การศึกษาบุคลิกภาพของนักศึกษาสถาบันการพลศึกษา ในวิทยาเขตภาคกลาง: ตามหลักทฤษฎี การวิเคราะห์สัมพันธภาพระหว่างบุคคล

Main Article Content

กนกรัชต์ ต่วนชะเอม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อทราบลักษณะบุคลิกภาพของนักศึกษาสถาบันการพลศึกษา ในวิทยาเขตภาคกลาง และเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของบุคลิกภาพโดยรวมและรายด้านของนักศึกษา จำแนกตามเพศและอายุของนักศึกษากลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 370 คน แบ่งออกเป็น นักศึกษาชาย 245 คน หรือ ร้อยละ 66.2 นักศึกษาหญิง 125 คน หรือร้อยละ 33.8 และนักศึกษามีอายุระหว่าง 18-30 ปี เครื่องมือที่ใช้สำหรับการวิจัยคือแบบสำรวจบุคลิกภาพแบบ PAC ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีค่าความตรงเชิงเนื้อหา 0.98 และค่าความเที่ยง 0.82 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA) ผลการวิจัยพบว่า1) นักศึกษาทั้งหมดมีบุคลิกภาพโดยรวมไม่แตกต่างกัน โดยมีบุคลิกภาพของความเป็นผู้ใหญ่ (Adultegostate หรือ A)สูงที่สุด รองลงมา คือ บุคลิกภาพของความเป็นเด็ก (Child ego state หรือ C) และบุคลิกภาพของความเป็นพ่อแม่ (Parentegostate หรือP) ตามลำดับ 2) นักศึกษาชายมีบุคลิกภาพความเป็นผู้ใหญ่แตกต่างจากนักศึกษาหญิง โดยนักศึกษาชายมีบุคลิกภาพของความเป็นผู้ใหญ่สูงกว่านักศึกษาหญิงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) นักศึกษาทั้งหมดบุคลิกภาพของความเป็นผู้ใหญ่แบบบังคับควบคุม (Critical parent หรือ CP) สูงกว่าแบบปกป้องคุ้มครอง(Nurturing parent หรือ NP) 4) นักศึกษาชายมีบุคลิกภาพของความเป็นผู้ใหญ่แบบปกป้องคุ้มครอง (NP) แบบบังคับควบคุม (CP) และบุคลิกภาพของความเป็นเด็กแบบเด็กที่ปรับตัวได้ (Adapted child หรือ AC) และแบบเด็กสร้างสรรค์ (Little Professor child หรือ LC) สูงกว่านักศึกษาหญิง 5)อายุของนักศึกษาที่แตกต่างกันไม่มีผลต่อบุคลิกภาพโดยรวมและรายด้านของนักศึกษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ต่วนชะเอม ก. . (2018). การศึกษาบุคลิกภาพของนักศึกษาสถาบันการพลศึกษา ในวิทยาเขตภาคกลาง: ตามหลักทฤษฎี การวิเคราะห์สัมพันธภาพระหว่างบุคคล. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, 10(3), 23–38. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/article/view/246482
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ขนิษฐา วิเศษสาธร. (2552). รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาบุคลิกภาพของนักเรียนสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังตามหลักทฤษฎีทีเอ. กรุงเทพฯ: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.

ฐานิยา ตันตระกูล. (2553). ผลการฝึกการสร้างสัมพันธภาพตามแนวคิดวิเคราะห์การสื่อสารสัมพันธ์ของอีริคเบิร์น: กรณีศึกษานักเรียนเดินเรือพาณิชย์ ศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาการปรึกษา. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพฯ.

ดุลยา จิตตะยโศธร. (2552). รูปแบบการอบรมเลี้ยงดู:แนวคิดของ DianaBaumrind (DianaBaumrind’s Parenting Styles). วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, 29(4), 173.

ทิศนา แขมมณี และคณะ. (2535). หลักการและรูปแบบการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามวิถีชีวิตไทย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

มหาวิทยาลัยรามคำแหง. (2559). บทที่ 3 พัฒนาการวัยรุ่น. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 20 สิงหาคม 2559. จาก http://e-book.ram.edu/e-book/p/PC422/chapter3.pdf

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2552. (2559, 19 สิงหาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 116 ตอนที่ 74 ก หน้า 7.

พิมพ์หทัย สังสุทธิ. (2556). “ความแตกต่างระหว่างเพศชายและเพศหญิงกับการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์: ศึกษาในแนวทางของทฤษฎีความกดดันทั่วไป ทฤษฎีการควบคุมตนเอง และทฤษฎีความผูกพันทางสังคม”. วารสารวิทยบริการ, 24(3), 59-81.

วราภรณ์ ขุนอินทร์. (2541). การพัฒนาบุคลิกภาพผู้ติดเฮโรอีนตามทฤษฎี TA ณ สถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ประเวศ (บ้านพิชิตใจ). วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาการให้คำปรึกษา. มหาวิทยาลัยรามคำแหง, กรุงเทพฯ.

วัชรี ทรัพย์มี. (2549). ทฤษฎีให้บริการปรึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วีระเชษฐ์ ผ่องพันธ์. (2546). ผลการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มตามแนวทฤษฎีการวิเคราะห์การติดต่อสัมพันธ์ที่มีต่อการปรับตัวทางสังคมของนักศึกษาวิทยาลัยพลศึกษา จังหวัดมหาสารคาม.การศึกษาค้นคว้าอิสระ ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาการให้คำปรึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาสารคาม.

ศิริกุล อิสรานุรักษ์ และปราณี สุทธิสุคนธ์. (2550).การอบรมเลี้ยงดูเด็ก.วารสารสาธารณสุขและการพัฒนา, 5(1), 106-108.

ศรีเรือน แก้วกังวาล. (2545).“วัยรุ่น”จิตวิทยาพัฒนาการทุกช่วงวัย. พิมพ์ครั้งที่8.กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สมเกียรติกาทองทุ่ง. (2557). “แนวทางการพัฒนาสมรรถนะของอาจารย์พลศึกษาในสถาบันการพลศึกษาเพื่อขับเคลื่อนสู่ประชาคมอาเซียน”. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 9(2), 144-158.

อาภา จันทรสกุล. (2535). ทฤษฎีและวิธีการให้คำปรึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

Berne, Eric. (1961). Transactional Analysis in Psychological. New York: Grove Press, Inc.

Castle, C.S. (1913). A statistical study of Eminent Women. Washington: Science Press.

Cattell, R.B. (1950). Personality: A Systematic Theoretical and Factual Study. New York: McGraw–Hill.

Williams, K.B. and Williams, J.E. (1980). The assessment of Transactional Analysis Ego States Via the Adjective Checklist. Journal of Personality Assessment, 44(2), 120.

Yamane, Taro. (1970). Statistics: an Introductory Analysis. Tokyo: John Weatherhill