การใช้กลวิธีหลากหลายเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามแนวทางป้องกันและควบคุมการ แพร่กระจายเชื้อดื้อยา ในโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
คำสำคัญ:
กลวิธีหลากหลาย, แนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาบทคัดย่อ
การแพร่กระจายเชื้อผ่านมือและอุบัติการณ์การติดเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้น การปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาของบุคลากรโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตโดยใช้กลวิธีหลากหลาย และศึกษาความคิดเห็นของบุคลากรโรงพยาบาลที่มีต่อแนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา ดำเนินการศึกษา ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2557 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ.2558 การใช้กลวิธีที่หลากหลาย ได้แก่ การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ อบรม IC Delivery การติดโปสเตอร์เตือน การจัดบอร์ด การประเมินผลและการให้ข้อมูลย้อนกลับ การสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลและอุปกรณ์การแพทย์ การเพาะเชื้อในสิ่งแวดล้อม และการรณรงค์การทำความสะอาดมือ เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1.แนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา 2.แบบบันทึกการสังเกตการปฏิบัติการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา 3.แบบสอบถามเรื่อง การใช้ประโยชน์และความพึงพอใจต่อแนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา
ผลการศึกษาพบว่าการใช้กลวิธีหลากหลายทำให้บุคลากรมีการปฏิบัติตามแนวการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาได้ถูกต้องเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.97 และความชุกของเชื้อดื้อยาลดลงจาก 1.08 เป็น 0.61 ครั้งต่อ 1000 วันนอน
กลวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มการปฏิบัติอย่างถูกต้องของบุคลากร คือการอบรม IC Delivery ในหอผู้ป่วย โรงพยาบาลควรสนับสนุนสิ่งที่บุคลากรพึงพอใจน้อย ได้แก่ ห้องแยก เครื่องมือสำหรับแยกให้กับผู้ป่วย อุปกรณ์ป้องกันและป้ายแยกผู้ป่วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา
เอกสารอ้างอิง
2. Lee, N. Y., Lee, H. C., Ko, N. Y., Chang, C. M., Shih, H. I., Wu, C.J., & Ko, W.C. Clinical and economic impact of multidrug resistance in nosocomial Acinetobacter baumannii bacteremia. Infection Control and Hospital Epidemiology 2007; 28(6): 713-719.
3. Fillice, G. A., Nyman, J. A., Lexau, C., Lee, C. H., Bockstedt, L. A., Como-Sabetti, K., et al. Excess cost and utilization associated with methicillin resistance for patients with Staphylococcus aureus infection. Infection Control and Hospital Epidemiology 2010 ; 31: 365-373.
4. Centers for Disease Control and Prevention. Antibiotic Resistance Threats in the US. Retrieved April 2, 2016. from http;//www.cdc.gov/features/Antibiotic Resistance Threats/index.html.
5. Jang, T. N., Lee, S. H., Huang, C. H., Lee, C. L., & Chen, W. Y. Risk factors and impact of nosocomial Acinetobacter baumannii bloodstream infections in the adult intensive care unit: a case–control study. Journal of Hospital Infection 2009; 73(2): 143-150.
6. Rohr,U Kaminski, A., Wilhelm, M., Jurzik, L., Gatermann, S., & Muhr, G. Colonizations Of patients and contamination of the patients and environmental by MRSA under conditions of single room isolation. International journal of Hygiene and Environmental health 2009; 212(2): 209-215. Retrieved from http://dx.doi.org/10.1016j.ijheh.2008.05.003
7. ชมรมป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล. แนวทางปฏิบัติการป้องกันและควบคุมเชื้อก่อโรคดื้อยา กรุงเทพฯ: สำนักงานพระพุทธศาสนา, 2557.
8. Siegel, J. D., Rhinehart, E., Jackson, M., & Chiarello, L. Guideline for isolations precaution: preventing transmission of infections agents in healthcare settings. American Journal of Infection Control 2006 ; 35: 65-164.
9. Aboelela, S.W., Stone, P. W., & Larson, E. L. Effectiveness of bundled behavioral interventions to control healthcare-associated infections: a systematic review of the literature. Journal of Hospital Infection 2007; 66: 101-108.
10. Pearson, A., Wiechula, R., Court, A., & Lockwood, C. The Joanna Briggs Institute model of evidence- based healthcare. International Journal Evidence-based Healthcare 2005; 3(8): 207-215.
11. Pearson, A., Field, J., & Jordan, Z. Evidence-based clinical practice in nursing and health care. Singapore: Blackwell publishing, 2007.
12. ขวัญตา กล้าการนา. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมความรู้และการปฏิบัติของพยาบาลต่อการ ควบคุมการแพร่กระจายเชื้อสแตปฟิโลคอกคัสออเรียสที่ดื้อต่อยาเมธิซิลลินในหอผู้ป่วยหนัก. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลด้านการควบคุมการติดเชื้อ, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2550.
13. Apisarnthanarak , A., Pinitchai, U., Thongphubeth, K., Yuekyen, C., Warren, D. K., & Fraser, V. J. A multifacted intervention to reduce pandrug-resistant Acinetobacter baumannii colonization and infection in 3 intensive care units in a Thai tertiary care center: a 3-year study. Clinical Infectious Diseases 2008; 47:760–7760 - 7. Retrieved April 13, 2013. from http://cid.oxfordjournals.org/html.
14. คณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต. รายงานการเฝ้าระวังการติดเชื้อใน โรงพยาบาล. งานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต, 2556.
15. คณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต. รายงานการเฝ้าระวังการติดเชื้อใน โรงพยาบาล. งานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต, 2557.
16. วิเชียร วิทยอุดม. องค์การและการจัดการ (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพ: ธนธัชการพิมพ์ จำกัด, 2555.
17. Centers for Disease Control and Prevention. Management of multidrug-resistance organisms in healthcare settings 2006. Retrieved September 9, 2009. From http;//www.cdc.gov/ncidod/dhqp/gl_m droguideline 2006.html
18. Brinsley, S. C., Sinkowitz-Cochran, C., & CDC Campaign. Assessing motivation for physicians to prevent antimicrobial resistance in hospitalized children using the Health Belief Model as a framework. American Journal of Infection Control 2005; 7(47): 175-181.
19. Creedon, S. A. Healthcare workers, hand decontamination practices: Compliance with recommended guidelines. Journal of Advance Nursing 2005; 51(3): 208-216.
20. Loveday, H. P., Pellowe, C., M., Jones, S. R. J., & Pratt, R. J. A systematic review of the evidence for interventions for the prevention and control of meticillin-resistant Stapphylococcus aureus (1996-2004): Report to the Joint MRSA Working Party (Subgroup A). Journal of Hospital Infection, 63 (Supplement 1) 2006;45-70.
21. ประภาพร ขำสา. ผลของการส่งเสริมการปฏิบัติตามหลักฐานเชิงประจักษ์ในการป้องกันการติดเชื้อต่อความรู้และการปฏิบัติของพยาบาลในการแยกผู้ป่วยตามวิถีทางการแพร่กระจายเชื้อ ในสถาบันบาราศนราดูร. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลด้านการควบคุมการติดเชื้อ, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , 2552.
22. ชุติมา อ่อนสอาด. ผลของโปรแกรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อสแตปฟิโลคอกคัสออเรียสที่ดื้อต่อยาเมธิซิล ลินต่อความรู้และการปฏิบัติของพยาบาลในหอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิด. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลด้านการควบคุมการติดเชื้อ, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2554.
23. Cromer, A. L., S. C. Latham. Monitoring and feedback of hand hygiene compliance and the impact on facility-acquired methicillin-resistant Staphyllococcus aureus. American Journal of Infection Control 2008; 36(9): 672-677.
24. Kagan, I., Kigli-Shemesh, R., & Tabk, N. Let me tell you what I really think about you evaluating nursing managers using anonymous staff feedback. Journal of Nursing Management 2006; 14: 356-365.
25. Moongtui, W., Gauthier, D. K., & Turner, J. G. Using peer feedback to improve hand washing and glove usage among Thai health care worker. American Journal of Infection Control 2000; 28(5): 365-369.
26. กิดานันท์ มลิทอง. สื่อการสอนและฝึกอบรม: จากสื่อพื้นฐานถึงสื่อดิจิทัล. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2544.
27. Jenner, E. A., Jones, F., Fletch, B. C., Miller, L., & Scott, G. M. Hand hygiene poster: Motivators or mixed massages. Journal of Hospital Infection 2005; 60: 218-225.
28. Randle, J., Clark, M., & Storr, J. Hand hygiene compliance in healthcare workers. Journal of Hospital Infection 2006; 64: 205-209.
29. ปทิตตา สุภารส. ผลของการส่งเสริมการปฏิบัติตามหลักฐานเชิงประจักษ์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อต่อความรู้และการปฏิบัติของบุคลากรพยาบาลในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบบมาตรฐานในโรงพยาบาลชุมชน. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลด้านการควบคุมการติดเชื้อ. บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2551.
30. กุศลธิดา โสมพงษากุล. ผลของการส่งเสริมการปฏิบัติตามหลักการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบบมาตรฐานต่อการปฏิบัติและอุบัติการณ์การสัมผัสเลือดและสารคัดหลั่งของพยาบาลวิชาชีพแผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลด้านการควบคุมการติดเชื้อ, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2551.
31. Gould, D. J., Hewitt-taylor, J., Drey, N. S., Gammom, J., Chudleight, J., & Weinberg, J. R. The clean your hands compaign: Critiquing policy and evidence base. Journal of Hospital Infection 2007; 65: 95-101.
32. ประจวบ ทองเจริญ , วันชัย มุ้งตุ้ย และ อะเคื้อ อุณหเลขกะ.ผลของการใช้กลวิธีหลากหลายต่อการปฏิบัติของบุคลากรสุขภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาหลายขนาน. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลด้านการควบคุมการติดเชื้อ, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2558.
33. ปิยฉัตร วิเศษศิริ, อะเคื้อ อุณหเลขกะ และนงเยาว์ เกษตร์ภิบาล. การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการปฏิบัติการป้องกันการติดเชื้อดื้อยาของบุคลากรพยาบาล แผนกอายุรกรรมในโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลด้านการควบคุมการติดเชื้อ, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2556.