Effectiveness of Behavioral Reformative Program for Stroke Prevention Among Hypertensive Patients in Koh Phangan Hospital, Suratthani.
Keywords:
Stroke, Hypertension, Behavioral reformative programAbstract
This quasi experimental study aimed to evaluate effectiveness of behavioral reformative program for stroke prevention among hypertensive patients in Koh Phangan Hospital, Suratthani. Study was conducted during October 2013 to September, 2014. The 76 hypertensive patients were participated the behavioral reformative program for stroke prevention with acceptable and social support of stroke prevention were applied in group process during 12 weeks by researcher.
Knowledge, perception, attention to treat and stroke prevention behavioral was collected by questionnaire before and after participated the behavioral reformative program for stroke prevention.
Descriptive statistics including frequency percentage mean minimum maximum and standard deviation were used to analyze the data. Paired sample t-test was used to analyze the differential.Finding revealed that before and after participated the behavioral reformative program for stroke prevention the average knowledge score of stroke prevention were 10.4 and 14.7, the average perception score of stroke prevention were 80.3 and 93.6, the average attention to treat of stroke prevention were 23.2 and 27.2, and the average stroke prevention behavioral score were 43.9 and 56.6 with statistically significant (t=-13.4 -15.5 -13.2 and -25.3 respectively p<0.05). Therefore the health ministry should be supporting policy on proactive health service of health promotion with health education regarding behavioral reformative program and extend to other patients such as diabetics and psychosis.
References
2. นุชรี อาบสุวรรณ, นิตยา พันธุเวทย์ และเมตตาคำพิบูลย์. ประเด็นสารวันรณรงค์อัมพาตโลก ปี 2553 (งบประมาณ 2554). ค้นเมื่อ 20 กันยายน 2557, จาก http://www.thaincd.com/document/file/news/announcement/cerebrovascular_ disease.pdf 2553.
3. สำนักโรคไม่ติดต่อ. คู่มือความรู้เรื่องอัมพาตสำหรับประชาชน. กรุงเทพฯ: ส?ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข. 2554.
4. สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์. จำนวนและอัตราตายด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ปี 2553-2556. นนทบุรี:กระทรวงสาธารณสุข. 2557.
5. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี. รายงานประจ?ำปี 2556. สุราษฎร์ธานี: ธัญญารัตน์โอเอ. 2556.
6. Bloom, B. Taxonomy of Education Objective Handbook I. Cognitive Domain.New York: David Mckay.1971.
7. ปราณี ลอยหา. ประสิทธิผลของการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการกำกับตนเอง ร่วมกับการสนับสนุนทาง สังคมเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ไม่สามารถควบคุมระดับ ความดันโลหิตให้อยู่ในภาวะปกติ ศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลบ้านค้อ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตร มหาบัณฑิตสาขาวิชาสุขศึกษาและ
การส่งเสริมสุขภาพ บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัย ขอนแก่น. 2550.
8. ใจเพชร พลสงคราม. ผลของโปรแกรมสุขศึกษาโดยการใช้กระบวนการกลุ่มร่วมกับแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพเพื่อการปรับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของหัวหน้าครอบครัว ศูนย์สุขภาพชุมชนนาข่า-โคกคอน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย. วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและการส่งเสริมสุขภาพ บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัย ขอนแก่น. 2549.
9. อธิพงศ์ พิมพ์ดี. ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขศึกษาโดยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพและการสนับสนุนทางสังคมร่วมกับการออกกำลังกายโดยการเต้นรำจังหวะ Paslop เพื่อป้องกันการหกล้มในหญิงไทยก่อนวัยสูงอายุ จังหวัดร้อยเอ็ด. วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและการส่งเสริมสุขภาพ บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2553.
10. วรฉัตร คงเทียม. ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขศึกษาโดยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีความสามารถ ตนเองร่วมกับแรง
สนับสนุนทางสังคมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดอาการปวดหลังส่วนล่าง ของกลุ่มแรงงานนอกระบบ(ทออวน) ตำบลบ้านทุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น.วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและการส่งเสริมสุขภาพ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2553.
11. เสาวลักษณ์ สัจจา. ประสิทธิผลของการประยุกต์ทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพร่วมกับ แรงสนับสนุนทางสังคม ในการส่งเสริมสตรีอายุ 35-60 ปี เพื่อมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ในศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาล 2 เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย.วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาสุขศึกษาและการส่งเสริมสุขภาพ บัณฑิต
วิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2551.
12. กมแพง พันทะวัง. ผลของโปรแกรมสุขศึกษาโดยการประยุกต์ใช้แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพและกระบวนการกลุ่ม เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่นครหลวงเวียงจันทร์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและการส่งเสริมสุขภาพ
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2553.
13. ชนิดาภา เอี่ยมสะอาด. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพโดยการประยุกต์แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพและกระบวนการกลุ่มของผู้ป่วยโรคริดสีดวงทวารหนักแผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและการส่งเสริมสุขภาพ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2550