Predicting Factors of Intent to Stay among Professional Nurses in a University Hospital
Main Article Content
Abstract
Purpose: The aim of this study was to determine the predictors of intent to stay among professional nurses at a university hospital.
Design: Correlational predictive study.
Methods: The participants included 212 professional nurses having worked for more than one year in a tertiary hospital, a clinical setting for nurse students from Faculty of Nursing Mahidol University. Data were collected using a set of questionnaires consisting of a demographic data form and the questionnaire asking about factors influencing the nurse’s intent to stay. The factors included job characteristics, organizational climate, organizational commitment, quality of work life, and organizational culture. Stepwise multiple regression analysis was used for data analysis.
Main findings: The study results indicated that 25.2% (R2 = .252, F = 14.687, p < .001) of the intent to stay of the nurses in the next year could be predicted by the following factors: 1) welfare services for family members, 2) the timing of night shift, 3) organizational commitment, and 4) quality of work life. In addition, 26.2% (R2 = .262, F = 16.360, p < .001) of the intent to stay of the nurses in the next 3 years could be predicted by the following factors: 1) welfare services for family members, 2) the timing of night shift, 3) work experience, and 4) organizational climate.
Conclusion and recommendations: The study findings should be used as significant information for the hospital and nursing administrators to plan a strategy for motivating the professional nurses to stay in their workplace.
Keywords: intend to stay, professional nurses, university hospital
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาปัจจัยทำนายความต้องการอยู่ในงานของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
รูปแบบการวิจัย: การศึกษาความสัมพันธ์เชิงทำนาย (correlational predictive study)
วิธีดำเนินการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพ ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงพยาบาล แหล่งฝึกปฏิบัติของนักศึกษาพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 212 คน จากการสุ่มตัวอย่าง โดยเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามซึ่งประกอบด้วยแบบสอบถามปัจจัยส่วนบุคคล และแบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการอยู่ในงาน ซึ่งประกอบด้วย 5 ปัจจัย คือ ปัจจัยด้านลักษณะงาน ปัจจัยด้านบรรยากาศขององค์การ ปัจจัยด้านความผูกพันต่อองค์การ ปัจจัยด้านคุณภาพชีวิตการทำงาน และปัจจัยด้านวัฒนธรรมองค์การ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัย: ปัจจัยเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวได้ใช้สิทธิ์จากสวัสดิการในหน่วยงาน ระยะเวลาการปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยในเวรดึก ความผูกพันต่อองค์การ และคุณภาพชีวิตในการทำงานสามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนความต้องการอยู่ในงานของกลุ่มตัวอย่างในระยะ 1 ปีข้างหน้าได้ร้อยละ 25.2 (R2 = .252, F = 14.687, p < .001) และปัจจัยเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวได้ใช้สิทธิ์จากสวัสดิการในหน่วยงาน ระยะเวลาการปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยในเวรดึก ประสบการณ์การทำงาน และบรรยากาศในองค์การสามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนความต้องการอยู่ในงานของกลุ่มตัวอย่างในระยะ 3 ปีข้างหน้าได้ร้อยละ 26.2 (R2 = .262, F = 16.360, p < .001)
สรุปผลและข้อเสนอแนะ: ผลการศึกษาสามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลสำคัญสำหรับผู้บริหารโรงพยาบาลในการวางแผนกลยุทธ์ที่จะจูงใจให้พยาบาลวิชาชีพยังคงอยู่ในองค์การต่อไป
คำสำคัญ: ความต้องการอยู่ในงาน พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย
Article Details
Copyright Notice: Nursing Science Journal of Thailand has exclusive rights to publish and distribute the manuscript and all contents therein. Without the journal’s permission, the dissemination of the manuscript in another journal or online, and the reproduction of the manuscript for non-educational purpose are prohibited.
Disclaimer: The opinion expressed and figures provided in this journal, NSJT, are the sole responsibility of the authors. The editorial board bears no responsibility in this regard.