ประสิทธิผลของโรงเรียนหวานน้อยวิทยาในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 คลินิกชุมชนอบอุ่นมหาชัย จังหวัดนครราชสีมา
คำสำคัญ:
โรงเรียนหวานน้อยวิทยา, โรคเบาหวานชนิดที่ 2, โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบสองกลุ่มวัดผลก่อนทดลองและหลังการทดลอง (Two-group pretest-posttest design) เพื่อประเมินประสิทธิผลของโรงเรียนหวานน้อยวิทยาในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 คลินิกชุมชนอบอุ่นมหาชัย จังหวัดนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มป่วยด้วยโรคเบาหวาน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 32 คน ได้รับโปรแกรมสุขศึกษาซึ่งประยุกต์ใช้ทฤษฎีแรงจูงใจเพื่อป้องกันโรคและกลุ่มเปรียบเทียบ จำนวน 32 คน ไม่ได้รับโปรแกรมใด ๆ ใช้ระยะเวลาในการทดลอง 12 สัปดาห์ เก็บรวบรวมข้อมูล 2 ครั้ง ก่อนและหลังการทดลองด้วยแบบสอบถาม ประกอบด้วย คุณลักษณะทั่วไป ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน การรับรู้ความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน การรับรู้โอกาสเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ความคาดหวังในผลลัพธ์ของการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน การรับรู้ความคาดหวังในสามารถของตนเองในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน การปฏิบัติตัวในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน และแบบบันทึกการตรวจระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสูงสุด และค่าต่ำสุด วิเคราะห์เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนของผลลัพธ์ด้วยสถิติ Paired t-test และ ANCOVA โดยควบคุมอิทธิพลของตัวแปรแทรกซ้อน ประกอบด้วย ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานก่อนทดลอง อายุ ระดับการศึกษา
ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีค่าคะแนนเฉลี่ยของผลลัพธ์ในด้านความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน การรับรู้ความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน การรับรู้โอกาสเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนจากการเกิดโรคเบาหวาน ความคาดหวังในผลลัพธ์ของการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ความคาดหวังในความสามารถของตนเองในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน และการปฏิบัติตัวในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และมีค่าน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) ลดลงกว่าก่อน การทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเช่นกัน (p-value<0.001) การศึกษาครั้งนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า โปรแกรมการพัฒนาพฤติกรรมป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานครั้งนี้สามารถกระตุ้นให้เกิดความกลัวต่อภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานมีประสิทธิผลในการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพได้เป็นอย่างดี
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. สถานการณ์โรคเบาหวานทั่วโลกปี 2565. [ออนไลน์]. (2565). [เข้าถึงเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก https://ddc. moph.go.th/brc/news.php? news=29611& deptcode=bro.
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. สถิติโรคเบาหวาน. [ออนไลน์]. (2565). [เข้าถึงเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567]. เข้าถึงได้จากจาก https://dmthai.org/new/index.php/sara-khwam-ru/the-chart-1/2018-02-9-00-17.34.
กรมควบคุมโรค. สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ. [ออนไลน์]. (2567). [เข้าถึงเมื่อ วันที่ 8 ตุลาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th/brc/ news.php?news=38403&deptcode=brc&news_views=2606.
สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา. เบาหวานรู้ว่าเสี่ยงรู้แล้วต้องเปลี่ยน14พฤศจิกายนวันเบาหวานโลก. [ออนไลน์]. (2566). [เข้าถึงเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก https://ddc. moph.go.th/odpc9/news.php?news=38417&deptcode=odpc9&news_views=2465.
คลินิกชุมชนอบอุ่นมหาชัย. สถานการณ์ผู้ป่วยโรคเบาหวานในคลินิกชุมชนอบอุ่นมหาชัยประจำปี 2566. นครราชสีมา : คลินิกชุมชนอบอุ่นมหาชัย; 2567.
Rogers, R. W. A Protection Motivation Theory of Fear Appeals and Attitude Change. Journal of Psychology 1975; 91(1): 93 – 114.
ละมัย ชุมแวงวาปี. แนวทางการสร้างเสริมสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวานโดยชุมชนตำบลน้ำพอง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ 2565; 38(3) : 41 - 50.
คมกริช ฤทธิ์บุรี. กลยุทธ์ในการขับเคลื่อนงานเพื่อให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานเข้าสู่ภาวะ “Remission” กรณีศึกษากลยุทธ์การขับเคลื่อน อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา. วารสารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น 2566; 5(1) : 123 – 36 .
อรุณ จิรวัฒน์กุล. ชีวสถิติสำหรับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 2. ขอนแก่น : โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา; 2548.
Polit, D.F, and Hungler, P.B. Nursing Research: Principles and Methods. 6th Edition, Philadelphia, PA; 1999.
Bloom, B.S, Madaus, G.F, & Hastings, J.T. Handbook on Formative and Summative Evaluation of Student Learning. Science Research 1971; 6(20): 2117-26.
Kiess, H.O. Statistical concepts for the behavioral sciences. Cambridge: Cambridge University;1989.
สมฤดี สุขอุดม. รูปแบบการประยุกต์ทฤษฎีความสามารถ ตนเองร่วมกับกระบวนการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมของกลุ่มเพื่อนในการทิ้งและลดยาเบาหวานของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา 2566; 18(2) : 17 – 30.
สำเนาว์ ใจโต. ประสิทธิผลของโปรแกรมลดน้ำหนักแบบเข้มข้นในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ใช้ยาชนิดกินต่อการเข้าสู่โรคเบาหวานระยะสงบ ในโรงพยาบาลปะทิว จังหวัดชุมพร. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน 2567; 9(3): 429 – 38.
นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์. ทำการศึกษาผลลัพธ์ดําเนินงานตามยุทธศาสตร์การดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวานจังหวัดนครราชสีมาภายใต้กลยุทธ์ “PLEASE model”. วารสารสุขศึกษา 2565;45(1):24 – 39.
ชูสง่า สีสัน และธณกร ปัญญาใสโสภณ. ประสิทธิผลของโปรแกรมความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลปักธงชัย. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีษะเกษสุรินทร์บุรีรัมย์ 2564;36 (3) :519 – 32.
ศุภวรรณ ยอดโปร่ง และลัฆวี ปิยะบัณฑิตกุล. ทำการศึกษาการพัฒนาโรงเรียนเบาหวานโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ 2561; 36 (2): 185 – 95.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กระทรวงสาธารณสุข
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และบุคลากรท่านอื่นๆในสำนักงานฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว