ความพึงพอใจและพฤติกรรมการใช้บริการการนวดแผนไทยของผู้ใช่บริการในจังหวัดเพชรบูรณ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะประชากรศาสตร์ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด รูปแบบการดําเนินชีวิต ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการนวดแผนไทย ที่มีผลต่อความพึงพอใจและพฤติกรรม การใช้บริการการนวดแผนไทย ของผู้ใช้บริการในจังหวัดเพชรบูรณ์
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้ใช้บริการการนวดแผนไทยในจังหวัดเพชรบูรณ์ จากสถาน บริการนวดแผนไทย จํานวน 24 แห่ง โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) เฉพาะผู้ใช้บริการการนวดแผนไทยในจังหวัดเพชรบูรณ์ จํานวน 385 ตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามและแบบทดสอบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ความถีค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่า ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที่แบบอิสระ (Independent t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ค่าเอฟ (F-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Analysis of Variance) เปรียบเทียบ ค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 2 กลุ่ม และถ้าพบความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ จะใช้วิธีการ ทดสอบค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ โดยวิธีการทดสอบแบบ Least Significant Difference (LSD) และการหาค่า สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน(Pearson product moment correlation coefficient)
ผลการวิจัยพบว่า
กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้บริการนวดแผนไทยในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ ระหว่าง 41-50 ปี มีการศึกษาระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพรับราชการ/เจ้าหน้าที่ของรัฐ มีสถานภาพ สมรส/อยู่ด้วยกัน มีรายได้ต่อเดือน 5,001 - 10,000 บาท และอาศัยอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์
กลุ่มตัวอย่าง มีความพึงพอใจต่อส่วนประสมทางการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์/บริการ ด้านราคา ด้าน สถานที่ ด้านการส่งเสริมการตลาด และด้านบุคลากร อยู่ในระดับมาก มีความคิดเห็นด้านการดูแลเอาใจใส่ สุขภาพเป็นอันดับหนึ่ง มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการนวดแผนไทย อยู่ในระดับสูง โดยส่วนใหญ่มีการ ใช้บริการการนวดแผนไทยโดยเฉลี่ย 1.97 ครั้ง/เดือน ระยะเวลาที่ใช้บริการโดยเฉลี่ย 1.66 ชั่วโมง/ครั้ง ในช่วงเวลา 14.31 น.-16.30 น. และใช้บริการในวันจันทร์-วันศุกร์ มากที่สุด โดยมีวัตถุประสงค์ในการใช้ บริการการนวดแผนไทยเพื่อการผ่อนคลาย/คลายเครียด มากที่สุด และกลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจ โดยรวม อยู่ในระดับมาก
จากการทดสอบสมมติฐานสามารถสรุปได้ว่า
- ลักษณะประชากรศาสตร์ อันได้แก่ อายุ สถานภาพการสมรส ที่แตกต่างกัน มีผลต่อความพึง พอใจโดยรวมของผู้ใช้บริการการนวดแผนไทยในจังหวัดเพชรบูรณ์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ ระดับ .05
- ปัจจัยด้านส่วนประสมทางการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์/บริการ ด้านสถานที่ ด้านการส่งเสริมการ ตลาด และด้านบุคลากร มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจโดยรวม ของผู้ใช้บริการการนวดแผนไทยใน จังหวัดเพชรบูรณ์ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01
- ปัจจัยด้านรูปแบบการดําเนินชีวิต มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้บริการการนวดแผนไทย ของผู้ใช้บริการการนวดแผนไทยในจังหวัดเพชรบูรณ์ในเรื่องจํานวนครั้งในการใช้บริการต่อเดือน โดยมีนัย สําคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และในเรื่องระยะเวลาโดยเฉลี่ยต่อครั้งที่มาใช้บริการ มีนัยสําคัญทางสถิติที่ ระดับ .05
- ปัจจัยด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการนวดแผนไทยที่แตกต่างกันมีผลต่อพฤติกรรมการนวด แผนไทยของผู้ใช้บริการในจังหวัดเพชรบูรณ์ ไม่แตกต่างกัน
- ความพึงพอใจโดยรวมของการนวดแผนไทย ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้บริการการ นวดแผนไทย ของผู้ใช้ บริการในจังหวัดเพชรบูรณ์เมื่อแยกพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ในหัวข้อระยะเวลาใน การใช้บริการต่อครั้ง มีความสัมพันธ์ที่ระดับนัยสําคัญทางสถิติ .05
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
กฤติกา ศักดิ์มณี, 2547. การเปิดรับข่าวสาร ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการนวดแผนไทยของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ นศ.ม. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
กัลยา วานิชย์บัญชา, 2546. การใช้ SPSS for Windows ในการวิเคราะห์ข้อมูล. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและอนามัยสิ่งแวดล้อม, 2548. สรุปผลการดําเนินงานแพทย์แผนไทย ปีงบประมาณ 2548. เพชรบูรณ์, สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์.
ธนกิจ ลาภจรัสสุริยา, 2548. การนวดแผนไทย. กรุงเทพฯ: บ้านหนังสือ 19 จํากัด.
มัลลิกา บุนนาค และคณะ, 2540. สถิติ, พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์หาวิทยาลัย.
ยุทธ ไกยวรรณ์, 2548. วิธีวิจัยทางธุรกิจ. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ.
ยุพิน หมีใจเจริญ, 2550. ศักยภาพและความพร้อมการนวดแผนไทยในจังหวัดเชียงราย, วิทยานิพนธ์ (บธ.ม), เชียงราย: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตเชียงราย.
ล้วน สายยศ, อังคณา สายยศ. 2538. เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
วิภาพร มาพบสุข, ม.ป.ป. จิตวิทยาการทํางาน. กรุงเทพฯ: ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ.
วราภรณ์ พุทธวิถี, 2546. ความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อคุณภาพบริการของสถานบริการนวดแผนไทย กรณีศึกษา โรงพยาบาลดําเนินสะดวก. สารนิพนธ์ บธ.ม. (การตลาด), กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ, 2546. การบริหารการตลาดยุคใหม่, กรุงเทพฯ: ธรรมสาร.
สุทธิพร วันเต, 2551. ระดับความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หลังจากใช้บริการนวดแผนไทย ในเขตอําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, รายงานการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (ศศ.ม.) เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สุปัญญา ไชยชาญ. 2543. หลักการตลาด, พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: พี.เอ.ลิฟวิ่ง.
สุภาภรณ์ พลนิกร, 2548. พฤติกรรมผู้บริโภค. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: โฮลิสติก พับลิชชิ่ง.
สุรเทพ อภัยจิตร, 2541. ศิลปการนวด. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ.
โสมนัสสา โสมนัส. 2549. พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในการเลือก ใช้บริการนวดแผนไทยในเขตอําเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่, รายงานการค้นคว้าแบบอิสระเชิงวิทยานิพนธ์ปริญญาเศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต. เชียงใหม่: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
Maslow, Abraham H (n.d.). 1970. Motivation and Personnelity. 2nd ed. New York: Mcgraw - Hill Book Company, Inc. 71.
Thai Thai Panthai Clinic. 2549. การแพทย์แผนไทย. สืบค้นเมื่อ 12 ตุลาคม 2549, จาก
http://www.panthaiclinic.com/thai/nuadpanthai.php
Thai Traditional Massage Association Japan. 2549. ประวัติของการนวดแผนโบราณแบบไทย. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2549, จาก http://www.thai-traditionalmassage.com/thai/history.htm