การตั้งค่าปริมาณรังสีที่เหมาะสมในการถ่ายภาพรังสีช่องท้องด้วยเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ระบบดิจิทัล
คำสำคัญ:
ปริมาณรังสีที่เหมาะสม, เอกซเรย์เคลื่อนที่ระบบดิจิทัล, ภาพถ่ายทางรังสีช่องท้อง, ค่าปริมาณรังสีผ่านเข้าผิวบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพเอกซเรย์ช่องท้องด้วยเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ระบบดิจิทัลที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยทดสอบในหุ่นจำลองที่มีขนาดความหนาของช่องท้อง 21 เซนติเมตร ตั้งค่าพารามิเตอร์โดยใช้ค่าเควีพีระหว่าง 70 ถึง 90 และค่าเอ็มเอเอสตั้งแต่ 3.2, 6.3, 12.5, 25.0 และ 32.0 จัดระยะห่างจากหลอดเอกซเรย์ถึงตัวรับภาพ 100 เซนติเมตร วัดค่าปริมาณรังสีผ่านที่ผิวของหุ่นจำลองที่ได้รับโดยใช้หัววัดยี่ห้อ Radcal รุ่น ACCU-Gold และประเมินคุณภาพของภาพเอกซเรย์ในเชิงคุณภาพจากองค์ประกอบของภาพรังสีช่องท้องตามมาตรฐานของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ และระดับของสัญญาณรบกวนโดยผู้ประเมินผล 3 ท่าน ประเมินคุณภาพของภาพถ่ายรังสีช่องท้องในเชิงปริมาณของภาพในรูปแบบของอัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน (เอสเอ็นอาร์) 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ตับ, กระดูกสันหลังส่วนบั้นเอวระดับที่ 4 บริเวณทรานซ์เวอร์สโปรเซส, และกระดูกสะโพก และประเมินอัตราส่วนความคมชัดบนภาพต่อสัญญาณรบกวน (ซีเอ็นอาร์) ใน 3 บริเวณ ได้แก่ บริเวณตับ, บริเวณไตข้างซ้ายกับกระดูกสันหลังส่วนบั้นเอวระดับที่ 4 บริเวณ บริเวณทรานซ์เวอร์สโปรเซส, และบริเวณไตข้างขวากับกระดูกสะโพก ผลการศึกษาพบว่าค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพรังสีช่องท้องโดยเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ระบบดิจิทัลในหุ่นจำลองที่มีขนาดความหนาของช่องท้องไม่เกิน 21 เซนติเมตร คือ 80 เควีพี และ 6.3 เอ็มเอเอส โดยให้ค่าดัชนีชี้วัดปริมาณรังสีเท่ากับ 381 ในส่วนของคะแนนเฉลี่ยจากการประเมินคุณภาพของภาพและระดับของสัญญาณรบกวนจากผู้ประเมิน 3 ท่านมีค่าเท่ากับ 5.67 และ 1 คะแนนตามลำดับ จากการเปรียบเทียบปริมาณรังสีดูดกลืนที่ผิวของหุ่นจำลองของค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสมกับค่าพารามิเตอร์ที่ใช้ในทางคลินิกพบว่าการใช้ค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพรังสีช่องท้องที่ความหนา 21 เซนติเมตร ปริมาณรังสีที่ผิวของหุ่นจำลองลดลงร้อยละ 77 โดยยังคงสามารถรักษาคุณภาพของภาพเพื่อการวินิจฉัยไว้ได้
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Seibert JA, Morin RL. The standardized exposure index for digital radiography: an opportunity for optimization of radiation dose to the pediatric population. Pediatr Radiol 2011;41:573-581.
Uffmann M, Schaefer-Prokop C. Digital radiography: the balance between image quality and required radiation dose. Eur J Radiol 2009;72:202-208.
Moore QT, Don S, Goske MJ, Strauss KJ, Cohen M, Herrmann T, et al. Image gently: using exposure indicators to improve pediatric digital radiography. Radiol Technol 2012;84:93-99.
Sangdao P. Optimization of radiation dose and image quality in chest radiography using digital mobile x-ray system at King Chulalongkorn Memorial Hospital [Thesis]. Bangkok: Chulalongkorn University; 2014.
International Atomic Energy Agency. Dosimetry in diagnostic radiology: An international code of practice. Technical report series (TRS) 457. Vienna, Austria 2007.
International Atomic Energy Agency. Radiation protection in digital radiology. Examples of good and bad image quality images with quality evaluation (projection radiography).
Aldrich JE, Duran E, Dunlop P, Mayo JR. Optimization of dose and image quality for computed radiography and digital radiography. J Digit Imaging 2006;19:126-131.
GE Healthcare. DEI (Detector Exposure Indicator). Optima XR200amx X-Ray System with Digital Upgrade Operator Manual 2012:14-41-14-44.
Muhogora WE, Ahmed NA, Almosabihi A, Alsuwaidi JS, Beganovic A, Ciraj-Bjelac O, et al. Patient doses in radiographic examinations in 12 countries in Asia, Africa, and Eastern Europe: initial results from IAEA projects. AJR Am J Roentgenol 2008;190:1453-61.
Shepard SJ, Wang J, Flynn M, Gingold E, Goldman L, Krugh K, et al. An exposure indicator for digital radiography: AAPM Task Group 116 (executive summary). Med Phys 2009;36:2898-914.
Asada Y, Suzuki S, Minami K, Shirakawa S, Kobayashi M. Survey of patient exposure from general radiography and mammography in Japan in 2014. J Radiol Prot 2016;36:N8-N18.
Masoud AO, Muhogora WE, Msaki PK. Assessment of patient dose and optimization levels in chest and abdomen CR examinations at referral hospitals in Tanzania. J Appl Clin Med Phys 2015;16:5614.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมรังสีเทคนิคแห่งประเทศไทย (The Thai Society of Radiological Technologists)
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสมาคมรังสีเทคนิคแห่งประเทศไทยและบุคคลากรท่านอื่น ๆในสมาคม ฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว

