ประสิทธิผลการใส่ฟันเทียมทั้งปากชนิดถอดได้ยึดด้วยรากฟันเทียม 2 ตัว ในกระดูกขากรรไกรล่างที่เข้ามารับการรักษาที่หน่วยงานปริทันต์โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี

บทคัดย่อ

          ที่มา: การใส่ฟันเทียมทั้งปาก เมื่อเคี้ยวอาหารหรือพูด ทำให้ฟันเทียมล่างหลวมหลุดง่าย การใส่รากฟันเทียมจะช่วยยึดฟันเทียมให้แน่นขึ้น

          วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาประสิทธิผลของการใส่ฟันเทียมทั้งปากชนิดถอดได้ที่ยึดด้วยรากฟันเทียม

          วิธีการศึกษา: การวิจัยเชิงพรรณนาเก็บข้อมูลย้อนหลัง กลุ่มตัวอย่างเป็นข้อมูลผู้ป่วยที่ได้รับการฝังรากฟันเทียม โดยยึดติดแบบลูกบอล กับฟันเทียมล่างชนิดถอดได้ ในหน่วยงานปริทันต์โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ปี 2553-2565 จำนวน 217 ราย เลือกแบบเจาะจง เก็บข้อมูลจากเวชระเบียน และฐานข้อมูลผู้ป่วยโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เครื่องมือการวิจัยคือ แบบบันทึกข้อมูลผู้ป่วยและผลการตรวจทางคลินิก ภาพถ่ายรังสีแพโนรามา และแบบประเมิน clinical implant performance scale วิเคราะห์ข้อมูลโดย สถิติเชิงพรรณนา และการทดสอบที

          ผลการศึกษา: กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 54.8 มีอายุเฉลี่ยทั้ง 2 เพศ 68.9 ปี 1) ความสามารถในการยึดอยู่ของฟันเทียมล่าง ดีขึ้นกว่าเดิม ร้อยละ 96.8 2) อัตราการอยู่รอดของรากเทียม ร้อยละ 96.8 สองในสามมีระดับการอยู่รอดของรากฟันเทียมมีความสำเร็จ รองลงมาคือมีความอยู่รอดที่น่าพึงพอใจ และมีความอยู่รอดที่ยอมรับได้ และ3) ภาวะแทรกซ้อนส่วนใหญ่มียางยึดวงกลมฉีกขาด/หลุด ร้อยละ 82.5 มากกว่าครึ่งมีการเสริม/เปลี่ยนฐานฟันเทียม และการหลวมของสกรูหลักยึด ร้อยละ 58.1 และ51.6 ตามลำดับ

          สรุป: การฝังรากฟันเทียม สามารถทำให้ความสามารถในการยึดอยู่ของฟันเทียมล่าง ดีขึ้นกว่าเดิม มีอัตราการอยู่รอดของรากฟันเทียมในระดับดี ดังนั้นจึงควรมีการขยายผลการรักษาไปยังผู้ป่วยกลุ่มวัยอื่น และพัฒนารูปแบบแกนยึดอยู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบดเคี้ยว ลดภาวะแทรกซ้อนทางทันตกรรมประดิษฐ์ให้น้อยลง เพิ่มคุณภาพชีวิตและความพึงพอใจในการใช้ฟันเทียมมากขึ้น