ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการจัดการตนเองเพื่อป้องกันภาวะกำเริบเฉียบพลัน ในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรงพยาบาลบ้านนา จังหวัดนครนายก

ผู้แต่ง

  • ประคอง เกียรติพงษ์ โรงพยาบาลบ้านนา จังหวัดนครนายก
  • ปัญญ์กรินทร์ หอยรัตน์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ

คำสำคัญ:

การจัดการตนเอง, ภาวะกำเริบเฉียบพลัน, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

บทคัดย่อ

          การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบสองกลุ่มมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการส่งเสริมการจัดการตนเองเพื่อป้องกันภาวะกำเริบเฉียบพลันในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรงพยาบาลบ้านนา จังหวัดนครนายก กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง จำนวน 60 แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม อย่างละ 30 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือการวิจัย แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1) โปรแกรมการส่งเสริมการจัดการตนเองเพื่อป้องกันภาวะกำเริบเฉียบพลันในผู้ป่วยปอดอุดกั้นเรื้อรัง ส่วนที่ 2) เครื่องมือตรวจสมรรถภาพปอด และส่วนที่ 3) แบบสอบถาม ซึ่งมีค่าความตรงเชิงเนื้อหาด้วยค่าดัชนีความสอดคล้องรายข้ออยู่ระหว่าง 0.67-1.00 และค่าความเที่ยงด้านความรู้เกี่ยวกับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและการจัดการอาการหายใจลำบาก ด้วยวิธีทดสอบ KR-20 มีค่าเท่ากับ 0.72 ด้านทัศนคติในการจัดการตนเองของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และด้านพฤติกรรมการจัดการตนเองในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค เท่ากับ 0.80 และ 0.87 ตามลำดับ ระยะเวลาจัดกิจกรรมและเก็บข้อมูล 12 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Chi-Square test, Paired Sample t-test และ Independent t-test

          ผลการวิจัย พบว่า ภายหลังการจัดโปรแกรมกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรู้เกี่ยวกับโรคปอดอุด  กั้นเรื้อรังและการจัดการอาการหายใจลำบาก ทัศนคติในการจัดการตนเองของผู้เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง พฤติกรรมการจัดการตนเองในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และอัตราการไหลของลมออกจากปอดที่สูงสุดสูงกว่าก่อนการจัดโปรแกรม และสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) ข้อเสนอแนะจากผลการวิจัย หัวหน้าหอผู้ป่วยนอก พยาบาลวิชีพ และผู้เกี่ยวข้องควรนำโปรแกรมดังกล่าวไปใช้เป็นแนวปฏิบัติให้การดูแลและสอนสุขศึกษาผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพปอดต่อไป

เอกสารอ้างอิง

กรกานต์ กระเดา. (2567). ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองต่อการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในชุมชุน โรงพยาบาลเสลภูมิ. วารสารวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ, 5(1), 126-138.

กรรณิการ์ แสนสุภา และนเรศ กันธะวงค์. (2564). การจัดการตนเอง: ทักษะในการพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน. วารสารศิลปศาสตร์ (วังนางเลิ้ง) มทร. พระนคร. 1(1), 25-37.

กัลยรัตน์ สังข์มรรทร, ศศิธร กระจายกลาง และเพ็ญจันทร์ วันแสน. (2564). การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยโรคปอด อุดกั้นเรื้อรัง โรงพยาบาลสุรินทร์. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์. 36(2), 327-342.

คุณัญญา พละศักดิ์. (2567). การพยาบาลผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มีอาการหอบกำเริบเฉียบพลัน : กรณีศึกษา. วารสารวิชาการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม. 8(15), 228-237.

งานเวชระเบียน โรงพยาบาลบ้านนา. (2567). สถิติผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. โรงพยาบาลบ้านนา จังหวัดนครนายก

ชมขวัญ แก้วพลงาม, ณัฐวดี อินทเเสน, ภานุพงษ์ อุ่นเรือนงาม และปาริชาติ นิยมทอง. (2565). ปัจจัยพยากรณ์ที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดภาวะกำเริบเฉียบพลันในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วารสารโรงพยาบาลแพร่. 30(1), 99-111.

ธัญญาภรณ์ อุปมัยรัตน์, วินีกาญจน์ คงสุวรรณ และวันดี สุทธรังษี. (2561). ผลของโปรแกรมการกำกับตนเองต่อทัศนคติการใช้ความรุนแรงและพฤติกรรมการควบคุมตนเองในนักเรียนวัยรุ่น. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต. 33(2), 13-28.

ธาดา วินทะไชย และนรลักขณ์ เอื้อกิจ (2561) ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองต่อสมรรถภาพปอดของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 30(2), 124-135.

ประทุม สร้อยวงค์. (2564). การพยาบาลอายุรศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 2). เอ็น.ที.พี.ปริ้นติ้ง

ราเชนร์ สุโท. (2565). ผลของโปรแกรมการพยาบาลสนับสนุนการจัดการตนเองต่ออาการหายใจลำบากในผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วัชรี พรหมประกอบ ศิริยุพา สนั่นเรืองศักดิ์ และนฤมล ธีระรังสิกุล. (2563). ผลของโปรแกรมส่งเสริมการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมการควบคุมโรคหืดของเด็กวัยเรียนโรคหืด. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ. 14(1), 1-12.

ศิวพล ศรีแก้ว, ชนิสรา แสนยบุตร, ปวีณกานต์ จวนสาง และนิสากร วิบูลชัย. (2566). ผลของโปรแกรมการสนับสนุนการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมการจัดการตนเองและภาวะหายใจลำบากในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มีอาการกำเริบบ่อยครั้ง. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม, 20(2), 100-115.

สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์. (2565). แนวทางการวินิจฉัยและรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง พ.ศ.2565. บริษัท ภาพพิมพ์ จำกัด.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครนายก. (2567). การป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อที่สำคัญ. Health Data Center. https://nyk.hdc.moph.go.th/hdc/reports/page.php?cat_id=6a1fdf 282fd28180 eed7d1cfe0155e11

สุภาวดี จริยาธรรมกร. (2565). ผลของโปรแกรมบริหารการหายใจด้วยการส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อสมรรถภาพปอดและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยนเรศวร.

อรุณรัตน์ ศรีทะวงษ์, พุทธิพงษ์ พลคำฮัก, สุพรรณิการ์ ลดาวัลย์, พัชรินทร์ พรหมเผ่า, สายสุนีย์ คนสนิท และธิชานนท์ พรหมศรีสุข. (2562). ค่าอ้างอิงสำหรับค่าอัตราเร็วสูงสุดของการไอในคนไทยอายุ 20-90 ปี. เทคนิคการแพทย์และกายภาพบำบัด. 31(3), 337-346.

อิทธิพล แก้วฟอง, ชมนาด วรรณพรศิริ และสุภาพร แนวบุตร. (2561). ผลของโปรแกรมการสัมภาษณ์เพื่อสร้างแรงจูงใจต่อ ความรู้ ทัศนคติ พฤติกรรม และระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์. 10(2), 51-71.

เอกวีร์ ศรีปริวุฒิ, อภิรัตน์ หวังธีระประเสริฐ, วิทวัส จิตต์ผิวงาม และสุธาทิพย์ พงษ์เจริญ (บก.). (2559). โรคเรื้อรังที่พบบ่อยทางอายุรศาสตร์: แนวทางการวินิจฉัยและดูแลรักษา. พิษณุโลก, สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยนเรศวร.

Best, J. W. (1981). Research in education (4th ed.). New Jersey: Prentice – Hall

Bloom, B. S. (1971). Handbook on Formative and Somative Evaluation of Student Learning. New York: McGraw-Hill Book Co.

Ibrahim, D.E., Shahin, E.S., & Abdelkadr, H.M. (2019). Effect of an Educational Program Regarding Self-Care Management Behaviors for Patients with Bronchial Asthma. Port Said Scientific Journal of Nursing, 6(2), 1-22.

Cronbach, L.J. (1951). "Coefficient alpha and the internal structure of tests". Psychometrika 16, 297:334-3

Hambleton, R. K. (1980). Test score validity and standard-setting methods. In R. A. Berk (Ed.), Criterion-refernced measurement: The state of the art (pp. 80-123). Baltimore: The John Hopkins University Press.

Kanfer, F. H., & Gaelick, L. (1991). Self-management method. In F. H. Kanfer, & A. P. Goldstein (Eds.), Helping people change: A textbook of methods (4th ed.). New York: Pergamon.

Olivera, C.M., Vianna, E.O., Bonizio, R.C., Menezes, M.B., Ferraz, E., Cetlin, A.A., et.al. (2016). Asthma self-management model: randomized controlled trial. Health Education Research, 31(5), 1-14.

World Health Organization: WHO. (2024). Chronic obstructive pulmonary disease (COPD). https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/chronic-obstructive-pulmonary-disease-(copd)

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-19

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย