ความต้องการกิจกรรมทางกายของผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยเชิงสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการกิจกรรมทางกายของผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่าง 440 คน (หญิง 74.3 % ชาย 25.7 %) เป็นผู้สูงอายุที่ได้มาจากการสุ่มหลายขั้นตอนจากประชากรจำนวน 1,040,804 คน ใน 50 เขตของกรุงเทพมหานคร เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามความต้องการกิจกรรมทางกายของผู้สูงอายุที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเที่ยงตรง (IOC) อยู่ระหว่าง 0.71-1.0 และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ความเชื่อมั่นแอลฟ่าของCronbachเท่ากับ 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ช่วงเวลาที่ผู้สูงอายุมีกิจกรรมทางกายมากที่สุด (43.90 %) คือ 08.00-10.00 น. รองลงมา คือ 10.00-12.00 น. (35%) ประเภทของกิจกรรมทางกายที่ผู้สูงอายุต้องการมากที่สุดคือ กิจกรรมนันทนาการ ( =2.46) รองลงมาคือกิจกรรมสร้างความแข็งแรง (
=2.31) และกิจกรรมสร้างการทรงตัว (
=2.18)ตามลำดับ กิจกรรมทางกายที่ผู้สูงอายุต้องการน้อยที่สุดคือกิจกรรมสร้างความอ่อนตัว (
=1.90) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อในแต่ละประเภทของกิจกรรมทางกาย พบว่ากิจกรรมทางกายที่ผู้สูงอายุมีความต้องการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เดินบนเส้น (
=3.18) ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (
=3.09) และแกว่งแขน (
=3.05) ตามลำดับ นอกจากนี้ กิจกรรมทางกายที่ผู้สูงอายุมีความต้องการน้อยที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เดินบนสิ่งของ (
=1.43) สร้างความอ่อนตัวกับลูกบอล(
=1.49) และการเต้นลีลาศ (
=1.50) ตามลำดับ สรุปได้ว่า ผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร มีความต้องการกิจกรรมทางกายประเภทแอโรบิก (
= 2.06) กิจกรรมสร้างความ แข็งแรง (
= 2.31) ความอ่อนตัว (
= 1.90) การทรงตัว (
= 2.18) และนันทนาการ (
= 2.46) ในระดับน้อย จากผลการวิจัยนี้สามารถนำไปพัฒนาเป็นโปรแกรมกิจกรรมทางกายสำหรับผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานครต่อไป
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
กฤษณา บุญรอด. (2547). ความต้องการกิจกรรมนันทนาการของผู้สูงอายุในชมรมผู้สูงอายุจังหวัดนครสวรรค์. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท คณะพลศึกษา กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ไทยโพสต์. (2559). ISPAH เวทีกิจกรรมทางกายระดับโลกตั้งเป้า5ปีคนไทยสุขภาวะดี, 25 มกราคม 2561 http://www.ryt9.com/s/tpd/2553541
นุชราภรณ์ เลี้ยงรื่นรมย์, ฐิติกร โตโพธิ์ไทย, ชมพูนุท โตโพธิ์ไทย, วิชชุกร สุริยะวงศ์ไพศาล, สุพล ลิมวัฒนานนท์, จุฬาภรณ์ ลิมวัฒนานนท์, กัญจนา ติษยาธิคม, วลัยพร พัชรนฤมล และวิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร. (2560). คนไทยมีกิจกรรมทางกายเพียงพอตามเกณฑ์หรือไม่: ข้อมูลจากการสำรวจอนามัยและสวัสดิการ พ.ศ. 2558. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 11(2), 1-16.
ปัทมาวดี สิงหจารุ. (2558). การออกกำลังกายด้วยลีลาศของผู้สูงอายุ. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคม. 21(2), 99-108.
มติชนออนไลน์. (2560). สังคมผู้สูงอายุอนาคตประเทศไทย, 23 มกราคม 2561. https://www.matichon.co.th/news/575355.
มหาวิทยาลัยมหิดล. (2557). การสูงวัยของประชากรไทย พ.ศ.2557. [โปสเตอร์]. สถาบันวิจัยประชากรและสังคม.
ศักดิภัทร์ เฉลิมพุฒิพงศ์. (2556). ความต้องการกิจกรรมการใช้เวลาว่างและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชมรมผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร. การประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 51 (p. 142 -149). กรุงเทพมหานคร: บริษัท เปเปอร์เมท.
ศิริการ นิพพิทา และนภัสกร จิตต์ไพบูลย์. (2550). การศึกษาโปรแกรมการออกกำลังกายโดยใช้ยางยืดเพื่อ เพิ่มสมรรถภาพทางกายในผู้สูงอายุ. คณะศิลปศาสตร์ สถาบันการพลศึกษา.
ศิริชัย กาญจนวาสี. (2544). ทฤษฎีการทดสอบแบบดั้งเดิม (Classical Test Theory). พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม. (2559). จำนวนชั่วโมงของพฤติกรรมเนือยนิ่ง. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (อัดสำเนา).
สถาบันเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. (2549). แนวทางเวชปฏิบัติการจัดกิจกรรมทางกาย (Physical Activity) สำหรับผู้สูงอายุกับโรคหัวใจ. กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2557). รายงานการสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ.2557. กรุงเทพมหานคร: บริษัท เท็กซ์ แอนด์ เจอร์นัล พับลิเคชั่น จำกัด.
สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล. (2559). ผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานคร จำแนกตามช่วงอายุ พ.ศ. 2558, 23 มกราคม 2561. http://203.155.220.230/bmainfo/graph/graph.php?code=pop013.
Chodzko-Zajko, W. J., Proctor, D. N., Fiatarone Singh, M. A., Minson, C. T., Nigg, C. R., Salem, G. J., & Skinner, J. S. (2009). Exercise and Physical Activity for Older Adults. Journal of the American College of Sports Medicine. 49(11), 1510-1530.
Institute of Physical Education. (2016). 6th Institute of Physical Education International Conference 2016, July 6-8, p. 59
Krejcie, R. V., and Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement. 30: 607-610.
Lee, P. G., Jackson, E. A., & Caroloner, R. (2017). Exercise Prescriptions in Older Adults. Journal of American Family Physician, 95(7), 425-432.
Office of National Health Examination Survey, Department of Health. (2016). Recommendations and guidelines for physical activity for all age groups. (Online). Retrieved January 23, 2018, from http://203.157.65.18/doh_info/web/uploads/pdf_1283/GYHKvHvACQmPpH6WNXhWpnIvvq0UsZXmSq8tjs4JQJviLL78orV2z9s3cHczjaLeN82oMoQQd8Zrne8r910U4p0npBeKRtXZ2GB.pdf
Siripanit, B. (2009). Healthy Exercise for Elderly People. Bangkok: Mor Chao Ban.