พฤติกรรมป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่บ้านดอกบัว ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
คำสำคัญ:
โคโรนาไวรัส; พฤติกรรมการป้องกัน; พฤติกรรมเสี่ยงบทคัดย่อ
การศึกษาเชิงพรรณนาภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประชาชนในพื้นที่บ้านดอกบัว ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) กลุ่มตัวอย่างคือประชาชนที่มีอายุระหว่าง 18-40 ปี จำนวน 242 คน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถาม ประกอบด้วย 6 ส่วน ได้แก่ 1) ข้อมูลทั่วไป 2) ความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 3) ทัศนคติที่มีต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 4) ความรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 5) แนวทางการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรไวรัสโคโรนา 2019 6) พฤติกรรมการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ มีค่า IOC เท่ากับ 0.88 วิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นโดยการทดสอบจากกลุ่มตัวอย่างที่คล้ายคลึงกับกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา จำนวน 30 คน ได้ค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นของครอนบาช เท่ากับ 0.897 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ ร้อยละ และสถิติไคสแควร์
ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างเพศหญิง ร้อยละ 62.0 อายุน้อยกว่า 25 ปี ร้อยละ 43.0 มีรายได้ระหว่าง 5,001-10,000 บาทต่อเดือน ร้อยละ 34.0 สถานภาพโสด ร้อยละ 58.7 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 97.1 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ 50.0 ประกอบอาชีพอื่น ๆ เช่น นักศึกษา ร้อยละ 31.0 ไม่มีโรคประจำตัว ร้อยละ 83.0 ภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 76.0 ไม่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย ร้อยละ 98.8 ไม่ได้เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง ร้อยละ 98.3 ไม่มีอาการป่วยในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ร้อยละ 95.0 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องความเสี่ยงต่อการติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระดับสูง ร้อยละ 95.0 มีทัศนคติที่มีต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระดับปานกลาง ร้อยละ 80.6 มีความรู้กฎหมายที่เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระดับสูง ร้อยละ 82.6 มีแนวทางการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคไวรัส โคโรนา 2019 ระดับสูง ร้อยละ 50.0 และมีพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระดับสูง ร้อยละ 60.7 จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า เพศ อายุ การศึกษา รายได้ ประวัติการมีโรคประจำตัว ทัศนคติ และแนวทางการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนศาสนา อาชีพ สถานภาพ ภูมิลำเนา ประวัติการสัมผัสผู้ป่วย ประวัติการเดินทาง อาการช่วง 14 วันที่ผ่านมา ความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่มีความสัมพันธ์
ทั้งนี้ ควรนำข้อมูลการศึกษาครั้งนี้ไปวางแผนจัดการกิจกรรมเสริมสร้าง ให้เห็นถึงปัญหาและความสำคัญของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีอันนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการป้องกันตนเองในการควบคุมการแพร่ระบาดให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค. กระทรวงสาธารณสุข. (2563). โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19). (ออนไลน์). (วันที่สืบค้น 15 เมษายน 2563), เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th.
ณัฎฐวรรณ คําแสน. (2563). ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมในการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของประชาชนในเขตอําเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี, 4(1): 33-48.
ธวัชชัย ยืนยาว และเพ็ญนภา บุญเสริม. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ทัศนคติต่อพฤติกรรมการป้องกัน การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หญิงในจังหวัดสุรินทร์.วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ , 35(3): 555-564.
ธานี กล่อมใจ ,จรรยา แก้วใจบุญ และทักษิกา ชัชวรัตน์(2563). ความรู้และพฤติกรรมของประชาชนเรื่องการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019. วารสารการพยาบาล การสาธารณสุขและการศึกษา, 21(2):29-39.
พัสกร องอาจ และรัชฎาภรณ์ อึ้งเจริญ. (2564). พฤติกรรมการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19:กรณีศึกษานิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร. วารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข, 7(1):87-102.
รจนารถ ชูใจ, ชลธิชา บุญศิริ และกมลพร แพทย์ชีพ. (2563). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการป้องกันโรค โควิด-19 ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตำบลดอนตะโก อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยการพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 8(1):250-262.
รังสรรค์ โฉมยา, กรรณิกา พันธ์ศรี .(2563). ความตระหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมการป้องกันการติดต่อโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19): การเปรียบเทียบระหว่างวัย.วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 39(6): 71-82.
วิชัย ศิริวรวัจนชัย. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานตามบทบาทของอสม.ในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคโควิด-19 อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน. มหาราชนครศรีธรรมราชเวชสาร, 4(2):63-75.
หทัยรัตน์ สุนทรสุข และนงนวล พูลเกษร. (2563). ระบบการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกัน โรคโควิด-19 และผลกระทบของการระบาดต่อประชาชน จังหวัดกำแพงเพชร. วารสารสมาคม เวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย, 11(1):13-29.
ฮูดา แวหะยี. (2563). การรับรู้ความรุนแรงและพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ของวัยรุ่นในเขตตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน, 6(4):158-168.
Best, John W. (1977). Research in Education 3rd ed. Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice Hall, Inc.
Cronbach, L. Joseph. (1984). Essential of Psychology and Education. New York: Mc–Graw Hill.
Hussein, N. R., Naqid, I. A., Jacksi, K., & Abdi, B. A. (2020). Assessment of knowledge, attitudes, and practices toward COVID-19 virus among university students in Kurdistan region, Iraq: Online cross-sectional study. Journal of Family Medicine and Primary Care,9(9), 4809–4814. doi: 10.4103/jfmpc.jfmpc_870_20.
Likert, Rensis. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale. In Reading in Fishbeic, M (Ed.), Attitude Theory and Measurement New York: Wiley & Son; p.90-5.
McGurnaghan, S. J., Weir, A., Bishop, J., Kennedy, S., Blackbourn, L. A. K., McAllister, D. A., Hutchinson, S., Caparrotta, T. M., Mellor, J., Jeyam, A., O'Reilly, J. E., Wild, S. H., Hatam, S., Höhn, A., Colombo, M., Robertson, C., Lone, N., Murray, J., Butterly, E. (2021). Risks of and risk factors for COVID-19 disease in people with diabetes: a cohort study of the total population of Scotland. The Lancet: Diabetes and Endocrinology, 9(2), 82-93. https://doi.org/10.1016/S2213-8587(20)30405-8.
Taro Yamane. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. 3rd ed. NewYork.Harper and Row Publications.
World Health Organization. (2020). Coronavirus disease 2019 (COVID-19). [Internet].
Zhong, B. L., Luo, W., Li, H. M., Zhang, Q. Q., Liu, X. G., Li, W. T., & Li, Y. (2020). Knowledge, attitudes, and practices towards COVID-19 among Chinese residents during the rapid rise period of the COVID-19 outbreak: A quick online cross-sectional survey. International Journal of Biological Sciences,16(10), 1745–1752. doi: 10.7150/ ijbs.45221.
Zhu N., Zhang D., Wang W., Li X., Yang B., SongJ., et al. (2020). A Novel Coronavirus from Patients with Pneumonia in China,2019. N Engl J Med.DOI:10.1056/NEJMoa2001017.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรณ์จากบรรณาธิการวารสารนี้ก่อนเท่านั้น