พยาบาลจัดการรายกรณีเบาหวาน กองการพยาบาล รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ

Main Article Content

Saipin Pinkaew, M.N.S., CDE

บทคัดย่อ

 


            เบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อย ผู้ที่เป็นเบาหวานต้องมีการตัดสินใจจัดการตนเองในชีวิตประจำวันที่หลากหลาย และปฏิบัติกิจกรรมดูแลตนเองที่ซับซ้อน ข้อมูลของห้องตรวจอายุรกรรม รพ.ภูมิพลอดุลยเดช แสดงให้เห็นว่ามีผู้ป่วยเบาหวาน มาตรวจตามนัดประมาณ 3,000 คน และร้อยละ 15.15 มีระดับน้ำตาลสะสมมากกว่า 9 % 


            พยาบาลจัดการรายกรณีเบาหวานได้ปฏิบัติงานด้วยความร่วมมือกับทีมวิชาชีพสุขภาพ ในการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ที่คุมระดับน้ำตาลไม่ได้  3 กลุ่มหลัก  ได้แก่ 1) คลินิกเบาหวาน  2) ห้องตรวจอายุรกรรม เลือกผู้ป่วยที่ระดับน้ำตาลสะสมมากกว่า 10 % นานเกิน 1 ปี และไม่ได้ตรวจตามนัดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบต่อมไร้ท่อ  ยกเว้นผู้ป่วย โรคไตวายระยะสุดท้ายและมี ภาวะติดเชื้อเฉียบพลัน  และ 3) ผู้ป่วยในหออายุรกรรม 8/2 และ 8/4 วิธีการสำหรับผู้ป่วยนอก คือการส่งเสริมการจัดการ ตนเองด้วยการตรวจติดตามระดับน้ำตาลปลายนิ้วที่บ้าน  ทบทวนการใช้ยาเม็ดเบาหวานและอินซูลิน  และส่งเสริมภาวะโภชนาการ โดยเน้นผู้ป่วยที่มีดัชนีมวลกายต่ำกว่าเกณฑ์และมีรายได้น้อย วิธีการสำหรับผู้ป่วยในคือ การส่งเสริมภาวะโภชนาการ โดยเน้น ผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลต่ำในเลือดระหว่างอยู่ รพ. และการป้องกันการกลับมารักษาซ้ำด้วยภาวะน้ำตาลต่ำในเลือด รุนแรงใน 28 วันหลังจำหน่ายออกจาก รพ. รวมถึงการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย


            ผลการดำเนินการแต่ละกลุ่ม มีดังนี้ 1) ร้อยละผู้ป่วยเบาหวานที่ระดับน้ำตาลสะสมลดลงมากกว่า 0.2 % ในระยะ


3-6 เดือนที่มารับบริการในคลินิกเบาหวาน ตั้งแต่ ม.ค. 2560 ถึง มิ.ย. 2562 เป็นร้อยละ 80.7, 84.1, 80.0, 85.8 และ 76.6 ตามลำดับ           2) มีผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 70 คน ที่เลือกในห้องตรวจอายุรกรรม ระหว่าง พ.ค.-ส.ค. 2560 ค่าระดับน้ำตาลสะสม เฉลี่ยเมื่อเริ่มกิจกรรมเป็น 11.31 % (S.D.1.08) หลังทำกิจกรรมนัดที่ 1 (2-3 เดือนต่อมา) ค่าน้ำตาลสะสมเฉลี่ยเป็น 10.13 % (S.D.1.80) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 และหลังทำกิจกรรมนัดที่ 2 (4-6 เดือนต่อมา) ค่าน้ำตาลสะสมเฉลี่ยเป็น


9.65 % (S.D.1.82) ลดลงจากเริ่มกิจกรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 (มีผู้ป่วย 60, 100 และ 102 คนในกลุ่มต่อมา) และ 3) สำหรับผู้ป่วยใน รพ. ตั้งแต่ ม.ค. 2560 ถึง มี.ค. 2562 ช่วงเวลาทุก 3 เดือน  ผู้ป่วยเบาหวานที่เกิดภาวะน้ำตาลต่ำรุนแรงใน เลือด              (POCT<50mg %) ระหว่างอยู่ รพ. มีอุบัติการณ์เฉลี่ยเป็น 2.3, 2.4, 4.2, 4.3, 2.9, 2.4, 2.1, 2.4, 1.8 และ 1.7 ครั้ง/ราย  และ ร้อยละผู้ป่วยเบาหวานกลับมารักษาซ้ำด้วยภาวะน้ำตาลต่ำรุนแรงในเลือด   หลังจำหน่ายใน 28 วัน  เป็น 12.5, 23.5, 3.1, 13.7, 3.3, 9.5, 8.0, 12.5, 10.8 และ 6.6 ซึ่งทั้งสองมีแนวโน้มลดลงตามลำดับ


            ผลการดำเนินงานของพยาบาลจัดการรายกรณีเบาหวาน  แสดงว่ามีผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลใน เลือดได้หลายรายมีระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้ แผนการดำเนินงานต่อไปคือติดตามต่อเนื่องผู้ป่วยกลุ่มเดิม และลงทะเบียน ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานระยะ 5 ปีแรก  ด้วยการพัฒนาโปรแกรมเรียนรู้การจัดการตนเองสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน  การเพิ่มความร่วมมือ ในการใช้ยาให้มากขึ้นเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานในอนาคต

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ปิ่นแก้ว ส. (2019). พยาบาลจัดการรายกรณีเบาหวาน กองการพยาบาล รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ. แพทยสารทหารอากาศ, 65(3), 20–26. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/rtafmg/article/view/236339
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

1. กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. รายงานการสำรวจ
สุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557. [Internet], 2560 [สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2562]. สืบค้นจาก
http://www.thaitgri.org
2. American Association of Diabetes Educators. Fostering Medication Adherence Tips and Tricks. [Internet], 2019
[cited 2019 October 3]. Available from : http://www. diabeteseducator.org/Fostering_med_
adherance.pdf.Tips and tricks.
3. American Association of Diabetes Educators. Strategies for Insulin Injection Therapy in Diabetes Self-
Management. [Internet], 2011[cited 2019 October 3]. Available from : http://www.diabeteseducator.org
4. ลาวัลย์ กิจรุ่งเรืองกุล. ผลลัพธ์ของโปรแกรมการจัดการตนเองที่มีต่อพฤติกรรมความร่วมมือในการใช้ยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่องในผู้ติด
เชื้อเอช ไอ วี และผู้ป่วยโรคเอดส์. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยคริสเตียน. 2555.
5. Powers MA, et al. Diabetes Self-management Education and Support in Type 2 Diabetes: A Joint Position
Statement of the American Diabetes Association, the American Association of Diabetes Educators, and the
Academy of Nutrition and Dietetics. Diabetes Educ. 2014 Jan-Feb; 40(1):122-4.
6. Seley JJ, et al. Diabetes Inpatient Management. Diabetes Educ. 2012 Jan-Feb; 38(1):142-6.
7. สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยในพระบรม ราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมาคมต่อมไร้ท่อแห่ง
ประเทศไทย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน
2560. พิมพ์ครั้งที่ 3. ปทุมธานี: ร่มเย็นมีเดีย; 2560.
8. ศิริอร สินธุ. การจัดการรายกรณีโรคเรื้อรังค่าใช้จ่ายสูง. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: วัฒนาการพิมพ์: 2561.