ความเต็มใจบริจาคโลหิตในกลุ่มนักเรียนนักศึกษา อายุ 17-22 ปี
คำสำคัญ:
บริจาคโลหิต, ความรู้, ทัศนคติและความเชื่อ, ความเต็มใจ, นักเรียนนักศึกษาบทคัดย่อ
ปัจจุบันสถานการณ์การขาดแคลนโลหิตในประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานสาธารณสุข หรือสภากาชาด ที่ไม่สามารถจัดหาโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอกับจำนวนผู้ป่วยที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากสถานการณ์การขาดแคลนโลหิตบริจาค จำเป็นต้องส่งเสริมการบริจาคและให้ความรู้แก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริจาครุ่นใหม่ ในช่วง 17 - 22 ปี ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนโลหิตบริจาคในประเทศไทยได้
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้และ ทัศนคติ ต่อการบริจาคโลหิต และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ กับความเต็มใจบริจาคโลหิต การศึกษาครั้งนี้เป็นวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม-ออนไลน์ (Google Form) ในช่วง 1 มีนาคม - 30 เมษายน พ.ศ. 2566 ศึกษากลุ่มนักเรียนนักศึกษา อายุ 17-22 ปี จำนวน 356 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วย สถิติเชิงพรรณา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ และ Chi-square ศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปร
จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 356 คน เพศหญิงร้อยละ 64.0 ศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 ร้อยละ 36.80 สนใจอาชีพ วิทยาศาสตร์การแพทย์ ร้อยละ 36.8 รายได้ครอบครัวต่อเดือน (บาท) ระหว่าง 20,001 ถึง 40,000 บาท ไม่มีโรคประจำตัวร้อยละ 84.33
ไม่เคยบริจาคโลหิต ร้อยละ 69.94 และตนเองหรือญาติสนิทไม่เคยได้รับโลหิตบริจาค ร้อยละ 79.49 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความ เต็มใจบริจาคโลหิต ร้อยละ 80.62 รองลงมาไม่แน่ใจ ร้อยละ 16.29 และไม่เต็มใจบริจาคโลหิตร้อยละ 3.09 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ มีความรู้เกี่ยวกับการบริจาคโลหิตอยู่ระดับกลาง ร้อยละ 71.06 ทางด้านทัศนคติต่อการบริจาคโลหิตอยู่ระดับดี ร้อยละ 58.42 จากการวิเคราะห์
ตัวแปร ที่มีความสัมพันธ์ต่อความเต็มใจบริจาคโลหิตของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ระดับชั้น (p=0.021) และ เคยบริจาคโลหิต (p=0.006)
มีความสัมพันธ์ต่อความเต็มใจบริจาคโลหิตอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
กลุ่มตัวอย่างมีความรู้เกี่ยวกับการบริจาคโลหิตอยู่ระดับกลางมีทัศนคติต่อการบริจาคโลหิตอยู่ระดับดี ร้อยละ 26.12 กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 80.62 เต็มใจบริจาคโลหิต กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 69.94 ยังไม่เคยบริจาคโลหิตควรมีการให้ความรู้ เกี่ยวกับ การบริจาคโลหิตและเสริมสร้างทัศนคติกับกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางของสถาน ศึกษาในพื้นที่ ในจังหวัดต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการบริจาคโลหิต เช่น การพักผ่อน การ รับประทาน อาหาร และเรื่องการเดินทางมาบริจาคเลือดในพื้นที่
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก http://academic.obec.go.th/images/document/1559878925_d_1.pdf
จารุวรรณ ไตรทิพย์สมบัติ, ปิยธิดา บุราณผาย, อภิชาต ป้องทองหลาง, วิไลรัตน์ โรจน์ฉิมพลี, กนกรัตน์ ปรีชาพูด, จิรศักดิ์ อินอ่อน. (2561). ความรู้และเจตคติของนักศึกษาคณะสารธารณสุขศาสตร์ต่อการบริจาคเลือด. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา, 24(1). 104-116. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Jolbcnm/article/view/131735/98896
ชนิกานต์ มีประดิษฐ์, ชลดา สินธุวงศ์, ศุนารินทร์ อินถา, สิทธิพร สุวรรณมิตร, กรุง ผิวพรรณ. (2565). การศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์กับอัตราการตรวจพบตัวบ่งชี้โรคติดเชื้อในโลหิตบริจาค ของโรงพยาบาลแม่สาย ปี 2560-2562. วารสารนเรศวรพะเยา, 15(3). 41-48. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://li01.tci-thaijo.org/index.php/journalup/article/download/252599/175623/950851
ชยานันท์ วีรกุลคงเดช. (2561). รูปทรงแห่งเพศวัตถุ. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปบัณฑิต สาขาวิชาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ภาควิชาประติมากรรม คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ดวงนภา อินทรสงเคราะห์, ปิยธิดา ตรีเดช, วงเดือน ปั้นดี. (2556). การตัดสินใจบริจาคโลหิตในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ, 29(1). 65-81. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/bcnbangkok/article/download/28927/24880
นฤมล บุญสนอง, ยุพา เอื้อวิจิตรอรุณ. (2552). การศึกษาทัศนคติและปัจจัยที่มีผลต่อการบริจาคโลหิตของบุคลากรในโรงพยาบาลพาน จังหวัดเชียงราย เพื่อเพิ่มจำ นวนผู้บริจาคโลหิต. วารสารโลหิตวิทยาและเวชศาสตร์บริการโลหิต, 19(3). 161-170. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก http://www.tsh.or.th/file_upload/files/vol19-3%2004_การศึกษาทัศนคติ_ใน_รพ_พาน_%5Bนิพนธ์ต้นฉบับ%5D.pdf
บุญชม ศรีสะอาด. (2535). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 3, กรุงเทพมหานคร : สุวีริยาสาส์น.
บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด. (2558). วิกฤตขาดแคลน "เลือด-เกล็ดเลือด"! กาชาด ชี้ต้องการบริจาค 3 พันคนต่อวัน. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://www.pptvhd36.com/news/ประเด็นร้อน/12818
ภณิดา คำธิตา. (2557). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกลับมาบริจาคโลหิตซ้ำในผู้บริจาคโลหิต โรงพยาบาลลำพูน. วารสารสาธารณสุขล้านนา, 10(3). 237-250. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/LPHJ/article/view/168829/121479
ระพีพรรณ ฉลองสุข, ปรมัต รุ่งเรือง, กรพัฒน์ บุญคุ้มพงษ์, ถิรพงษ์ ลือลีลาโรจน์, วงศกร วัฒนาถาวร. (2560). การสำรวจทัศนคติเกี่ยวกับการบริจาคโลหิตของนักศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยศิลปากร นครปฐม. ไทยไภษัชยนิพนธ์, 12(2). 1-12. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://li01.tci-thaijo.org/index.php/TBPS/article/download/104478/83237/264755
วรางคณา โสฬสลิขิต, ณัฐวุฒิ ขันทิตย์. (2562). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกลับมาบริจาคโลหิตซ้ำของผู้บริจาคโลหิตในจังหวัดแพร่. วารสารโรงพยาบาลแพร่, 27(2). 46-63. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก: https://thaidj.org/index.php/jpph/article/view/10446/9227
ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ. (2566). ข้อมูลรับแจ้งอุบัติเหตุทางถนนในรอบ 24 ชั่วโมง. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://www.thairsc.com/
สภากาชาดไทย. (2563). เลือดสำรองไม่พอ วอนคนไทยบริจาคโลหิตอย่างเร่งด่วน. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://redcross.or.th/news/information/11333/
สภากาชาดไทย. (2563). PLUS 1 เพิ่มจำนวนครั้ง เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://redcross.or.th/news/information/9669/
สภากาชาดไทย. (2563). ข่าวประชาสัมพันธ์. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://www.redcrossfundraising.org/news/type/4/th
สภากาชาดไทย. (2564). วิกฤติเลือดหมดคลังทั่วประเทศ ทุกโรงพยาบาลขาดเลือดผ่าตัด วอนบริจาคโลหิตช่วยชีวิตผู้ป่วย. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://www.redcross.or.th/news/information/15631/
สภากาชาดไทย. (2565). แผนปฎิบัติการด้านบริการโลหิต. สืบค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2566, จาก https://blooddonationthai.com/?jet_download=30316
สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประชาชน. (2563). การบริจาคโลหิตในยุค COVID-19. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก http://tsh.or.th/Knowledge/Details/70
สายทอง วงศ์คำ. (2558). ปัจจัยที่มีผลต่อการบริจาคเลือดของผู้ที่มาบริจาคเลือด ณ ธนาคารเลือด โรงพยาบาลหัวหิน. วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 26(2). 83-94. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://journal.oas.psu.ac.th/index.php/asj/article/viewFile/790/824
สาธนี เปรมปรีดิ์. (2559, กันยายน). ทัศนคติต่อการบริจาคโลหิตของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ. การประชุมวิชาการ “มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ 12”. อาคารคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
อัญชลี โพธิ์ชัยเลิศ. (2558). ปัจจัยที่มีผลต่อจิตสำนึกสาธารณะในการบริจาคโลหิต. วิทยานิพนธ์ปริญญาวารสารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสื่อสารมวลชน คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
American Red Cross. (2023). Why Blood Donation is Important – and Who Benefits. Cite 20 August 2023. Available from: https://www.redcrossblood.org/local-homepage/news/article/blood-donation-importance.html#:~:text=Blood%20is%20essential%20to%20help,need%20for%20blood%20is%20constant.
World Health Organization. (2023). Blood products: Blood donation. Cited 20 Aug 2023. Available from: https://www.who.int/news-room/questions-and-answers/item/blood-products-why-should-i-donate-blood
Uakarn C.(2564). Sample Size Estimation using Yamane and Cochran and Krejcie and Morgan and Green Formulas and Cohen Statistical Power Analysis by G*Power and Comparisons. Cite 20 July 2023. Available from: https://so04.tci-thaijo.org/index.php/ATI/article/download/254253/173847/938756
Thailand Board of Investment. (2023). THAILAND IN BRIEF. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2566, จาก https://www.boi.go.th/index.php?page=demographic
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรณ์จากบรรณาธิการวารสารนี้ก่อนเท่านั้น