ความเครียดของครอบครัวผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในจังหวัดอุบลราชธานี

ผู้แต่ง

  • ผ่องไพรธรรม กล้าจน คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • อรรณพ นับถือตรง คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • ธงชัย วงศ์เสนา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

คำสำคัญ:

ความเครียด, ครอบครัวผู้ให้การดูแล, มะเร็งเต้านม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความเครียดของครอบครัวผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในจังหวัดอุบลราชธานี การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา แบบการศึกษาเชิงวิเคราะห์ภาคตัดขวาง กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่ทำหน้าที่หลักในการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 310 คน ซึ่งได้มาจากวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นและวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ คือ แบบทดสอบความเครียด จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, สถิติ Independent t-test และ one-way ANOVA ที่ระดับความมีนัยสำคัญ 0.05 ผลการวิจัย พบว่า 1) ผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านม มีระดับความเครียดโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( =39.26, SD=11.85) 2) ผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมจำแนกตาม เพศ อายุ สถานภาพ การศึกษา และรายได้ พบว่า มีระดับความเครียดแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สรุปผลวิจัยได้ว่า ผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมีความเครียดโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และไม่มีความแตกต่างกันระหว่าง เพศ อายุ สถานภาพ การศึกษา และรายได้ อาจมีความเป็นไปได้ว่าผู้ดูแลผู้ป่วยสามารถยอมรับความจริง และมีความเข้าใจในเรื่องความเจ็บป่วย ความตาย เป็นสัจธรรมของมนุษย์โลกที่ทุกคนต้องเผชิญ จึงทำให้สามารถปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นได้มากขึ้น ทำให้ความเครียดลดลง และมีกำลังใจในการดูแลผู้ป่วยมากขึ้น

เอกสารอ้างอิง

ชูชื่น ชีวพูนผล. (2541). อิทธิพลของภาวะสุขภาพของผู้ป่วย ความเข้มแข็งในการมองโลกของญาติผู้ดูแล และความรู้สึกเป็นภาระในการลุกลาม. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.

ณชนก เอียดสุย, ศุภร วงศ์วทัญญู และสุชิรา ชัยวิบูลย์ธรรม. (2556). ความเครียดและการเผชิญความเครียดของญาติผู้ดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามี เนื้องอกสมองในระยะรอเข้ารับการผ่าตัดสมอง. วารสารพยาบาลรามา. 19(3): 349-364.

บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. (2551). ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพฯ: จามจุรีโปรดักส์.

บุญมาศ จันศิริมงคล. (2550). ความเครียดและการเผชิญความเครียด แรงสนับสนุนทางสังคมและคุณภาพชีวิตของญาติผู้ดูแลผู้ที่เป็นมะเร็งที่ได้รับรังสีรักษา. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ มหาวิทยาลัยมหิดล.

ปราณี สุทธิสุคนธ์ และคณะ. (2552). ระดับความเครียดของบุคลากรสถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน. วารสารสาธารณสุขและการพัฒนา. 7(1): 61-70.

พจนา ปิยะปกรณ์ชัย. (2552). การตอบสนองของบุคคลต่อความเครียด. นนทบุรี: ธนาเพลส.

พรนภา ศรีจินดา, ธิราภรณ์ จันดา และบัวหลวง สำแดงฤทธิ์. (2557). คุณภาพชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมหลังการรักษา. วารสารโรคมะเร็ง. 34(2): 92-103.

พฤกษชาติ ทบแป. (2557). การดูแลสุขภาพครอบครัวที่บ้าน. บรรยายวิชาสุขภาพชุมชน. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557.กลุ่มสาธารณสุขชุมชน : มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์.

พัชราวัลย์ เรืองศรีจันทร์ และศิริลักษณ์ ศุภปีติพร. (2554). ความเครียดของพยาบาล ความคิดเห็นต่อการเตรียมพร้อมเป็นโรงพยาบาลดึงดูดใจและปัจจัยที่สัมพันธ์กับความเครียดของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลเอกชนระดับอินเตอร์เนชั่นแนล. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย. 56(4): 425-436.

ภารดี ปรีชาวิทยากุล. (2549). “ประสบการณ์ของญาติในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและคอที่ได้รับรังสีรักษาที่พักอาศัยในอาคารเย็นศิระ อาคารที่พักชั่วคราวของผู้ป่วยและญาติ,” สงขลานครินทร์เวชสาร 24(2): 71-84.

ภูวสิทธิ์ ภูลวรรณ และคณะ. (2558). ความเครียดของครูในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร. กรุงเทพฯ: ภาควิชาระบาดวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยมหิดล.

รวี เดือนดาว. (2547). ความต้องการด้านสุขภาพของผู้ดูแลในครอบครัวผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย: การศึกษาเชิงปรากฏการณ์วิทยา. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

รุ่งนภา เตชะกิจโกศล. (2552). ความเครียดและการเผชิญความเครียดของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในระยะฟื้นฟูภาพ โรงพยาบาล ศิริราช. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการสังคมและการจัดการระบบสุขภาพ มหาวิทยาลัยศิลปากร.

วรรณทนา ศุภสีมานนท์. (2539). “ความเครียดและวิธีการเผชิญความเครียดของครอบครัวที่ให้การดูแล ผู้ป่วยเอดส์,” วารสารคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา. 5(2)9-18.

วริสรา ลุวีระ. (2556). “การดูแลสุขภาพของผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย,” ศรีนครินทร์เวชสาร. 28(2): 260-270.

วันเพ็ญ อึ้งวัฒนศิริกุล. (2550). ปัจจัยทำนายคุณภาพชีวิตของญาติผู้ดูแลที่เป็นมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด. วิทยานิพนธ์พยาบาล ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ มหาวิทยาลัยมหิดล.

ศิริวรรณ วรรณศิริ. (2548). การศึกษาความต้องการของผู้ดูแลในครอบครัวผู้ป่วยโรคมะเร็งและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตร มหาบัณฑิต คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สถาบันมะเร็งแห่งชาติ. (2559). ทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล พ.ศ. 2557. กรุงเทพฯ: พรทรัพย์การพิมพ์.

สมบัติ ริยาพันธ์ และ นิยดา ภู่อนุสาสน์. (2552). “ปัจจัยส่วนบุคคล ความเครียด และพฤติกรรมการดูแลตนเองด้านสุขภาพจิตของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร,” วารสารกองการพยาบาล. 36(3): 32-46.

สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข. (2558). สรุปรายงานการป่วย พ.ศ. 2558 จำนวนผู้ป่วยในกับอัตราป่วยต่อประชากร 100,000 คน รวมทุกการวินิจฉัยโรค จำแนกตามสาเหตุการป่วย 298 กลุ่มโรค เพศ รายภาค และกรุงเทพมหานคร ปีพ.ศ. 2558. กรุงเทพฯ: สามเจริญพาณิชย์.

สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. (2559). “จำนวนและอัตราตายด้วยโรคมะเร็งเต้านมต่อประชากร 100,000 คน เพศหญิง ปี 2553-2558 จำแนกรายจังหวัด เขตบริการสุขภาพ และภาพรวมประเทศ (รวมกรุงเทพมหานคร).” [Online]. เข้าถึงได้จาก : http://thaincd.com/information-statistic/non-communicable-disease-data.php/ สืบค้น 14 กันยายน 2559

สุฑาวรรณ์ ไชยมูล. (2551). สัมพันธภาพของครอบครัวที่มีผลต่อการจัดการปัญหา เนื่องจากการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง. วิทยานิพนธ์สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารและนโยบายสวัสดิการสังคม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สุณัฏดา คเชนทร์ชัย. (2547). ความเครียด วิธีเผชิญความเครียด และความหวังของมารดาที่มีบุตรป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและได้รับยาเคมีบำบัด. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาการให้คำปรึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สุดคนึง ปลั่งพงษ์พันธ์, วิไลพร ขำวงษ์ และทานตะวัน แย้มบุญ. (2560). ระดับความเครียดของนักศึกษาพยาบาลในประเทศไทย และเขตโมโจเกอโต จุมบัง หมู่เกาะชวาตะวันออกของประเทศอินโดนีเซีย. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์. 11(1): 43-51.

สุภาพ หวังข้อกลาง. (2554). ความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและการเผชิญความเครียดของนักศึกษาสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์และเทคโนโลยีสุขภาพ วิทยาลัยนครราชสีมา. ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สุภาวดี นาคสุขุม และคณะ. (2560). ความเครียด วิธีการเผชิญความเครียด และความหวังของมารดาที่มีบุตรป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด.การประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติราชธานีวิชาการ ครั้งที่ 2 “การวิจัย 4.0 เพื่อการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ปี 2560 หน้า 945-967.

อรฤทัย โฉมเฉิด. (2552). ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย ความรู้สึกสอดคล้องกลมกลืนในชีวิตและความหมายในชีวิตของญาติผู้ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Mukwato, KP, Mweemba P, Makukula MK, Makoleka MM. (2010). Stress and Coping Mechanisms Among Breast Cancer Patients and Family Caregivers : A Review of Literature. Medical Journal of Zambia. 37(1): 40-45.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-06-01

รูปแบบการอ้างอิง

กล้าจน ผ., นับถือตรง อ., & วงศ์เสนา ธ. (2018). ความเครียดของครอบครัวผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในจังหวัดอุบลราชธานี. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 7(1), 35–47. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ubruphjou/article/view/162778

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ