ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ของประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชตำบลหัวเรือ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
คำสำคัญ:
พฤติกรรม, สารเคมีกำจัดศัตรูพืช, ประชาชนกลุ่มเสี่ยงบทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวางโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมป้องกันสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและ เพื่อหาตัวแปรพยากรณ์ที่ดีของพฤติกรรมการป้องกันสารเคมีกำจัดศัตรูพืช กลุ่มตัวอย่างเป็นเป็นเกษตรกร กลุ่มเสี่ยง จำนวน 300 คน ซึ่งได้จากการสุ่มอย่างง่ายตามสัดส่วนจำนวนประชากรที่ศึกษาในแต่ละหมู่บ้านของตำบลหัวเรือ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสัมประสิทธิ์ถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1. ปัจจัย 6 ปัจจัย ได้แก่ ทัศนคติต่อการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ระยะเวลาการใช้สารเคมี ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือนสถานภาพสมรส และความรู้เรื่องสารเคมีกำจัดศัตรูพืชมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 2. ตัวแปรพยากรณ์ที่ดีของพฤติกรรมการป้องกันสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เรียงตามลำดับดังนี้ ทัศนคติต่อการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ระยะเวลาการใช้สารเคมี ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือนสถานภาพสมรส และความรู้เรื่องสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
เอกสารอ้างอิง
จีระศักดิ์ เจริญพันธ์. (2553). การจัดการสาธารณสุขในชุมชน. พิมพ์ครั้งที่ 9. มหาสารคาม: สารคามการพิมพ์-สารคามเปเปอร์.
ชัชฎากร ละทะโล. (2555). ปัจจัยส่วนบุคคลและพฤติกรรมการใช้สารเคมีกาจัดศัตรูพืชของเกษตรกรในตำบลนาทะนุงอำเภอนาหมื่นจังหวัดน่าน. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการส่งเสริมสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
เด็ดเดี่ยว วรรณชาลี. (2553). ผลของโปรแกรมแรงจูงใจเพื่อป้องกันโรคร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมต่อการใช้สารเคมีกาจัดศัตรูพืชของเกษตรกร อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์. วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการระบบสุขภาพ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ทรงศร วงศ์พรหม. (2553). ผลของการวางแผนแบบมีส่วนร่วมของชุมชนในการใช้สารเคมีกาจัดศัตรูพืชที่ถูกต้องและปลอดภัย : กรณีศึกษาเกษตรกรผู้ปลูกพริกบ้านซับเจริญ ตำบลแหลมทอง อำเภอภักดีชุมพลจังหวัดชัยภูมิ. ชัยภูมิ : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ.
ประภามาศ อินทราเครือ. (2553). การจัดการปัญหาสุขภาพตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเกษตรกรชาวเขาเผ่าม่งที่สัมผัสสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการส่งเสริมสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สุภาพร นามวงศ์. (2553). กระบวนการกำหนดนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพอย่างมีส่วนร่วมในการลดการใช้สารเคมีกาจัดศัตรูพืชของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดง อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ. วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการระบบสุขภาพ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สิทธิเวช วิจิตร. (2554).ผลของกระบวนการเสริมสร้างพลังอานาจต่อการรับรู้และพฤติกรรม การใช้สารกำจัดศัตรูพืช-สัตว์ ของเกษตรกรชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ตำบลบ้านกาศ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน. การค้นคว้าแบบอิสระสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย หาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร. (2554). รายงานสรุปการนำเข้าวัตถุอันตรายทางการเกษตร ปี พ.ศ. 2548-2553.กรุงเทพฯ : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.
สุภาพร ใจการุณ. (2556). “สารเคมีกาจัดศัตรูพืชตกค้างในอาหารท้องถิ่น,” วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 6, 3 (กรกฎาคม–กันยายน) : 122–129.
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองอุบลราชธานี. (2556). เอกสารการสรุปผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดการทำงาน พ.ศ.2556. อุบลราชธานี: กระทรวงสาธารณสุข.
สาคร มีสุข. (2556). ผลกระทบจากการใช้สารเคมีทางการเกษตรของประเทศไทย 2556.
สำนักวิชาการ : สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. สานักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. (2553). การทบทวนและการปรับปรุงยุทธศาสตร์การป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยสารเคมี 2553-2557. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรณ์จากบรรณาธิการวารสารนี้ก่อนเท่านั้น