การศึกษาเปรียบเทียบระดับการติดสารนิโคติน ระหว่างการใช้สมุนไพรหญ้าดอกขาวและการนวดบำบัด

บทคัดย่อ

บทนำ: การสูบบุหรี่ เป็นต้นเหตุของโรคถุงลมโป่งพองและมะเร็งปอด ศาสตร์การแพทย์แผนไทยที่เข้ามามีบทบาทในการลดอาการอยากบุหรี่ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันคือสมุนไพรหญ้าดอกขาวและการนวดกดจุดบำบัดลดอาการอยากบุหรี่ จึงนำวิธีการดังกล่าวมาบำบัดผู้ที่มีอาการติดบุหรี่เพื่อให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น และเป็นการนำสมุนไพร ภูมิปัญญาไทยและการนวดซึ่งเป็นมรดกดั้งเดิมของแพทย์แผนไทยมาใช้บำบัดผู้ป่วยที่สูบบุหรี่
วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบระดับการติดสารนิโคตินระหว่างกลุ่มใช้สมุนไพรหญ้าดอกขาวและกลุ่มที่ใช้วิธีนวดบำบัด
วิธีการวิจัย: งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) เพื่อศึกษาระดับการติดนิโคตินโดยใช้สมุนไพรหญ้าดอกขาวและการนวดบำบัด โดยใช้เครื่องมือแบบประเมินฟาเกอร์สตรอมเพื่อวัดระดับการติดสารนิโคติน (Fagerstrom Test for Nicotine Dependence) ทั้งก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการ โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 40 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่ใช้สมุนไพรหญ้าดอกขาว 20 คน และกลุ่มที่ใช้การนวดบำบัด 20 คน วิเคราะห์ด้วยสถิติ Wilcoxon Matched-pairs Signed rank test, Mann-Whitney U Test และสถิติเชิงพรรณนา
ผลการวิจัย: ค่าเฉลี่ยปริมาณสารนิโคตินหลังใช้สมุนไพรหญ้าดอกขาวลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Z= -3.349, p =0.001) เช่นเดียวกับปริมาณสารนิโคตินหลังการนวดบำบัด ซึ่งพบว่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Z= -2.636, p =0.008) อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มสมุนไพรหญ้าดอกขาวและกลุ่มนวดบำบัดด้วยสถิติ Mann-Whitney U test พบว่าการลดระดับสารนิโคตินไม่แตกต่างกัน (p = 0.862)
สรุปผล: สมุนไพรหญ้าดอกขาวและการนวดบำบัดสามารถลดระดับสารนิโคตินได้ ซึ่งประสิทธิผลในการลดระดับสารนิโคตินทั้งสองกลุ่มไม่แตกต่างกัน