การเปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกันและความปลอดภัยในการฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 เข็มที่ 3 ในบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีน CoronaVac มาแล้ว 2 เข็ม
Main Article Content
บทคัดย่อ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา: วัคซีนไวรัสโคโรนา 2019 ชนิดเชื้อตายของบริษัทSinovac Life Sciences (CoronaVac) ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในบุคลากรทางการแพทย์ของประเทศไทย แต่การระบาดของสายพันธ์เดลต้าทำให้เกิดความกังวลเรื่องประสิทธิภาพของ CoronaVac และได้มีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 โดยใช้วัคซีน viral vector หรือmRNA ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ได้รับ CoronaVac ครบ 2 เข็ม การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกันและความปลอดภัยหลังการให้วัคซีนกระตุ้นเข็มที่สามในบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) กรมแพทย์ทหารอากาศ
วิธีดำเนินการวิจัย: บุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สามและยินยอมเข้าร่วมการศึกษาจะได้รับการตรวจหาระดับของภูมิคุ้มกัน Immunoglobulin class G (IgG) ต่อ SARS-CoV-2 spike protein ก่อนและ 4 สัปดาห์หลังฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3
ผลการวิจัย: มีบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) เข้าร่วมการศึกษาทั้งสิ้น 131 ราย โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีน viral vector ของบริษัท AstraZeneca 57 ราย และได้รับวัคซีน mRNA ของบริษัท Pfizer-BioNTech จำนวน 74 ราย โดยที่อาสาสมัครทั้ง 2 กลุ่มไม่มีความแตกต่างกันในด้านของข้อมูลพื้นฐาน ยกเว้นกลุ่มที่ได้รับวัคซีน mRNA จะมีอายุน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในส่วนของระดับภูมิคุ้มกันนั้น พบว่าระดับแอนติบอดีต่อ spike protein สามารถเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญได้ในทั้งสองกลุ่ม โดยกลุ่มที่ได้รับวัคซีน mRNA จะมีระดับที่เพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่ม viral vector (22,663 ± 10,999.5 เทียบกับ9,900.5 ± 10,788.9 AU/ml, p < 0.001) ในด้านของอาการไม่พึงประสงค์นั้นพบว่าทั้ง 2 กลุ่มไม่แตกต่างกันและไม่มีอาการรุนแรง
สรุป: ในบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีน CoronaVac 2 เข็ม การฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 จากทั้งวัคซีน viral vector และ mRNA นั้นมีประสิทธิภาพ โดยที่วัคซีน mRNA จะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในระดับที่สูงกว่า ในขณะที่อาการไม่พึงประสงค์มีน้อยถึงปานกลาง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพฺเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค. รายงาน COVID-19 ประจำวัน ข้อมูลประจำประเทศไทย. 24 กรกฎาคม 2564.
[Available from: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/situation.php]
WHO. Coronavirus disease (COVID-19): Vaccines. 2020.
[Available from: https://www.who.int/news-room/questions-and-answers/item/coronavirus-disease-(covid-19)-vaccines]
กรมควบคุมโรค แนวทางการให้วัคซีนโควิด 19 ในสถานการณ์การระบาด ปี 2564 ของประเทศไทย ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2 สิงหาคม 2564
[Available from: https://ddc.moph.go.th/vaccine-covid19/getFiles/11/1628849610213.pdf]
Tanriover MD, Doğanay HL, Akova M, et al. Efficacy and safety of an inactivated whole-virion SARS-CoV-2 vaccine (CoronaVac):
interim results of a double-blind, randomised, placebo-controlled, phase 3 trial in Turkey. Lancet 2021;398:213-22.
Jara A, Undurraga EA, González C, et al. Effectiveness of an Inactivated SARS-CoV-2 Vaccine in Chile. N Engl J Med. 2021;385(10):875-
Poovorawan Y. Unpublished data [Available from: https://www.facebook.com/photo?
fbid=6018865244822709&set=a.192552250787400]
Immunoassay for the quantitative determination of antibodies to the SARS-CoV-2 spike protein [Available from:
https://diagnostics.roche.com/global/en/products/params/elecsys-anti-sars-cov-2-s.html.]
ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รายงานผลการวิจัยเบื้องต้นในการศึกษาความปลอดภัยและการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีน
กระตุ้นเข็ม 3 ในผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบสองเข็ม [Available from: https://sicres.org/2021/09/13/covid19-vaccine-booster/]