือ. เมืองที่พิมพ์: สำนักพิมพ์ ; ปีที่พิมพ์.

ตัวอย่าง
1. Toman K.Tuberculosis case-finding and chemo-
therapy.Geneva: Wold Health Organization; 1979.


ข. การอ้างอิงบทที่หนึ่งในหนังสือตำรา
ลำดับที่.ชื่อผู้เขียน.ชื่อเรื่อง.ใน;(ชื่อบรรณาธิการ), บรรณาธิการ. ชื่อหนังสือ. ครั้งที่พิมพ์. เมืองที่พิมพ์: สำนักพิมพ์; ปีที่พิมพ์. หน้าแรก-หน้าสุดท้าย.

ตัวอย่าง
2. ศรชัย หลูอารีย์สวรรณ.การดื้อยาของเชื้อมาลาเรีย.ใน:ศรชัย หลูอารีย์สวรรณ, ดนัย บุนนาค, ตระหนักจิต หะริณสูต, บรรณาธิการ, ตำราอายุรศาสตร์เขตร้อน.พิมพ์ครั้งที่ 1. กรงเทพมหานคร: รวมทรรศน์ ; 2533. น.115-20

โปรดศึกษารายละเอียดได้จากบทความเรื่อง การเขียนเอกสารอ้างอิงในวารสารทางวิชาการโดยใช้ระบบ แวนคูเวอร์ในวารสารโรคติดต่อปีที่ 24 ฉบับที่ 4 (ตุลาคม - ธันวาคม 2541) หน้า 465 - 472.


3. การส่งต้นฉบับ
3.1 การส่งเรื่องตีพิมพ์ให้ส่งต้นฉบับ เป็ย electronic files อย่างเดียวทาง website
3.2 ภาพประกอบถ้าเป็นภาพลายเส้นต้องเขียนด้วยหมึกดำบนกระดาษหน้ามันถ้าเป็นภาพถ่ายควรเป็นภาพ สไลด์ หรืออาจใช้ภาพขาวดำขนาดโปสการ์ดแทนก็ได้ การเขียนคำอธิบายให้เขียนแยกต่างหาก อย่าเขียนลงในรูป โดยเป็นภาพที่ไม่มีลิขสิทธิ์ หรือสร้างโดยผู้แต่งเอง

ภาพประกอบบทความผู้ประพันธ์ควรเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยวาดหรือถ่ายด้วยตนเอง และหากเป็นรูปผู้ป่วย ภาพถ่ายรังสี ชิ้นเนื้อ และรูปอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ป่วย ต้องใช้รูปที่ไม่สามารถระบุไปถึงตัวผู้ป่วยได้ กรณีที่รูปดังกล่าวสามารถระบุถึงตัวผู้ป่วยได้ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ป่วยและเขียนกำกับถึงการอนุญาตของผู้ป่วยก่อนคำอธิบายใต้ภาพด้วยทุกครั้ง ไม่นำภาพหรือตารางจาก internet, website, ตำรา หนังสือ หรือ วารสารอื่น ๆ ยกเว้นในกรณีที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์หรือสำนักพิมพ์นั้น ๆ ก่อน (โดยมีเอกสารรับรองการขออนุญาต)  ไม่คัดลอกหรือดัดแปลงโดยไม่ขออนุญาต
- คุณภาพของภาพควรมีความละเอียดอย่างน้อย 30 dpi (จุดต่อนิ้ว) (ทั้งภาพสีและภาพขาว-ดำ)
- โปรดจัดทำ คำอธิบายใต้ภาพ (Caption or Legend) สำหรับภาพและภาพประกอบ แยกต่างหาก จากตัวรูปภาพ
 
4. การรับเรื่องต้นฉบับ
4.1 เรื่องที่รับไว้กองบรรณาธิการจะแจ้งตอบรับให้ ผู้เขียนทราบทาง Email
4.2 เรื่องที่ไม่ได้รับพิจารณาลงพิมพ์กองบรรณาธิการ จะแจ้งให้ทราบ แต่จะไม่ส่งต้นฉบับคืน
4.3 เรื่องที่ได้รับพิจารณาลงพิมพ์กองบรรณาธิการ จะส่งสำเนาพิมพ์ให้ผู้เขียน หรอสามารถ download ได้จาก website https://he02.tci-thaijo.org/index.php/agstjournal/issue/archive

Original research (research article)

original research (empirical) article based on an experiment or study. This type of article will have a methodology section that tells how the experiment was set up and conducted, a results or discussion section, and usually a conclusion section. In psychology courses, you are often asked to find empirical articles. Empirical articles are original research articles.

Review article (literature review or systematic review)

Review article (literature review or systematic review) written to bring together and summarize the results/conclusions from multiple original research articles/studies. This types of article will not usually have a methodology section, and they generally have very extensive bibliographies.

Theoretical article

Theoretical article written to contribute to the theoretical foundations of a field of study. In this type of article, an author will draw upon existing research to form a new theory or explore theories in new ways.

Book review

Book review while written by scholars, book reviews in scholarly journals are meant to provide a summary of a newly published book. Book reviews can lead to the discovery of new sources to investigate.

Editorial

Editorial while written by editors of scholarly journals, these articles are summaries of content included in a specific issue of a journal. Editorials can lead to the discovery of new sources to investigate.

นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัว

วารสารตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ทุกท่าน และมีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น ระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค (GDPR)

ชื่อและที่อยู่อีเมลที่กรอกในเว็บไซต์วารสารนี้ จะถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ของวารสารนี้เท่านั้น และจะไม่มีการนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด หรือเปิดเผยให้แก่บุคคลที่สาม