การรับรู้โอกาสเสี่ยงจากการเล่นเกมโทรศัพท์มือถือ ในนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ
คำสำคัญ:
การรับรู้โอกาสเสี่ยง, การเล่นเกมโทรศัพท์มือถือ, นักศึกษาระดับปริญญาตรีบทคัดย่อ
การเล่นเกมโทรศัพท์มือถือในกลุ่มนักเรียน นักศึกษามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผลกระทบจากการเล่นเกมส่งผลทั้งทางร่างกาย อารมณ์ ครอบครัว และสังคม การศึกษาครั้งนี้เป็นการสำรวจ (Survey Study) แบบตัดขวาง (Cross Sectional Study) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้โอกาสเสี่ยงจากการเล่นเกมโทรศัพท์มือถือ ในนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ โดยใช้แบบสอบถาม เก็บข้อมูลในกลุ่มตัวอย่าง 369 คน วิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนอด้วยความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 59.89 อายุเฉลี่ย 20 ปี (S.D.=1.04) อายุต่ำสุด 18 ปี สูงสุด 24 ปี โดยมากเรียนอยู่คณะครุศาสตร์ ร้อยละ 40.37 ภาพรวมนักศึกษามีการรับรู้โอกาสเสี่ยงจากการเล่นเกมโทรศัพท์มือถือ อยู่ในระดับปานกลาง (Mean=2.78, S.D.=0.91) คิดเป็นร้อยละ 34.14 นักศึกษามีการรับรู้โอกาสเสี่ยงจากการเล่นเกมโทรศัพท์มือถือมากที่สุดคือ เมื่อเล่นเกมโทรศัพท์มือถือนานๆ จะรู้สึกมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา เกิดอาการปวดตา (Mean=3.59, S.D. =1.05) รองลงมาคือมีความรู้สึกสนุกสนาน เพลิดเพลิน เมื่อได้เล่นเกมโทรศัพท์มือถือ (Mean=3.45, S.D.=1.15) และการเล่นเกมโทรศัพท์มือถือทำให้ต้องนอนดึกหรือมีเวลาพักผ่อนน้อยลง (Mean=3.44, S.D.=1.14) ตามลำดับ ส่วนการรับรู้โอกาสเสี่ยงจากการเล่นเกมโทรศัพท์มือถือ อยู่ในระดับน้อย คือด้านการเงิน มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการเล่นเกมโทรศัพท์มือถือ เช่น การขายไอเทมภายในเกม (Mean=2.31, S.D.=1.18)
สรุปจากผลการศึกษาดังกล่าวทำให้ทราบว่า นักศึกษา 3 ใน 5 มีการรับรู้โอกาสเสี่ยงจากการเล่นเกมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการหาแนวทางรณรงค์ส่งเสริมให้มีการรับรู้ และสร้างความตระหนักให้เห็นถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้นักศึกษามีพฤติกรรมการเล่นเกมโทรศัพท์มือถือที่เหมาะสมต่อไป
เอกสารอ้างอิง
จุฑามาศ กิติศรี, รัญชนา หน่อคา, คนึงนิจ เพชรรัตน์. (2557). พฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนและการรับรู้ภาวะสุขภาพของนักศึกษาพยาบาล. วารสารการพยาบาลและการศึกษา. 5(1): 21-34.
ฐิตินัน บุญภาพ คอมมอน. (2556). บทบาทของสื่อใหม่ในการสร้างค่านิยมทางสังคมและอัตลักษณ์ของเยาวชนไทยในเขตกรุงเทพฯ. รายงานวิจัยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. กรุงเทพฯ: ศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
พิชญ์ เพชรคา, พรทิพย์ เย็นจะบก. (2557). พฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนของวัยรุ่นไทยที่มีผลกระทบต่อตนเองและสังคม. วิทยานิพนธ์นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
ศรินญา เพ็งสุก,วีณา ศิริสุข. (2556). พฤติกรรมการดื่มและแนวโน้มการละเมิดกฎหมาย/วินัยอันเกี่ยวข้องกับ การดื่มสุราของข้าราชการตำรวจในกรุงเทพมหานคร. มหาวิทยาลัยมหิดล:ม.ป.ท.
สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์. (2563). ผลกระทบของการติดเกมต่อเด็ก. ค้นเมื่อ 15กันยายน 2563. จาก https://new.smartteen.net/infographic/118.
สำนักยุทธศาสตร์สำนักงานพัฒนาธุุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์. (2562). รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2562 Thailand Internet User Behavior 2019. ค้นเมื่อ 15 กันยายน 2563.จาก https://www.etda.or.th/publishing-detail/thailand-internet-user-behavior-2019.html
สุรินธร กลัมพากร. (2556). การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในวัยทำงาน. ใน อาภาพร เผ่าวัฒนา, สุรินธร กลัมพากร, สุนีย์ ละกาปั่น, และขวัญใจ อำนาจสัตย์ซื่อ (บรรณาธิการ). การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในชุมชน:การประยุกต์แนวคิด ทฤษฎีและการปฏิบัติ (พิมพ์ครั้งที่ 3, หน้า 190-198). กรุงเทพฯ: คลังนานาวิทยา.
สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์. (2559). กลยุทธ์การสร้างเสริมสุขภาพวัยรุ่น. กรุงเทพฯ: ชัยเจริญการพิมพ์.
อทิตยา ดวงสุวรรณ. (2552). การศึกษาเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตการทำงานและความผูกพันต่อองค์การระหว่างข้าราชการ กับพนักงานมหาวิทยาลัย : กรณีศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่.
อาภรณ์ ดีนาน. (2551). แนวคิด วิธีการส่งเสริมสุขภาพวัยรุ่น. ชลบุรี: ไฮเดนกรุ๊ป ปริ้น แอนด์ มีเดีย.
Akinbinn TR, Mashalla YJ. (2014). Impact of computer technology on health: Computer Vision Syndrom (CVS). Academic Journals. 5(3): 20-30.
Bali RT, Neeraj N, Bali J. (2014). Computer vision syndrome: A review. Journal of Clinical Ophthalmology and Research. 2(1): 61-68.
Polit, D.F. & Beck, C.T. (2008). Nursing research: Generating and assign evidence for nursing practice. 8thed. Philadelphia: Lippincott.
Weiers, Ronald M. (2005). Introduction to Business Statistics. International Student Edition. 5th Pennsylvania, USA. Duxbury Press, Thomson - Brooks/cole.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรณ์จากบรรณาธิการวารสารนี้ก่อนเท่านั้น