ผลลัพธ์ทางคลินิกการติดตามการใช้ยารักษาในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นไลน์

ผู้แต่ง

  • ทรงวุฒิ สารจันทึก โรงพยาบาลวังม่วงสัทธรรม
  • ลือรัตน์ อนุรัตน์พานิช

คำสำคัญ:

การติดตามและประเมินผลการใช้ยา, ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2, แอปพลิเคชั่นไลน์ , การบริการเภสัชกรรมทางไกล

บทคัดย่อ

  การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลลัพธ์ในการติดตามและประเมินผลการใช้ยาในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นไลน์ กลุ่มตัวอย่างคือ  ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับบริการคลินิกโรคเรื้อรัง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี จำนวน 40 คน โดยเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม การติดตามการใช้ยารักษาในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นไลน์ โดยใช้สถิติสถิติพรรณนา เช่น ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติอ้างอิง เช่น เปรียบเทียบผลลัพธ์ในการติดตามและประเมินผลการใช้ยาในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นไลน์ โดยทดสอบทางสถิติโดยใช้ paired t-test มีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อ p-value < 0.05

ผลการวิจัย พบว่า ผลเปรียบเทียบผลลัพธ์ทางคลินิกของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ก่อนและหลังได้รับคำแนะนำจากเภสัชกร ร่วมกับการติดตามการรักษาทางแอปพลิเคชั่นไลน์ พบว่า ค่า Total Cholesterol  ระหว่างก่อนทดลองกับหลังทดลอง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value=0.001)โดยค่าเฉลี่ยก่อนทดลองสูงกว่าหลังทดลอง  ค่า LDL Cholesterol (mg/dl) ระหว่างก่อนทดลองกับหลังทดลอง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value=0.001)โดยค่าเฉลี่ยก่อนทดลองสูงกว่าหลังทดลอง  ค่า HbA1C ผลการทดสอบสมมุติฐานพบว่า ค่า HbA1C ระหว่างก่อนทดลองกับหลังทดลอง
มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value=0.02)โดยค่าเฉลี่ยก่อนทดลองสูงกว่าหลังทดลอง  ส่วน  ค่า HDL Cholesterol (mg/dl) 
ค่า Triglyceride (mg/dl) ค่า fbs (mg/dl) ค่า Cr (mg/dl)  ค่า GFR (ml/min/1.73 m2) ระหว่างก่อนทดลองกับหลังทดลอง ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ดังนั้นจะเห็นได้ว่าผลการศึกษาพบว่าการติดตามผลผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นไลน์มีผลต่อการดูแลผู้ป่วยเนื่องจากได้เห็นผลทางคลินิก ดังนั้น แนวทางการบริหารด้านเภสัชกรรมควรส่งเสริมให้มีการติดตามผลผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นไลน์ เนื่องจากสะดวก ปลอดภัย และเป็นวิธีที่เหมาะกับสถานการณ์
การระบาดโควิด 19

References

World Health Organization.World Health Statistics 2006. [Online]. [1 December 2021]. Available from http://www.who.int/health/statistics/programme/en/index.html.

สมาคมเบาหวานแห่งประเทศไทย. แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน พ.ศ. 2560. กรุงเทพฯ: ศรีเมืองการพิมพ์; 2563.

สุรชัย โชคครรชิตไชย. โควิด-19: การระบาดระลอกใหม่ในประเทศไทยปลายปี 2563. วารสาร สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย 2563; 10(3) : 1 – 2.

ทรงวุฒิ สารจันทึก. เภสัชกร อีกวิชาชีพบทบาทกับการสู้โควิด-19. [ออนไลน์]. (2563). [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 27 พฤษภาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก https://www .hfocus.org/content /2020/05/19430?f bclid=IwAR2wYTgCtA7hp JFYKZu WNMsK8nIXnZT91Ybz0LlDplZvhDe4fLhRldtTw8M

สุนิดา สดากร วรนุช แสงเจริญ โพยม วงศ์ภูวรักษ์ และคณะ. ผลของการให้คำแนะนำโดยเภสัชกรในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารเภสัชศาสตร์อีสาน 2557; 10(3) : 354 – 71.

สุธาทิพย์ พิชญไพบูลย์, และสการินทร์ มีสมพืชน์. ผลลัพธ์ของการจ่ายยารักษาโรคเบาหวานต่อเนื่องโดยเภสัชกรในศูนย์สุขภาพชุมชน. Thai Pharmaceutical and Health Science Journal 2552; 4(3): 310 – 6.

Statistics on the number of patients. Wang Muang District. Saraburi Province; 2020.

จุลนี เทียนไทย. ผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมไทย. [ออนไลน์]. (2563). [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 15 มีนาคม 2563] เข้าถึงได้จาก website: https://www.ryt9.com/s/prg/3103 058

ชาญชัย บุญเชิด. การติดตามผู้ป่วยพิการ ติดเตียง มะเร็ง และการดำเนินงานเภสัชกรรมปฐมภูมิโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์ (LINE) ในเขตพื้นที่ตำบลโพนงาม หนองหมี กำแมดเทศบาลกุดชุม อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร . วารสารวิชาการสาธารณสุข 2561; 27(5): 1 – 7.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2022-09-27