การพัฒนาแนวปฏิบัติทางการพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคไข้เลือดออก โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต

ผู้แต่ง

  • รุ่งวิภาษ์พร เอี้ยวกฤตยากร
  • ภาวิตา วิภวกานต์
  • อรกมล จิรกิจประภา
  • ศรีสุดา เกษศรี
  • รณวีร์ ยอดวารี
  • ผกาทิพย์ ทองพลาย Region 11 Medical Journal

คำสำคัญ:

แนวปฏิบัติทางการพยาบาล, ไข้เลือดออกในเด็ก, เด็ก

บทคัดย่อ

การวิจัยพัฒนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติ นำใช้ และประเมินผลลัพธ์ของแนวปฏิบัติทางการพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคไข้เลือดออก โดยประเมินจากการปฏิบัติของพยาบาลตามแนวทางที่กำหนด(nurses’ compliance)และผลลัพธ์ทางคลินิกของผู้ป่วย (patients’ clinical outcomes) การศึกษานี้เป็นงานวิจัยและพัฒนาศึกษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต โดยใช้กระบวนการ 7 ขั้นตอน ดังนี้ (1)จัดตั้งทีมพัฒนา (2) ระบุปัญหาทางคลินิกและผลลัพธ์โดยใช้รูปแบบPICO (3) รวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เกี่ยวข้องและทันสมัย ตรวจสอบความน่าเชื่อถือโดยใช้เกณฑ์ Joanna Briggs Institute (JBI) (4) กำหนดแนวปฏิบัติการพยาบาลและแผนภูมิการตัดสินใจ (algorithm) (5) ตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน (6) ทดลองใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลที่แผนกผู้ป่วยนอกเด็ก ห้องฉุกเฉิน หอผู้ป่วยเด็กและแผนกผู้ป่วยหนัก (7) ประเมินผลจากแบบสอบถามพยาบาลผู้ใช้แนวปฏิบัติการพยาบาล 20 คน และประเมินผลลัพธ์คลินิกจากบันทึกทางเวชระเบียนของผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไข้เลือดออกจำนวน 16 คน ภายหลังการทดลองใช้ได้รับการปรับปรุงและวางแผนประกาศใช้ในโรงพยาบาลต่อไป ผลการวิจัยแนวปฏิบัติทางการพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคไข้เลือดออก มี 3 องค์ประกอบ และ60 ข้อเสนอแนะ : (1) การพยาบาลระยะไข้ (2) การพยาบาลระยะวิกฤต และ (3) การพยาบาลระยะพักฟื้น พยาบาลส่วนใหญ่ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติการพยาบาลที่กำหนด (ร้อยละ84.6-100)ไม่มีผู้แทรกซ้อนจากภาวะเลือดออก อวัยวะล้มเหลวหรือเสียชีวิต จากการวิจัยดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า แนวปฏิบัติทางการพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคไข้เลือดออกที่พัฒนาขึ้น มีประโยชน์เป็นแนวทางให้พยาบาลป้องกัน เฝ้าระวังและจัดการภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและเสียชีวิตได้

เอกสารอ้างอิง

World Health Organization [WHO]. Dengue and sever dengue: Fact sheet. [online]. 2017. [cited 2017 Jun 12].Available from :http:// www.who.int/mediacenter/actsheets/s117/en/

กันยาวีร์ ภัทรเมธาพร, พัชรินทร์ วันสามพันธ์, เจนจิรา สุขประเสริฐ. แนวปฏิบัติการพยาบาลสำหรับการดูแลผู้ป่วยเด็กโรคไข้เลือดออกโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา: โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา;2558.

Gubler DJ. Epidemic dengue/dengue hemorrhagic fever as a public health, social and economic problem in the 21st century. Trends microbial; 2002; 10(2):100-103.

Tantawichien T. Dengue fever and dengue haemorrhagic fever in adolescents and adults. Paediatr Int Child Health; 2012; 32(s1):22-27.

โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต. รายงานการเก็บตัวชี้วัดของแผนก 4A, 4B: โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต; 2555-2558.

The Joanna Briggs Institute. New JBI levels of evidence. [online]. 2014. Available from: http://joannabriggs.org/assets/docs/approach/JBI-levels-of-evidence_2014.pdf.

The Joanna Briggs Institute. New JBI grades of recommendation. [online]. 2014. Available from:http://joannabriggs. org/assets/docs/approach/JBI-grades-of-recommendation_2014.pdf.

Centers for Disease control and Preventionn. Dengue Case Management for Clinicians. [online]. 2016. [cited 2013 Aug 14];Available from: https ://www.cdc. gov/
dengue/resources/DENGUE-clinician-guide_508.pdf.

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมวิชาชีพ. แนวทางการวินิจฉัยและการรักษาไข้เดงกีและไข้เลือดออกเดงกีในผู้ใหญ่ปี พ.ศ. 2556. [ออนไลน์]. 2556.[เข้าถึงเมื่อวันที่ 10 ต.ค.2559]. เข้าถึงได้จาก: www.rcpt.Org> index.php>category.

โรงพยาบาลกรูงเทพภูเก็ต. แนวทางการดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออก:โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต;2557.

สาวิตรี อภัยราช, เพ็ญกมล กุลสุ. การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกโรงพยาบาลกำแพงเพชร. ลำปางเวชสาร;2557; 35(1): 1-8

จำเรียง พรมมา. การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลผป่วยไข้เลือดออกโรงพยาบาลขอนแก่น [อินเทอร์เน็ต]. 2554. [เข้าถึงเมื่อวันที่15 ต.ค.2559]. เข้าถึงได้จาก:http://
tdc.thailis.or.th/ tdc/advance

กิตติพงศ์ เดียววิวัฒนาวิวัฒน์, จิรนิษฐ์พึ่งสำโรง, ทรรศนะ ธรรมรส, พนัฐพงษ์ พีระพัฒนพงษ์, มานะ บุญประทุม และ ศริญญา ตั้งสิทธิโชค. ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดภาวะช็อกจากไข้เลือดออกเดงกีในผู้ป่วยเด็ก. วารสารโรงพยาบาลพิจิตร ; 2555;27(2): 42-55

วนิดา แสนพุก. การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยเด็กไข้เลือดออกโรงพยาบาลนครพนม. วารสารโรงพยาบาลนครพนม; 2557; 1 (1): 16-28.

สุรียาพร ตั้งศรีสกุล. ปัจจัยพยากรณ์ภาวะช็อกในโรคไข้เลือดออกในเด็ก. วารสารวิชาการสาธารณสุข;2013; 22(2): 265 - 276.

เอื้อนจิตร สีสลับ. การพยาบาลผู้ป่วยไข้เลือดออกที่มีระยะช็อกบุรีรัมย์. วารสารการแพทย์รพ.ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์; 2556; 28(3): 207- 215.

Huy NT, Giang VT, Thuy DHD, Kikuchi M, Hien TT, Zamora J et al. Factors associated with dengue shock syndrome: a systematic review and meta-analysis.
PLoS Negl Trop Dis; 2013;7(9):1-15.

Bhave S, Rajput CS, Bhave S. Clinical profile and outcome of dengue fever and dengue haemorrhgic fever in paediatric age group with special reference to who guidelines o n fluid management of dengue. Int J Adv Res; 2015; 3(4):196-201.

Centers for Disease control and Prevention. Clinical guidance: Dengue virus. [online]. 2014. [cited 2014 Sep 6]; Available from URL: https://www.cdc.gov/dengue/clinicallab/clinical.html.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-06-04

รูปแบบการอ้างอิง

เอี้ยวกฤตยากร ร., วิภวกานต์ ภ., จิรกิจประภา อ., เกษศรี ศ., ยอดวารี ร., & ทองพลาย ผ. (2018). การพัฒนาแนวปฏิบัติทางการพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคไข้เลือดออก โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต. วารสารวิชาการแพทย์เขต 11, 32(2), 1105–1114. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Reg11MedJ/article/view/156880

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ