รูปแบบการพักระหว่างการฝึกที่มีผลต่อความสามารถในการเคลื่อนที่หลายทิศทาง ของนักกีฬากาบัดดี้หญิงทีมชาติไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์และเปรียบเทียบความสามารถในการเคลื่อนที่หลายทิศทางกับอัตราการเต้นของหัวใจคืนสู่ภาวะปกติของนักกีฬากาบัดดี้หญิงทีมชาติไทย ภายหลังการพักจากการฝึกที่เข้มข้นเสมือนแข่งขันจริง โดยการใช้รูปแบบการพัก 3 วิธี ประกอบด้วย การนั่งพักปกติ การนั่งพักร่วมกับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และการนั่งพักร่วมกับการลูบตัวด้วยน้ำเย็น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักกีฬากาบัดดี้หญิงทีมชาติไทยที่มีความสามารถใกล้เคียงกันจากศูนย์ฝึกนักกีฬากาบัดดี้ทีมชาติไทยจังหวัดกระบี่ โดยที่กลุ่มตัวอย่างดังกล่าวได้มาด้วยการเลือกแบบเจาะจง แล้วทำการสุ่มอย่างง่ายเพื่อเป็นกลุ่มทดลองจำนวน 3 กลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และแบบทดสอบความสามารถในการเคลื่อนที่หลายทิศทางที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการเปรียบเทียบพหุคูณตามวิธีการของทูกีย์ โดยกำหนดความมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
ผลการวิจัยพบว่า ความสามารถในการเคลื่อนที่หลายทิศทางกับอัตราการเต้นของหัวใจฟื้นตัวสู่ภาวะปกติเนื่องมาจากการใช้รูปแบบการพักระหว่างการฝึกเข้มข้นเสมือนการแข่งขันจริงทั้ง 3 รูปแบบ มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 นอกจากนี้ยังพบอีกว่า การใช้รูปแบบการพักระหว่างฝึกด้วยการนั่งพักร่วมกับลูบตัวด้วยน้ำเย็น มีผลทำให้นักกีฬากาบัดดี้หญิงทีมชาติไทยมีความสามารถในการเคลื่อนที่หลายทิศทาง และอัตราการเต้นของหัวใจคืนสู่ภาวะปกติหลังจากการฝึกเข้มข้นเสมือนแข่งขันจริงดีที่สุด รองลงมา คือ การนั่งพักร่วมกับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และการนั่งพักปกติ ตามลำดับ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Boonchom Srisa-ard. (2011). Introduction to Research (9th ed.). Bangkok: Suweeriyasan.
Charoen Krabuanrat. (2014). Science of Coaching. Bangkok: Sintana Copy Center Company.
Chatchaphon Chumsai Na Ayudhaya. (2011). Effects of recovery methods on running speed and ball-passing accuracy of futsal players. Journal of Kamphaengsean, 9(1), 61 - 69.
Issariya Thonghor. (2016). Effect of recovery after exercise methods on lactic acid in the blood, heart rate and anaerobic performance in athletes (Master’s Thesis), Burapha University.
Jedsada Triphoem. (2011). The effect of cold treatment on recovery of Thai amateur boxers (Master’s Thesis), Srinakharinwirot University.
Raja Syed Tengku Sulaiman. (2017). Kabaddi skill and instruction. Krabi: Faculty of Education, Thailand National Sports University Krabi campus.
Sports Authority of Thailand. (2012). National Kabaddi coaching basic program. Bangkok: Sports Personnel Development Division Sports Personnel Development and Registration Department Sports Authority of Thailand.
Wittaya Pattamaranggoul, & Yupaporn Singlumpong. (2018). A comparative study of different techniques in recovery period of physical fitness of athletics. Academic Journal of Institute of Physical Education, 10(1), 89 – 102.