Factors associated with neck shoulders back and knees discomfort in staff of Phranakhon Si Ayutthaya Rajabhat University
Keywords:
Musculoskeletal discomfort, neck shoulders back knees, staff of universityAbstract
This research aimed to study factors associated with neck shoulders back and knees discomfort in the staff of Phranakhon Si Ayutthaya Rajabhat University. The study is a cross-sectional analysis study. Data were collected by a questionnaire. The sample was 219 people from simple random sampling.
Results show that the factors most associated with neck discomfort were working with high stress (OR = 2.71) next sit and work for a long time more than half of the working time (OR = 2.70). The factor most associated with shoulder discomfort was stooping or bending while working (Left shoulder OR = 2.34, Right shoulder OR = 2.14) and lifting that is too large and does not have a handle or difficult to carry (Left shoulder OR = 2.31, Right shoulder OR = 2.72). The factor most associated with upper back discomfort was weight loading to one side or usually in an unbalanced position (OR = 2.30). The factors most associated with lower back discomfort were gaze, concentration, use eyes for a long time (OR = 5.36) and sit and work for a long time more than half of the working time (OR = 2.44). The factors most associated with knee discomfort were older than 50 years old compared to younger than 30 years old (OR = 3.75) and weight loading to one side or usually in an unbalanced position (OR = 3.16).
Therefore, the university’s staff should always change body posture, don’t keep the body in an unbalanced position, avoid eyes using too long time, and should not lift heavy objects. In addition, exercises and stretching are recommended to prevent the discomfort of the neck, shoulders, knees, and reducing this symptom.
References
กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2561). รายงานสถานการณ์ โรคและภัยสุขภาพจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ปี 2561. ค้นเมื่อ 18 ตุลาคม 2562, จากhttp://envocc.ddc.moph.go.th/uploads/situation2/2561/2561_01_envocc_situation.pdf
จิตตาภรณ์ มงคลแก่นทราย และอุไรวรรณ หมัดอ่าดัม. (2562). ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความผิดปกติของระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อของบุคลากรสำนักงาน มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์. วารสารวิชาการสาธารณสุข. 28(2), 37-44.
ธรรญญพร วิชัย และปิยะวดี ทองโปร่ง.(2559). ความชุกของอาการปวดหลังของบุคลากรในมหาวิทยาลัยราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี. เอกสารประกอบการประชุมวิชาการและนําเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ราชธานีวิชาการ ครั้งที่ 1 มหาวิทยาลัยราชธานี วันที่ 29 กรกฎาคม 2559, อุบลราชธานี, มหาวิทยาลัยราชธานี
เมธินี ครุสันธิ์ และสุนิสา ชายเกลี้ยง. (2557). ความชุก ความรู้สึกไม่สบายบริเวณ คอ ไหล่และหลังของพนักงานสำนักงานของมหาวิทยาลัยที่ใช้คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน. เอกสารประกอบการประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา ครั้งที่ 15 : The 15th Graduate Research Conferences มหาวิทยาลัยขอนแก่น 28 มีนาคม 2557, ขอนแก่น, มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค. (2560). แบบประเมินความเสี่ยงอาการผิดปกติของระบบโครงร่างกระดูกและกล้ามเนื้อ สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค. ค้นเมื่อ 3 กันยายน 2560, จากhttp://odpc5.ddc.moph.go.th/groups/Academic/images/stories/env/เอกสารการดำเนินงานENVOCC2560/1.งานแรงงานในชุมชน%20(แรงงานนอกระบบ)/8.แบบประเมินความเสี่ยงอาการผิดปกติของระบบบโครงร่างกระดูกและกล้ามเนื้อ.pdf
อูน ตะสิงห์ และชลวิภา สุลักขณานุรักษ์. (2562). ความรู้สึกไม่สบายระบบกล้ามเนื้อและกระดูกของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา. วารสารราชภัฏกรุงเก่า สาขา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 1(2), 71-82.
Cornell University. (1994). Cornell Musculoskeletal Discomfort Questionnaires (CMDQ). cited 2017 September 3, from http://ergo.human.cornell.edu/ahmsquest.html
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรณ์จากบรรณาธิการวารสารนี้ก่อนเท่านั้น