ความชุกและปัจจัยเสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยินของเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลปากช่องนานา

ผู้แต่ง

  • พิพัฒน์ แจ่มพัฒนกิจ Region 11 Medical Journal

คำสำคัญ:

ประสาทหูเสื่อมเนื่องจากการทำงานในที่ที่มีเสียงดัง, เริ่มมีการสูญเสียการได้ยิน, ประสาทหูเสื่อม

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องความชุกและปัจจัยเสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยินของเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยงโรงพยาบาลปากช่องนานา เป็นงานวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยง ต่อการสูญเสียการได้ยินในเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยงโรงพยาบาลปากช่องนานา ได้แก่ อายุ อายุงาน ชั่วโมงการทำงานที่สัมผัสเสียงดัง โรคประจำตัว ความรู้และพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงดังขณะปฏิบัติงาน กลุ่มตัวอย่างได้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในหน่วยต่างๆที่มีเสียงดังทั้งหมดจำนวน 77 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบสอบถามซึ่งประกอบด้วยข้อมูล 2 ส่วนคือข้อมูลทั่วไป และแบบวัดความรู้ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญและทดสอบความเชื่อมั่นโดยวิธีอัลฟาของครอนบาค มีค่าเท่ากับ 0.82 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยตรวจวัดเสียงตามหน่วยงาน และตรวจวัดการได้ยินเจ้าหน้าที่กลุ่มตัวอย่างระหว่างวันที่ 1- 28 กุมภาพันธ์ 2561 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาได้แก่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติอนุมานได้แก่ Chi-square test และ ODDS ratio
ผลการวิจัย พบกลุ่มตัวอย่างมีการได้ยินปกติ 47 คน คิดเป็นร้อยละ 61 พบเริ่มมีการสูญเสียการได้ยิน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 27.3 และพบว่ามีผู้สูญเสียการได้ยิน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 11.7 ส่วนปัจจัยเสี่ยงของการสูญเสียการได้ยินพบว่า อายุ อายุการทำงานในโรงพยาบาลและในหน่วยงานมีความสัมพันธ์ กับการสูญเสียการได้ยิน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติโดย กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุมากกว่า 45 มีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มที่อายุน้อยกว่า 35 ถึง 19.5 เท่า ส่วนอายุการทำงานในโรงพยาบาลพบว่าคนที่ทำงานนานกว่า 10 ปี มีความเสี่ยงสูงกว่าคนที่ทำงานน้อยกว่า 10 ปีถึง 10.6 เท่า และระยะเวลาที่ทำงานในหน่วยงานพบว่าคนที่ทำงานในหน่วยงานนั้นเกิน 10 ปีมีความเสี่ยงสูงกว่าคนที่ทำงานน้อยกว่า 10 ปีถึง 18.5 เท่า ปัจจัยเสี่ยงเรื่องอายุ อายุการทำงานในที่มีเสียงดังเป็นปัจจัยหลักต่อการสูญเสียการได้ยิน
ดังนั้นผู้บริหารควรมีการวางแผนเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันการสูญเสียการได้ยินในบุคลากรกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง

เอกสารอ้างอิง

Nelson DI, Nelson RY, Concha-Barrientos M, Fingerhut M. The global burden of occupational noise -i nduced hearing
loss. Am J Ind Med; 2005;48:446-58.

National Institute for Occupational Safety and Health.Criteria for are commended standardoccupational noise exposure revised criteria.(Online). 1998 [Cited 2013 Sep 12]. Available from :http://www.nonoise.org/hearing/criteria/criteria.htm.

World Health Organization Grades of hearing impairment. Available from :http://www.who.int/pbd/deafness/hearing_impairment_grades/en/index. Html
[Cited 2008 June 5]

ภูษิต เฟื่องฟู, ช่อจิต หรั่งศิริ, วิโชติ บุญเปลี่ยน, สมถวิล นุกิจ, ศุภดิศ สงวนนวน, พงษ์เทพ หารชุมพล และคณะ. การสูญเสียสมรรถภาพการได้ยินจากเสียงในโรงซักรีดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และการจัดการด้านอาชีวอนามัย. เวชสารแพทย์ทหารบก; 2556; 66:161-8.

ธิติยา รักษ์ศรี. การติดตามสมรรถภาพการได้ยินจากการทำงานในคนงานโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เปรียบเทียบย้อนหลัง 3 ปี; 2545

อุษา ศิริบุญฤทธิ์, ดาวลอย เพิ่มพูลผล,สุวพร สอนสุทธิ์, พรรัตน์ พงษ์สวัสดิ์, ไพบูรณ์ เอื่อมอินทร์. การศึกษาผลการตรวจการได้ยินของเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยินโรงพยาบาลชลบุรี. วารสารโรงพยาบาลชลบุรี; 2550; 32:103-110

ฉัตรชัย วรวรรโณทัย. การศึกษาผลการตรวจการได้ยินของเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยินโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช; 2551

นันท์มนัส บุญโล่ง, ศราวุธ ดำอุดม, กมลพรรณ โลหกุล, รุ่งกานต์ เพชรล้วน.ความชุกของการสูญเสียสมรรถภาพการได้ยินและความสัมพันธ์ระหว่าง ปัจจัยคัดสรรกับการสูญเสียสมรรถภาพการได้ยินในการปฏิบัติงาน. วารสารวิชาการแพทย์เขต11; 2556 :7(2):327 - 336

Lawrence W. Green, Marshall W. Kreuter.Precede-proceed Framework . (online) 2560. (สืบค้นเมื่อ วันที่ 25 ธันวาคม 2560; Available from: www.med.cmu.ac.th

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-06-01

รูปแบบการอ้างอิง

แจ่มพัฒนกิจ พ. (2018). ความชุกและปัจจัยเสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยินของเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลปากช่องนานา. วารสารวิชาการแพทย์เขต 11, 32(2), 981–992. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Reg11MedJ/article/view/156356

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ