การศึกษาปัญหาที่พบในการทำการควบคุมคุณภาพประจำวันสำหรับเครื่องคลื่นสะท้อนในสนามแม่เหล็กในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ผู้แต่ง

  • ชลธิชา เลิศคอนสาร สาขารังสีวินิจฉัย ฝ่ายรังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กรุงเทพมหานคร 10330
  • บุญชัย นิตยสุภาภรณ์ สาขารังสีวินิจฉัย ฝ่ายรังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กรุงเทพมหานคร 10330
  • อังคณา สุนทรรัมย์ สาขารังสีวินิจฉัย ฝ่ายรังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กรุงเทพมหานคร 10330

คำสำคัญ:

เครื่องคลื่นสะท้อนในสนามแม่เหล็ก, การควบคุมคุณภาพ, ความถี่กลาง

บทคัดย่อ

การตรวจด้วยการใช้เครื่องคลื่นสะท้อนในสนามแม่เหล็ก (Magnetic resonance imaging: MRI) เป็นการตรวจที่ไม่ได้รับรังสีและสามารถสร้างภาพที่ให้รายละเอียดของอวัยวะต่างๆได้ชัดเจน ซึ่งการตรวจสอบคุณภาพและความพร้อมก่อนการใช้งานถือได้ว่าเป็นการควบคุมคุณภาพเครื่องประการหนึ่ง เพื่อป้องกันการเกิดความผิดปกติหรือตรวจพบปัญหาที่จะเกิดขึ้นก่อนการปฏิบัติงานและในระหว่างการสแกนภาพของการตรวจ ดังนั้นการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องและการควบคุมคุณภาพจึงมีความสำคัญมาก วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อการตรวจสอบคุณภาพและความพร้อมในการใช้เครื่องก่อนเริ่มปฏิบัติงานของเครื่องคลื่นสะท้อนในสนามแม่เหล็กบริษัท Siemens รุ่น AERA 1.5 เทสล่า ของฝ่ายรังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 ข้อมูลจะแบ่งออกเป็นสองชุด ชุดแรกเป็นการเก็บข้อมูลของพารามิเตอร์ ได้แก่ ระดับของฮีเลียมเหลว (Helium fill level) ความถี่กลาง (Center frequency: CF) ของคลื่นวิทยุ อุณหภูมิของน้ำปฐมภูมิ (Primary water temperature) และระบบการไหลของน้ำปฐมภูมิ (Primary water flow) และข้อมูลชุดที่สอง เป็นการเก็บความผิดปกติหรือปัญหาที่เกิดขึ้น ผลการเก็บข้อมูลชุดแรก พบว่าระดับของฮีเลียมเหลว ความถี่กลาง และระบบการไหลของน้ำ อยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนข้อมูลของอุณหภูมิของน้ำในเครื่อง พบความผิดปกติที่ไม่ผ่านเกณฑ์ คือ มีค่าต่ำกว่าเกณฑ์  9.0 °C คิดเป็นร้อยละ 1.5 ผลการเก็บข้อมูลชุดที่สองพบว่ามีความผิดปกติหรือปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด 9 ครั้ง ได้รับแก้ไขเบื้องต้นได้ 4 ครั้ง (ร้อยละ 44.4) ได้รับการแก้ไขจากช่างประจำเครื่อง 5 ครั้ง (ร้อยละ 55.6) โดยสรุปแล้วการตรวจสอบคุณภาพและความพร้อมก่อนการใช้งานของเครื่องคลื่นสะท้อนในสนามแม่เหล็กนี้เป็นสิ่งจำเป็นและนักรังสีการแพทย์เป็นบุคคลที่สำคัญในการทำประกันคุณภาพ ซึ่งสามารถระบุปัญหาความผิดปกติต่างๆ ได้ก่อน และการแก้ไขปัญหานั้นๆ ให้เป็นปกติก่อนที่จะเกิดปัญหาร้ายแรง

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

McGowan JC. Basic Principles of Magnetic Resonance Imaging. Neuroimaging Clin N Am. 2008;18(4): 623–636

Maehara T. MRI: Imaging techniques and clinical indications. Brain Nerve. 2002;54(10): 841-849

Chen CC, et al. Quality assurance of clinical MRI scanners using ACR MRI phantom: Preliminary results. Journal of Digital Imaging, 2004. 17(4): 279-284

Cloud based Documentation. Planning guide. SIEMENS Heathineers. 2009; 11-30

ปนัสดา อวิคุณประเสริฐ, เพชรากร หาญพานิชย์, จีรานุช จําปา, พันธุ์ศักดิ์ สีมูล, ศรัณยา จารุชัยนิวัฒน์ และวุฒิศักดิ์ บุญผ่องเสถียร. การควบคุมคุณภาพเครื่องเอ็มอาร์ไอโดยใช้เนื่อเยื่อจำลอง ACR phantom. KKU Res. J. 2013; 18: 897-908

Lerski RA, de Certaines JD. Performance assessment and quality control in MRI by eurospin test objects and protocols. Magn Reson Imaging 1993; 11: 817-833

Price RR, Axel L, Morgan T, Newman R, Perman W, Schneiders N, et al. Quality assurance methods and phantoms for magnetic resonance imaging: report of AAPM nuclear magnetic resonance task group no 1. Med Phys. 1990; 17:287-295

Seemoon P, Boonphongsathian W, Thammagul S, Jaruchainiwat S, Hanpanich P. Evaluation of image quality from three radiofrequency coils: ACR-MRI phantom study. Thai J Rad Tech 2018; (46)1: 29-35

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-12-24

รูปแบบการอ้างอิง

1.
เลิศคอนสาร ช, นิตยสุภาภรณ์ บ, สุนทรรัมย์ อ. การศึกษาปัญหาที่พบในการทำการควบคุมคุณภาพประจำวันสำหรับเครื่องคลื่นสะท้อนในสนามแม่เหล็กในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์. Thai J Rad Tech [อินเทอร์เน็ต]. 24 ธันวาคม 2021 [อ้างถึง 28 ธันวาคม 2025];46(1):62-8. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/tjrt/article/view/252685

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ