แนวโน้ม สุขศึกษา พลศึกษากับสุขภาพ

Main Article Content

Preeyapat Nontawongkulsiri

Abstract

การขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ สุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเสมอ อาทิ เช่น การมี และความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทําให้ การ ความรู้ เจตคติ ทัศนคติและการปฏิบัติถูกต้องใน ดําเนินชีวิตของคนในสังคมปัจจุบันเต็มไปด้วย การออกกําลังกาย ตามหลักวิชาการสุขศึกษาและ ความเร่งรีบ มีการใช้เทคโนโลยีเพื่ออํานวย ความ พลศึกษา ซึ่งผู้ปฏิบัติสามารถดูแลสุขภาพของ สะดวกมากขึ้น เช่น การใช้ลิฟต์แทนการใช้บันได ตนเองอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพ การใช้รถจักรยานยนต์แทนการขี่จักรยาน การใช้ อีกด้วย ดังนั้นสุขศึกษาและพลศึกษาจึงมีความ เครื่องมือต่างๆ แทนการใช้แรงงานคน เช่น การ สําคัญอย่างยิ่งต่อมนุษย์ทุกคน ซักผ้าและล้างจานด้วยเครื่องสิ่งอํานวย ความ สุขศึกษาและพลศึกษาเป็นศาสตร์แขนง สะดวกต่างๆ ซึ่งมีมากขึ้นทําให้คนมีการเคลื่อนไหว หนึ่งที่เป็นการศึกษาด้านสุขภาพที่มีเป้าหมาย เพื่อ และออกกําลังกายน้อยลง ส่งผลให้สมรรถภาพและ การดํารงสุขภาพ การสร้างเสริมสุขภาพและการ สุขภาพของคนในปัจจุบันแย่ลง ภูมิต้านทานลดลง พัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคล ครอบครัว และชุม และมีการเจ็บป่วยมากขึ้น

Article Details

How to Cite
Nontawongkulsiri, P. . (2012). แนวโน้ม สุขศึกษา พลศึกษากับสุขภาพ. Academic Journal of Thailand National Sports University, 4(2), 137–142. Retrieved from https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/article/view/254486
Section
Academic Article

References

กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา. (2554). คณะกรรมการและคณะทํางานจัดทําร่างแผนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2555-2559). กรุงเทพฯ.

ปรีญาพัชญ์ นนทวงค์กุลศิริ. (2553). แรงจูงใจในการวิ่งเหยาะตามการรับรู้ตามกลุ่มตัวอย่าง, ปริญญานิพนธ์ วท.ม. (วิทยาศาสตร์การกีฬา), กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สนธยา สีละมาด. (2547). หลักการฝึกกีฬาสําหรับผู้ฝึกสอนกีฬา, กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.