ผลของรูปแบบการจัดการสุขภาพโดยประยุกต์ใช้วงจรคุณภาพของเดมมิ่ง และแรงสนับสนุนทางสังคมเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพและสภาวะสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุข อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร

ผู้แต่ง

  • เดชา นิ่มพิลา สาขาวิชาการสร้างเสริมสุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
  • สุภาพร ใจการุณ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
  • เผ่าไทย วงศ์เหลา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

คำสำคัญ:

พฤติกรรมการจัดการสุขภาพ, รูปแบบการจัดการสุขภาพ, วงจรคุณภาพของเดมมิ่ง

บทคัดย่อ

โรคอ้วนเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆตามมาอีกมากมาย เป็นสาเหตุการป่วย และสาเหตุการตาย อันต้นๆของประเทศ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนต้องร่วมกันหามาตรการ และแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-experimental Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของรูปแบบในการจัดการสุขภาพ โดยประยุกต์ใช้วงจรคุณภาพของเดมมิ่งและแรงสนับสนุนทางสังคมเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพ และภาวะสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขอำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร และเปรียบเทียบพฤติกรรมการจัดการสุขภาพ และภาวะสุขภาพหลังการทดลอง โดยใช้วงจรเดมมิ่ง และแรงสนับสนุนทางสังคม ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม ทำการศึกษาในกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเพศหญิง อายุระหว่าง 40-60 ปี จำนวน 65 คน จากตำบลเชียงเพ็ง 30 คน และตำบลกระจาย 35 คน ซึ่งได้มา โดยการสุ่มแบบกลุ่ม ( Cluster random sampling ) กลุ่มทดลองได้รับกิจกรรมตามโปรแกรม 4 ขั้นตอน ซึ่งได้แก่ ขั้นที่ 1 การวางแผน (Plan) ขั้นที่2 การดำเนินงาน (Do) ขั้นที่3 การตรวจสอบ (Check) ขั้นที่4 การแก้ไขปรับปรุง (Action) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่สร้างขึ้น และแบบบันทึกภาวะสุขภาพ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ การวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม (ANCOVA) ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการจัดการสุขภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาโรคอ้วนของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่ผู้วิจัยจัดทำขึ้น โดยใช้โปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพ ตามหลัก 3 อ. การออกกำลังกาย อาหาร และการผ่อนคลายความเครียด และทฤษฏีแรงสนับสนุนทางสังคม ภายใต้การจัดการคุณภาพ PDCA (Plan-Do-Check-Act)เพื่อให้กลุ่มทดลองได้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการจัดการสุขภาพที่เหมาะสมในเรื่องของการออกกำลังกาย โภชนาการ และการผ่อนคลายความเครียดดีขึ้นกว่าก่อนการทดลอง ผลการเปรียบเทียบพฤติกรรมการจัดการสุขภาพ และภาวะสุขภาพหลังการทดลอง พบว่า กลุ่มทดลองมีค่าคะแนนเฉลี่ยมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05)โดยสรุปการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาโรคอ้วนของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จโดยมีปัจจัยแห่งสำเร็จที่สำคัญ คือ แรงสนับสนุนทางสังคม โดยมีการกระตุ้นเตือนให้กำลังใจติดตามความก้าวหน้าและให้ข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการจัดการสุขภาพที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงสาธารณสุข สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์. สถิติสาธารณสาธารณสุข ปี พ.ศ. 2553. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก, 2553.

กรมควบคุมโรคสำนักระบาดวิทยา. สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรคประจาปี 2553. นนทบุรี : กรมควบคุมโรค, 2553.

กองสุขศึกษา สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข. สุขภาพคนไทย 2553. นนทบุรี: กองสุขศึกษา, 2553.

กลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร. เอกสารสรุปผลการดำเนินงานโรคไม่ติดต่อ ปีงบประมาณ 2553. ยโสธร: กลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ, 2553.

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลเซซ่ง. สรุปผลการดำเนินงานตรวจคัดกรองสุขภาพประชาชน ตำบลเชียงเพ็ง ปีงบประมาณ 2553.ยโสธร: กลุ่มงานสารสนเทศ, 2553.

สุภัทรา อนันทวรรณ. การส่งเสริมพฤติกรรมการออกกำลังกายของนักเรียนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 2552.

World Health Organization. 2008-2013 action plan for the global strategic for the prevention and control of noncommunicable diseases. Geneva: World Health Organization; 2009.

World Health Organization. Package of essential noncommunicable (PEN) disease interventions for primary health care in low-resource settings WHO. Geneva: World Health Organization; 2007.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2016-12-01

รูปแบบการอ้างอิง

นิ่มพิลา เ., ใจการุณ ส., & วงศ์เหลา เ. (2016). ผลของรูปแบบการจัดการสุขภาพโดยประยุกต์ใช้วงจรคุณภาพของเดมมิ่ง และแรงสนับสนุนทางสังคมเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพและสภาวะสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุข อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 5(2), 34–54. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ubruphjou/article/view/162411

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ