การศึกษาระดับปริมาณรังสีอ้างอิงสำหรับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมระบบดิจิทัล ณ ศูนย์ถันยเวชช์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
คำสำคัญ:
ระดับปริมาณรังสีอ้างอิง, ปริมาณรังสีเฉลี่ยที่ต่อมน้ำนม, ปริมาณรังสีผ่านเข้าผิว, ความหนาของเต้านมที่ถูกบีบอัด, ระดับแรงกดทับเต้านมบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาระดับปริมาณรังสีอ้างอิงสำหรับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านมระบบดิจิทัล ณ ศูนย์ถันยเวชช์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ในเครื่องเอกซเรย์เต้านมระบบดิจิทัล
วิธีการศึกษา: ทำการเก็บข้อมูลผู้ป่วยเพศหญิงจำนวน 400 คนในช่วงอายุเฉลี่ยระหว่าง 40-75 ปี โดยมีความหนาของเต้านมเฉลี่ยระหว่าง 40-69 มิลลิเมตร ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2561 ถึง 30 กันยายน 2562 ณ ศูนย์ถันยเวชช์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์โดยแบ่งออกเป็นระบบการถ่ายภาพแบบ 2 มิติ จำนวน 200 คน และระบบการถ่ายภาพแบบ Combo จำนวน 200 คน โดยเก็บข้อมูลได้แก่ ปริมาณรังสีเฉลี่ยที่ต่อมน้ำนม (AGD) (มิลลิเกรย์), ปริมาณรังสีที่ผิว (ESAK) (มิลลิเกรย์), ความหนาของเต้านมที่ถูกบีบอัด (มิลลิเมตร), ระดับแรงกดทับเต้านม (นิวตัน), ค่ากิโลโวลเตจสูงสุด, ค่ากระแสเวลาของเครื่องเอกซเรย์เต้านม, ชนิดของเป้าหลอดเอกซเรย์และตัวกรองรังสี (W/Rh, W/Ag), อายุของผู้ป่วย (ปี) ในท่า Right cranio-caudal view, Left cranio-caudal view, Right medio-lateral view, Left medio-lateral view
ผลการศึกษา: พบว่าปริมาณรังสีเฉลี่ยที่ต่อมน้ำนมที่เปอร์เซนไทล์ที่75ของระบบการถ่ายภาพแบบ 2 มิติที่ความหนาเต้านม 40-69 มิลลิเมตร มีค่าเท่ากับ 2.07 มิลลิเกรย์ และปริมาณรังสีเฉลี่ยที่ต่อมน้ำนมที่เปอร์เซนไทล์ที่ 75 ของระบบการถ่ายภาพแบบ Combo ที่ความหนาเต้านม 40-69 มิลลิเมตรมีค่าเท่ากับ 2.14 มิลลิเกรย์ โดยปริมาณรังสีเฉลี่ยที่ต่อมน้ำนมในระบบการถ่ายภาพแบบ 2 มิติ จำนวน 800 ท่า มีค่าที่ได้ปริมาณรังสีเกินเปอร์เซนไทล์ที่ 75 ร้อยละ 33 และปริมาณรังสีเฉลี่ยที่ต่อมน้ำนมในระบบการถ่ายภาพแบบ Combo จำนวน 800 ท่า มีค่าที่ได้ปริมาณรังสีเกินเปอร์เซนไทล์ที่ 75 ร้อยละ 33
สรุปผลการศึกษา: ค่าระดับปริมาณรังสีอ้างอิงของระบบการถ่ายภาพเอกซเรย์เต้านม ณ ศูนย์ถันยเวชช์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ แบบ 2 มิติ มีค่าเท่ากับ 2.07 มิลลิเกรย์ ค่าระดับปริมาณรังสีอ้างอิงของระบบการถ่ายภาพแบบ Combo มีค่าเท่ากับ 2.14 มิลลิเกรย์ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับผู้เข้ารับบริการการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม เนื่องจากค่าระดับปริมาณรังสีอ้างอิง (DRL) มีค่าไม่เกินปริมาณรังสีที่กำหนดตามมาตรฐานโดย International Commission on Radiological Protection (ICRP) ที่ 3 มิลลิเกรย์ต่อภาพ
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Joachim D, Sabine B, Johann Friedrich D. Segmentation of microcalcification in mammogram. IEEE Trans: Medical Imaging, 1993;(6): 34-642.
Richardson W.B., Apply wavelets to mammograms. IEEE Engineering: Medicine and Biology Magazine, 1995;(10):551-560.
Yala A, Schuster T, Barzilay R. A Deep Learning Mammography-based Model for Improved Breast Cancer Risk Prediction. Radiology, 2019;(292):60-66.
Valvano G, Santini G, Martini N, Ripoli A. Convolutional Neural Networks for the Segmentation of Microcalcification in Mammography Imaging. Journal of Healthcare Engineering, 2019.
Yala A, Schuster T, Barzilay R. A Deep Learning Mammography-based Model for Improved Breast Cancer Risk Prediction. Radiology, 2019;(292):60-66.
International Atomic Energy Agency, human health series no 17. Quality Assurance Program for digital mammography, 2011.
American College of Radiology. Mammography Quality Control Manual Mammography Phantom Image Quality Evaluation, 1999.
Mckinney SM, Sieniek M, Godbole V, Godwin J, Antropova N, Ashrafian H. International evaluation of an AI system for breast cancer screening. Nature, 2020;(557):89-94.
Moayyad E. Suleiman, Mark F. McEntee, Lucy Cartwright, Jennifer Diffey, Patrick C Brennan. Diagnostic reference levels for digital mammography in New South Wales. Journal of Medical Imaging and Radiation Oncology. 61; 2017. p. 48-57.
พิมพ์อร เจริญพานิช, ลักษมณ พิมลอัศวคุณ. การหาปริมาณรังสีอ้างอิงในการถ่ายภาพรังสีเต้านมด้วยระบบดิจิทัลของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สภากาชาดไทย โดยศึกษาในกลุ่มประชากรที่แตกต่างกัน [วิทยานิพนธ์]. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2562.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมรังสีเทคนิคแห่งประเทศไทย (The Thai Society of Radiological Technologists)
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสมาคมรังสีเทคนิคแห่งประเทศไทยและบุคคลากรท่านอื่น ๆในสมาคม ฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว

