ผลการใช้โปรแกรมชุดช่วยเหลือใส่ใจในการใช้ยาในผู้ป่วยเรื้อรังกลุ่มผู้สูงอายุต่อพฤติกรรมการรับประทานยาโรคเรื้อรัง

ผู้แต่ง

  • อุส่าห์ สุทธิชยาพิพัฒน์ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
  • กิติพร เนาว์สุวรรณ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันบรมราชชนก
  • บุญประจักษ์ จันทร์วิน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันบรมราชชนก

คำสำคัญ:

โปรแกรมการช่วยเหลือ, พฤติกรรมการใช้ยา, ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

บทคัดย่อ

วิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบสองกลุ่มวัดก่อนและหลังการทดลองมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการใช้ยาของผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังระหว่างก่อนและหลังใช้โปรแกรมในกลุ่มทดลอง และ เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการใช้ยาของผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือเบาหวาน โดยการสุ่มอย่างง่าย ได้กลุ่มตัวอย่าง 70 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 35 คน กลุ่มควบคุม 35 คน ระยะเวลาทดลองระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน 2567 เครื่องมือที่เป็นแบบสอบถามประเมินพฤติกรรมการใช้ยา และโปรแกรมช่วยเหลือใส่ใจในการใช้ยาในผู้ป่วยเรื้อรังกลุ่มผู้สูงอายุ วิเคราะห์ใช้สถิติพรรณนา Chi-square, Fisher exact  test, Independent t -test,   Wilcoxon Signal Rank test,  และ Man Witney u test 

               ผลการวิจัย พบว่า  ผู้สูงอายุในกลุ่มทดลอง มีค่าเฉลี่ยคะแนนพฤติกรรมการใช้ยาเรื้อรังที่เหมาะสมสูงขึ้น(Mean=110.57 ,SD=5.34)กว่าก่อนทดลอง(Mean=84.34 ,SD=11.24)อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .001 และมีค่าเฉลี่ยคะแนนพฤติกรรมกรรมการใช้ยาที่เหมาะสมสูงขึ้นหลังการทดลอง(Mean=110.57 ,SD=5.34)สูงกว่ากลุ่มควบคุม(Mean=82.51, SD=12.18)อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001

               ฉะนั้น ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังในคลินิกและในชุมชนสามารถนำรูปแบบชุดโปรแกรมชุดช่วยเหลือใส่ใจในการใช้ยาต่อพฤติกรรมการรับประทานยาของผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังไปดูแลผู้ป่วยได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลเรื่องการรับประทานยาของผู้ป่วยได้

เอกสารอ้างอิง

ชัยรัตน์ ฉายากุล, และคณะ. (2558). คู่มือการดำเนินงานโครงการโรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

ทิพารัตน์ คงนาวัง. (2556). ผลของการพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

นรินทร์ หมื่นแสน, & สุชาดา ไกรพิบุลย์. (2557). การมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุหมู่บ้านทุ่งหลุก อำเภอเชียงดาว เชียงใหม่. วารสารพยาบาลสาร, 41(1), 1–12.

ปิยะดา ยุ่ยฉิม, และคณะ. (2561). ผลโปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการจัดการปัญหาการใช้ยาต่อพฤติกรรมการใช้ยาของผู้สูงอายุโรคเรื้อรังในชุมชน. วารสารสาธารณสุข, 48(1), 44–56.

เปลื้อง ณ นคร. (2542). พจนานุกรม. สืบค้นจาก https://digital.library.tu.ac.th/tu.du/creator/person.dc

สมาคมโรคความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. (2562). แนวทางการดำเนินงานโรคความดันโลหิตสูงในเวชปฏิบัติทั่วไป. กรุงเทพฯ. สืบค้นจาก https://www.thaihypertension.org

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช. (2567). รายงานประจำปี 2566. กระทรวงสาธารณสุข.

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2554). การประชุมการพัฒนาศักยภาพ Case Manager เพื่อนำสู่การพัฒนาระบบบริการโรคเรื้อรังในหน่วยบริการ; 3 พฤษภาคม 2554. สืบค้นจาก https://des.moph.go.th/uploads2554

สุภาพร เพ็ชรอาวุธ, และคณะ. (2558). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการจัดการโรคเบาหวานด้วยตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารพยาบาล, 29(4), 18–26.

Faul, F., Erdfelder, E., Lang, A. G., & Buchner, A. (2007). G*Power 3: A flexible statistical power analysis program for the social, behavioral, and biomedical sciences. Behavior Research Methods, 39(2), 175–191. https://doi.org/10.3758/BF03193146

Sebern, M. (2005). Shared Care elder and family member skills used to manage burden. Journal of Advanced Nursing, 52(2), 170–179. https://doi.org/10.1111/j.1365-2648.2005.03577.x

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-29

รูปแบบการอ้างอิง

สุทธิชยาพิพัฒน์ อ. ., เนาว์สุวรรณ ก. ., & จันทร์วิน บ. . (2025). ผลการใช้โปรแกรมชุดช่วยเหลือใส่ใจในการใช้ยาในผู้ป่วยเรื้อรังกลุ่มผู้สูงอายุต่อพฤติกรรมการรับประทานยาโรคเรื้อรัง. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 14(2), 5–14. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ubruphjou/article/view/270529

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ