โปรแกรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ

ผู้แต่ง

  • วิชุดา จันทะศิลป์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี
  • พรรณี บัญชรหัตถกิจ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี
  • วิทยา ชาญชัย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
  • อัษฎาวุฒิ โยธาสุภาพ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี

คำสำคัญ:

การดูแลสุขภาพตนเอง, ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2, โปรแกรมการจัดการการดูแลสุขภาพ

บทคัดย่อ

การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ที่มีอยู่เกี่ยวกับโปรแกรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในประเทศไทย โดยใช้วิธีการทบทวนวรรณกรรมตามกรอบแนวคิด PICO และมีการประเมินคุณภาพการวิจัยตามวิธีการของ Heller et al. (2008) เก็บข้อมูลโดยการสืบค้นจากฐานข้อมูล Proquest, Pubmed   Science Direct, ThaiJO และการค้นจาก Google Scholar ใช้บทความวิจัยภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่ตีพิมพ์เผยแพร่ ระหว่าง พ.ศ. 2554 ถึง พ.ศ. 2564 คำสำคัญที่ใช้สืบค้นเกี่ยวกับ Diabetes Mellitus Type 2, Self-care, Model นำมาสกัดผลการวิจัย

                ผลการวิจัย พบว่า จากบทความวิจัยที่ผ่านเกณฑ์ประเมินคุณภาพจำนวน 6 เรื่อง เป็นงานวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) ที่เปรียบเทียบกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม พบว่า โปรแกรมการดูแลสุขภาพผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2  ได้แก่ กระบวนการจัดกลุ่ม การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การจัดการความเครียด และการมีส่วนร่วมของผู้ป่วยโดยการรับรู้สมรรถนะแห่งตนเองและการสนับสนุนทางสังคม ทำให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสะสม และมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองได้ดีขึ้น

                ควรนำโปรแกรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 มาใช้ในกระบวนการจัดการโรคเบาหวานด้วยตนเองแบบการมีส่วนร่วมของกลุ่ม ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเบาหวานควบคุมระดับฮีโมโกลบินเอวันซีได้ดี สามารถนำโปรแกรมไปประยุกต์ใช้ในหน่วยบริการสุขภาพอื่นที่คล้ายคลึงกันต่อไป

เอกสารอ้างอิง

กรมการแพทย์ กระทวงสาธารณสุข. (2556). เอกสารข้อมูล: สถานการณ์โรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูงและภาวะแทรกซ้อนในประเทศไทย. กรมการแพทย์ กระทวงสาธารณสุข.

ไกรพิชิต ปรุงฆ้อง. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลพังโคน จังหวัดสกลนคร. วารสารโรงพยาบาลสกลนคร, 23(3), 14-26.

เนาวรัตน์ ศักดา, เพลินตา เรืองสูง, เพลินตา เรืองสูง, อติญาณ์ ศรเกษตริน, สุทธานันท์ กัลกะ. (2559). ผลของการให้โปรแกรมการสร้างเสริมสุขภาพแก่ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 กรณีศึกษา ศูนย์สุขภาพชุมชนโพหวาย. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ, 32(1), 57-67.

เรียมรัตน์ รักเสมอวงศ์ และพิสมัย หวังผล. (2562). ผลการปฏิบัติสมาธิ บำบัดแบบ SKT ท่า 1 และท่า 3 ต่อระดับ HbA1c ในผู้ป่วย โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลทรายมูล จังหวัดยโสธร. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10, 17(2), 28-36.

ศรัณยา เพิ่มศิลป์, รุจิรา ดวงสงค์. (2554). ผลของการประยุกต์ใช้ทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมใน การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับบริการโรงพยาบาลอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิจัยมข., 11(4), 89-100.

สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ. (2566). แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2566. กรุงเทพฯ: ศรีเมืองการพิมพ์.

สมพงษ์ หามวงค์และพรรณี บัญชรหัตถกิจ. (2556). ผลของโปรแกรมสุขศึกษาโดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีความสามารถแห่งตนร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับบริการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองกุงเผือก อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์. ศรีนครินทร์เวชสาร, 28(4), 451-460.

สหรัฐ หมื่นแก้วคราม และรุจิรา ดวงสงค์. (2556). ผลของโปรแกรมการพัฒนาพฤติกรรมเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนโรคไตในผู้เบาหวานชนิดที่ 2: กรณีศึกษาที่โรงพยาบาลบ้านผือ อำเภอบ้านผือ จังหวัด อุดรธานี. ศรีนครินทร์เวชสาร, 28(4), 461-468.

อุระณี รัตนพิทักษ์, กีรดา ไกรนุวัตร, อภิรดี ศรีวิจิตรกมล, และจุฑาทิพย์ วิภา วัฒนะ. (2556). ผลของโปรแกรมการจัดการเบาหวานด้วยตนเองต่อความรู้พฤติกรรมและดัชนีสุขภาพในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารพยาบาลศาสตร์, 31(1), 7-18.

Aekplakorn W, Chariyalertsak S, Kessomboon P, Assanangkornchai S, Taneepanichskul S, Putwatana P. (2018). Prevalence of diabetes and relationship with socioeconomic status in the Thai population: national health examination survey, 2004–2014. Journal of Diabetes Research, 1654530.

Davies MJ, D’Alessio DA., et al. (2018). Management of hyperglycemia in type 2 diabetes. A consensus report by the American Diabetes Association (ADA) and the European Association for the Study of Diabetes (EASD). 41(12):2669-701.

Diabetes Association of Thailand. (2017). Clinical practice guideline for diabetes 2017. Pathumthani: Romyen Media Company Limited. Federation I. (2019). IDF Diabetes Atlas, 9th ed. Brussels, Belgium.

Riddle, M. C., Gerstein, H. C., Holman, R. R., Inzucchi, S. E., Zinman, B., Zoungas, S., & Cefalu, W. T. (2018). A1C Targets Should Be Personalized to Maximize Benefits While Limiting Risks. Diabetes Care, 41(6), 1121-1124. doi:10.2337/dci18-0018.

Rapat Eknithiset, & Ratana Somrongthong. (2017). Effectiveness of a diabetes mellitus pictorial diary handbook program for middle-aged and elderly type 2 diabetes mellitus patients: a quasi-experimental study at Taladnoi Primary Care Unit, Saraburi, Thailand. Journal of Multidisciplinary Healthcare, 327–334.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-08-29

รูปแบบการอ้างอิง

จันทะศิลป์ ว. ., บัญชรหัตถกิจ พ. ., ชาญชัย ว. ., & โยธาสุภาพ อ. . (2024). โปรแกรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 13(2), 19–31. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ubruphjou/article/view/266978

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความปริทัศน์