การพัฒนาระบบการเบิก-จ่ายยาจากโรงพยาบาลแม่ข่ายไปยัง หน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตอำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม
คำสำคัญ:
การพัฒนาระบบการเบิก-จ่ายยา, แนวคิดลีน(Lean), การวิจัยเชิงปฏิบัติการ, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการเบิก-จ่ายยาจากโรงพยาบาลแม่ข่ายไปยังหน่วยบริการปฐมภูมิโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในเขตอำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้รับผิดชอบงานบริหารคลังเวชภัณฑ์หน่วยบริการปฐมภูมิ ในเขตอำเภอเชียงยืน จำนวน 10 คน และผู้รับผิดชอบงานบริหารคลังเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเชียงยืน จำนวน 3 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบเก็บข้อมูล ใน 2 ช่วงเวลา ได้แก่ 1 ตุลาคม 2566 - 31 ธันวาคม 2566 (ก่อนปรับปรุง) และ 1 ตุลาคม 2567 – 31 ธันวาคม 2567 (หลังปรับปรุง) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ค่าเฉลี่ย ความถี่ และร้อยละ การปรับปรุงระบบการเบิก-จ่ายยา ของหน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั้ง 10 แห่ง ผลการวิจัย พบว่า กระบวนการเบิก-จ่ายยาลดลงจากเดิม 7 กิจกรรม เหลือ 4 กิจกรรม ลดได้ร้อยละ 42.86 แนวทางในการดำเนินงาน จากการปรับปรุงวิธีการปฏิบัติงานตามหลัก ECRS ใช้เวลาเฉลี่ยลดลงจาก 13.6 วัน (SD=3.86) เหลือ 6.55 วัน (SD=0.98) ต่อรอบการดำเนินงาน ลดได้ร้อยละ 51.84 มูลค่าการเบิกยาเฉลี่ยก่อนปรับปรุง 446,841.22 บาท (MD=44,002.87 IQR=21,707.56) หลังปรับปรุง 376,017.45 บาท(MD=32,384.80 IQR=15,048.81) คิดเป็นมูลค่าที่ลดลง 70,823.77 บาท ลดได้ ร้อยละ 15.85 การพัฒนาประสิทธิภาพระบบเบิก-จ่ายยา โดยใช้แนวคิดลีน (Lean) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดความสูญเปล่าที่เกี่ยวข้องกับระบบการเบิก-จ่ายยา และลดภาระงานในส่วนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั้งนี้ เพื่อนำผลที่ได้ไปเพิ่มประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในการให้บริการสุขภาพด้านอื่นต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. แนวทางปฏิบัติเภสัชกรรมปฐมภูมิ. พิมพ์ครั้งที่1. นนทบุรี: กลุ่มงานพัฒนาระบบสนับสนุนบริการ กองบริหารการสาธารณสุข สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข; 2566.
โกศล ดีศีลธรรม. เพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้วยแนวคิดลีน. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น; 2547.
Kemmis S, McTaggart R. The Action Research Planer (3rd edition). Victoria: Deakin University; 1988.
ภิชา ฟักศรี. การพัฒนาประสิทธิภาพระบบเติมยาในเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ จังหวัดพิจิตร. วารสารวิจัยและวิชาการสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร 2566; 4: 1-13.
ลัดดา ผลรุ่ง. การประยุกต์ใช้แนวคิดลีนในการปรับปรุงกระบวนการจำหน่ายผู้ป่วย หอผู้ป่วย อายุรกรรมหญิง 1 โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก. (วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต). ภาควิชาการบริหารการพยาบาล, บัณฑิตวิทยาลัย. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2560.
มัตติกา ประพฤติดี. การพัฒนางานบริหารเวชภัณฑ์ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารศาสตร์สุขภาพและการศึกษา 2564;1(2):16-29.
ชรัณ ประยูรเสถียร, ภิญญดา นฤบุญญฤทธิ์, กิตติภัค เจ็งฮั้ว. การพัฒนาคุณภาพระบบเติมยา โดยใช้แนวคิดลีนในเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ จังหวัดชัยนาท. วารสารเภสัชศาสตร์อีสาน 2564;17(4):75-87.
อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล. Lean & seamless healthcare. เอกสารประกอบการประชุมวิชาการประจำปี การพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล ครั้งที่ 10. นนทบุรี: สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล; 2552.
Womack JP, Jones DT. Lean thinking. New York: A Division of Simon & Schuster; 2003.
นิพนธ์ บัวแก้ว. รู้จักระบบการผลิตแบบลีน (Introduction to Lean manufacturing). กรุงเทพฯ: สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี(ไทย-ญี่ปุ่น); 2547.
คณะกรรมการจัดทำรายงานระบบยาของประเทศไทย. ระบบยาของประเทศไทย 2563. นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข; 2563.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. คู่มือสำหรับเภสัชกรในการดำเนินงานเภสัชกรรมในหน่วยบริการปฐมภูมิ. กรุงเทพมหานคร: บริษัทศรีเมืองการพิมพ์ จำกัด; 2560.
คณะทำงานจัดทำคู่มือเภสัชกรรมปฐมภูมิ. คู่มือสำหรับเภสัชกรในการดำเนินงานเภสัชกรรมในหน่วยบริการปฐมภูมิ. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ; 2553.
กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล. กรุงเทพมหานคร: ทีคิวพี; 2552.
ธีรวุฒิ เอกะกุล. การวิจัยปฏิบัติการ(Action Research). อุบลราชธานี: บริษัทยงสวัสดิ์ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด; 2553.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กระทรวงสาธารณสุข
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น และบุคลากรท่านอื่นๆในสำนักงานฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว