การสร้างธรรมนูญสุขภาพสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบบูรณาการ
คำสำคัญ:
ธรรมนูญสุขภาพอำเภอ, การขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพ, การพัฒนาคุณภาพชีวิตบทคัดย่อ
การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษากระบวนการสร้างและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบบูรณาการของประชาชนอำเภอบุ่งคล้า กลุ่มตัวอย่างเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) คือ ตัวแทนคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตอำเภอบุ่งคล้า และประชาชนรวม 121 คน ดำเนินการระหว่างเดือน พฤษภาคม 2562 ถึง เมษายน 2563 เก็บข้อมูลโดยแบบสอบถาม แบบบันทึกภาคสนาม การสนทนากลุ่ม (Focus Group) และแบบสังเกต การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย กระบวนการสร้างและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพื้นที่ มี 4 ขั้นตอน 1) ศึกษาสถานการณ์ 2) จัดทำธรรมนูญสุขภาพ 8 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1)สร้างความเข้าใจผู้บริหารและผู้นำชุมชน 2)จัดตั้งคณะทำงานธรรมนูญสุขภาพระดับตำบล 3)ทบทวนข้อมูลและสถานการณ์ปัญหาพื้นที่ 4)ออกแบบเครื่องมือเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล 5)ยกร่างธรรมนูญสุขภาพตำบล 6)จัดเวทีประชาคมหมู่บ้านพิจารณาร่างธรรมนูญสุขภาพตำบลเชื่อมโยงกับการจัดทำแผนพัฒนาตำบล 7) ปรับปรุงร่างและจัดเวทีพิจารณาธรรมนูญสุขภาพตำบล 8) ประกาศใช้ธรรมนูญสุขภาพตำบล 3) การขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพ หลังประกาศใช้ 2ขั้นตอน 1) ยกร่างธรรมนูญสุขภาพ อำเภอ และประชาพิจารณ์ 2) ขั้นดำเนินการ 3) ประกาศใช้ธรรมนูญสุขภาพอำเภอในการขับเคลื่อน โดยมีร่างประกาศประกอบด้วย 10 หมวด 83 ข้อ มีการสร้างธรรมนูญสุขภาพระดับอำเภอเชื่อมโยงกับธรรมนูญสุขภาพระดับตำบลและแผนการจัดการของกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น 3 แห่ง โดยมีประเด็นการจัดการขยะเป็นประเด็นในการขับเคลื่อน จนเกิดนวัตกรรมหมู่บ้านต้นแบบการจัดการขยะ 4) การประเมินผล การมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพในระดับน้อย (=1.66, SD=0.13) พฤติกรรมการจัดการขยะในระดับปานกลาง (= 1.97, SD=0.20)
References
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. ก้าวย่างทางเดินสู่ธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติฉบับแรก. กรุงเทพฯ: บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน); 2555.
ไพศาล ลิ้มสถิตย์. ธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ : มิติทางกฎหมาย. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข; 2550.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550. นนทบุรี: สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ; 2550.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 8 อุดรธานี. คู่มือการประเมินเสริมพลังธรรมนูญสุขภาพ. อุดรธานี: โรงพิมพ์ศักดิ์ศรีอักษรการพิมพ์; 2560.
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. รายงานประจำปี พ.ศ. 2557 สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ รายงานสานพลัง 7. นนทบุรี: สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ; 2557.
Kemmis. S, McTaggart. R. The Action Research Reader. 3 ed. Deakin University: Deakin University Press; 1988.
วราพร วันไชยธนวงค์, พิมพ์ใจ อุ่นบ้าน, พจนีย์ มนัสพรหม. การพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่. วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ. 2560;23(1):43-53.
ทนงศักดิ์ พลอาษา, ประเสริฐ ประสมรักษ์. ผลการประเมินความเข้มแข็งของการสร้างและใช้ธรรมนูญสุขภาพเฉพาะพื้นที่ในมุมมองของประชาชน จังหวัดอำนาจเจริญ. ศรีนครินทร์เวชสาร: 2562;34(4):379-85.
สำนักงานวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน (สพช.). นโยบายสาธารณะ:เครื่องมือการขับเคลื่อนระบบสุขภาพชุมชน. การประชุมมหกรรมสุขภาพชุมชน ครั้งที่ 2 จากความรู้สู่ระบบจัดการใหม่ จินตนาการเป็นจริงได้ไม่รู้จบ วันที่ 19 มกราคม 2555 ณ อาคารอิมแพ็ค คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี. 2550. กฤตยา อาชวนิจกุล, กุลภา วจนสาระ. บทสำรวจวาทกรรมและการเมืองเรื่องสมัชชาสุขภาพ. วารสารสังคมศาสตร์:2551;20:114-42.
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. ก่อ – ร่าง – สร้าง – เคลื่อน บทเรียนธรรมนูญสุขภาพ 6 พื้นที่ ธรรมนูญว่าด้วยสุขภาพสู่ตำบลสุขภาวะของประชาชน ตำบลดงมูลเหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2554. นนทบุรี. 2556.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2021 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กระทรวงสาธารณสุข
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น และบุคลากรท่านอื่นๆในสำนักงานฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว