ความสำเร็จของการดำเนินงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ของจังหวัดอุบลราชธานี
คำสำคัญ:
ความสำเร็จของการดำเนินงาน, จังหวัดอุบลราชธานี, ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลการดำเนินงานและความสำเร็จของผลดำเนินงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของจังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษาครั้งนี้ คือหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินในจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 125 หน่วย กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง ที่ความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ความคลาดเคลื่อน 0.05 การวิจัยครั้งนี้ กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สูตรการหาค่าสัดส่วนกรณีทราบจำนวนประชากร จากโปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์ และการสุ่มตัวอย่างใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิอย่างง่าย กำหนดชั้นภูมิด้วยระดับหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ แบบบันทึกเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและความสำเร็จของผลการดำเนินงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 3ด้าน คือด้านระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ด้านคุณภาพการดูแลผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน และด้านผลการดูแลรักษาขั้นต้น โดยมีค่าความเชื่อมั่นอยู่ที่ 0.85 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินส่วนใหญ่มีความสำเร็จของผลการดำเนินงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน อยู่ในระดับ ร้อยละ 97.6 โดยแยกเป็นรายด้านดังนี้ (1) ความสำเร็จของผลการดำเนินงานด้านระยะเวลาปฏิบัติงาน ร้อยละ 91.2 (2) ความสำเร็จของผลการดำเนินงานด้านคุณภาพการดูแลผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน ร้อยละ 78.4 และ (3) ความสำเร็จของผลการดำเนินงานด้านการดูแลรักษา ร้อยละ 95.2 การพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดอุบลราชธานี โดยความร่วมมือกันระหว่างจังหวัดอุบลราชธานี กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกันจัดตั้งหน่วยกู้ชีพเฉลิมราชย์ 60 ปี จังหวัดอุบลราชธานี ในปี พ.ศ. 2549 โดยเน้นให้ประชาชนเรียกใช้บริการทางหมายเลข 1669 เป็นหลัก ซึ่งมีหน่วยงานรับผิดชอบ 4 หน่วยงาน ดังนี้ จังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี เป็นหน่วยสนับสนุนและการบริหารจัดการระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จัดให้มีหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินให้ครอบคลุมการบริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและต่อมาเป็นสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดอุบลราชธานี และจ่ายค่าชดเชยค่าบริการในระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินตามปริมาณงานที่เกิดขึ้นจริง กระทรวงสาธารณสุข พัฒนาวิชาการและการพัฒนาบุคลากรทั้งการติดตาม ประเมินผลและพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินและองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีสนับสนุนรถพยาบาลฉุกเฉินพร้อมอุปกรณ์ แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดอุบลราชธานี และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างมีคุณภาพ เท่าเทียมและทั่วถึงทุกพื้นที่ ตลอด 24 ชั่วโมง
เอกสารอ้างอิง
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ. (2554). การดำเนินงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. นนทบุรี: นิวธรรมดา การพิมพ์.
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ. (2557). ช่องว่างการแพทย์ฉุกเฉินไทย รายงานสถานการณ์ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ปีงบประมาณ 2556. นนทบุรี: เอ็น พี เพรส.
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ. (2559). รายงานสถานการณ์ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ปีงบประมาณ 2559. กรุงเทพฯ: ปัญญมิตร.
สำนักงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน จังหวัดอุบลราชธานี. ผลการดำเนินงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน. (ออนไลน์) 2556 (อ้างเมื่อ 30พฤศจิกายน 2556).
องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี. (2556). ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดอุบลราชธานี. อุบลราชธานี: องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี.
อุบล ยี่เฮ็ง. ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการช่วยชีวิตขั้นสูงของผู้ป่วยฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุของศูนย์กู้ชีพ “นเรนทร” โรงพยาบาลราชวิถี. วารสารกรมการแพทย์. 33(1): 68-77.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรณ์จากบรรณาธิการวารสารนี้ก่อนเท่านั้น