Risk factors associated with colistin-resistant gram-negative bacteria infection in Roi Et Hospital
Keywords:
Gram-negative bacteria, bacteria infection, colistin antimicrobial drugAbstract
The objective of this case‐control study was to determine factors associated with colistin-resistant gram-negative bacteria infections among patients of the Roi‐Et hospital. The study was conducted between 1 July 2018 to 31 July 2021. 194 cases with colistin-resistant gram-negative bacteria infection and 388 controls without colistin-resistant gram-negative bacteria infections participated in the investigation. Descriptive and inference statistics used were the univariate analysis and multivariable analysis by multiple logistic regression.
The average age of the cases was 60.35 years. Most of them were males (64.40 %). The average age of the controls was 62.86 years and 61.10 % were males. The duration of stay in hospital was 23.27 days for cases and 23.91 days for controls. Factors associated with colistin-resistant gram-negative bacteria infection, assessed by multiple logistic regression, included patient with co-morbidity (ORadj = 2.77, 95%CI= 1.72 – 4.47), patient admitted more than 7 days (ORadj = 2.56, 95%CI= 1.76 – 3.72) and patient on endotracheal tubes (ORadj = 3.40, 95%CI= 2.20 – 5.25). Factors linked to treatment accounted for prior antibiotic treatment which 3rd -4thCephalosporins (ORadj = 1.75; 95%CI = 1.19 – 2.57).
In conclusion, thus the patient with those risk factors should be provided intensive medical and nursing guideline to control and prevent colistin-resistant gram-negative bacteria infection.
References
นรีลักษณ์ สุวรรณโนบล และคณะ. (2561). ศึกษาสถานการณ์การติดเชื้อการดำเนินงานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อของโรงพยาบาลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. The Journal of Baromarajonani College of Nusing, Nakhonratchasima. 24, 2.
นิตยา สิงห์พลทัน. (2563). อุบัติการณ์การดื้อยาโคลิสตินในเชื้อ Enterobacteriaceaeสายพันธุ์ที่ดื้อต่อยา กลุ่ม Carbapenems. วารสารเทคนิคการแพทย์ .48, 2.
นิตยา อินทราวัฒนา และมุทิตา วนาภรณ์. (2558). โรคติดเชื้อในโรงพยาบาลและสถานการณ์การดื้อยา. ภาควิชาจุลชีววิทยาและอิมมิวโนโลยี คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล.
แผนยุทธศาสตร์การจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพประเทศไทย พ.ศ. 2560–2564. (2561).นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข.
เพ็ญศรี ลออ และรัตนา เอกจริยาวัฒน์. (2553). อุบัติการณ์และผลกระทบของการเกิดปอดอักเสบของผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ โรงพยาบาลนครนายก. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. 4, 1.
ภาณุมาศ ภูมาศ, วิษณุ ธรรมลิขิตกุล, ภูษิตประคองสาย, ดวงรัตน์โพธะ, อาทร ธิ้วไพบูล, และสุพล ลิมวัฒนานนท์. (2555). ผลกระทบด้านสุขภาพและเศรษฐศาสตร์จากการติดเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพในประเทศไทย: การศึกษาเบื้องต้น. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 6(3), 352-360.
วิษณุ ธรรมลิขิตกุล. (2554). การดื้อยาต้านจุลชีพ : ความสำคัญต่อระบบสุขภาพ. เวชบันทึกศิริราช. ภาควิชาอายุรศาสตร์, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, มหาวิทยาลัยมหิดล.
ศูนย์เฝ้าระวังเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพแห่งชาติ (NARST) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์. สถานการณ์เชื้อดื้อยาของประเทศไทย 2563 (อินเตอร์เน็ต). 2020. (เข้าถึงเมื่อ 20 ธันวาคม 2563). เข้าถึงได้จาก http://narst.dmsc.moph.go.th/data/AMR%202000-2020-12M.pdf
D. R. Giacobbe. et. Al., Risk factors for bloodstream infections due to colistin-resistant KPC-producing Klebsiella pneumoniae: results from a multicenter case-control-control study. [Internet]. 2015 [cited 2021 October 12]. Available from : https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/26278669/
Gul R. Yilmaz et al. (2016). Risk factors for infection with colistinresistant gram-negative microorganisms : a multicenter study. Ann Saudi Med. 36, 3: 216-222.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2022 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรณ์จากบรรณาธิการวารสารนี้ก่อนเท่านั้น