Correlation of Size of Palpable Inguinal Lymph Nodes, Number of Pathological Inguinal Lymph Nodes and Incidence of Pelvic Lymph Node Metastasis in Penile Cancer

Authors

  • Pruk Thumrongrattanasil Division of urology, Department of surgery, Rajavithi Hospital, Bangkok, Thailand
  • Nattapong Wongwattanasatien Division of urology, Department of surgery, Rajavithi Hospital, Bangkok, Thailand

Keywords:

penile cancer, inguinal node metastasis, มะเร็งอวัยวะเพศชาย, ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบ

Abstract

Objective: To study the incidence of pelvic node metastasis in different size of palpable inguinal node and the incidence of pelvic node metastasis in different number of pathological inguinal node metastasis.
Material and Methods: We review medical records of the patients who diagnosis of squamous cell carcinoma (SCC) of penis underwent bilateral ilioinguinal node dissection during 2008 to 2013. Physical examination, pathological report, and pelvic node status were evaluated for correlation.
Results: 19 patients recruited for study; 14 were high risk and 5 were low risk. Mean age of patients was 53 years old. The data separately collected of each side of the lymphatic tract. Palpable noded size ranged from 0-6 cm. Pathological report of positive pelvic node of 5 lymphatic tract. At cut off point smaller than 2cm, there was 1 positive pelvic node (3.4%) and negative predictive value of 97%. Number of inguinal node metastasis ranged from 0-9 node. At cut off point of fewer than 2 metastatic inguinal node, there was 1 positive pelvic node (3.7%) and negative predictive value of 96%
Conclusion: The patients diagnosed of squamous cell carcinoma of penis with palpable inguinal node smaller than 2 cm had lower chance of pelvic node metastasis. However, this is a pilot study, there were not enough patients recruited to demonstrate the differences between the groups. More participants are required to prove the results valid.

ความสัมพันธ์ของขนาดและจำนวนต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบกับอุบัติการณ์การแพร่กระจายของมะเร็งอวัยวะเพศชายมาต่อมน้ำเหลืองอุ้งเชิงกราน
พฤกษ์ ธำรงรัตนศิลป์, ณัฐพงศ์ วงศ์วัฒนาเสถียร
หน่วยศัลยศาสตร์ยูโร กลุ่มงานศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาอุบัติการณ์การแพร่กระจายมะเร็งอวัยวะเพศชายมาที่ต่อมน้ำเหลืองที่เชิงกรานในผู้ป่วยที่ตรวจร่างกายได้ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบขนาดต่าง ๆ กัน
ผู้ป่วยและวิธีการศึกษา: รวบรวมข้อมูลจากแฟ้มประวัติผู้ป่วยที่วินิจฉัยมะเร็งอวัยวะเพศชายและได้รับการผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551-2556 ผลการตรวจร่างกายและผลทางพยาธิวิทยาของต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบรวมถึงผลพยาธิวิทยาของต่อมน้ำเหลืองที่เชิงกรานจะถูกนำมาเปรียบเทียบเพื่อหาความสัมพันธ์
ผลการศึกษา: ผู้ป่วย 19 รายที่เข้าเกณฑ์การคัดเข้า มี 14 รายที่เป็นกลุ่มความเสี่ยงสูง และ 5 รายเป็นกลุ่มความเสี่ยงต่ำอายุเฉลี่ยของผู้ป่วย 53 ปี การเก็บข้อมูลแยกแต่ละข้าง (1 คนจะมีรายงาน 2 ข้าง) การตรวจต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบ พบตั้งแต่คลำ�ไม่ได้ จนถึงขนาดใหญ่ 6 ซม. จากการตรวจร่างกายพบการแพร่กระจายมาที่ต่อมน้ำเหลืองเชิงกราน5 ข้าง โดยเกณฑ์ขนาดต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบน้อยกว่า 2 ซม. จะพบการกระจายมาที่เชิงกรานเพียง 1 ข้าง และจะมีโอกาสไม่พบการแพร่กระจายร้อยละ 97 ส่วนผลทางพยาธิวิทยาของต่อมน้ำ�เหลืองที่ขาหนีบนั้น พบจำ�นวนการแพร่กระจายมากที่สุด 9 ต่อม ถ้าใช้เกณฑ์จำนวนต่อมน้ำเหลืองที่น้อยกว่า 2 ต่อม พบว่ามีการแพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลืองที่เชิงกรานเพียง 1 ข้าง และจะมีโอกาสไม่พบการแพร่กระจาย ร้อยละ 96
สรุป: การศึกษานี้พบว่า ผู้ป่วยที่คลำต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบได้ไม่เกิน 2 ซม. มีโอกาสน้อยที่จะมีการแพร่กระจายไปเชิงกรานอย่างไรก็ตามยังต้องการการศึกษาที่มีจำนวนผู้ป่วยมากเพียงพอที่จะบ่งชี้ว่าการเลาะต่อมน้ำเหลืองไม่มีความจำเป็นในผู้ป่วยกลุ่มนี้

Downloads

Published

2015-06-01

How to Cite

Thumrongrattanasil, P., & Wongwattanasatien, N. (2015). Correlation of Size of Palpable Inguinal Lymph Nodes, Number of Pathological Inguinal Lymph Nodes and Incidence of Pelvic Lymph Node Metastasis in Penile Cancer. Insight Urology, 36(1), 1–8. Retrieved from https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TJU/article/view/63033

Issue

Section

Original article