การพัฒนาการเรียนรู้สุขศึกษาโดยใช้รูปแบบการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารของนักเรียนมัธยมศึกษา

Main Article Content

พิชาธรณ์ เผือกเชาวไว
จินตนา สรายุทธพิทักษ์
สริญญา รอดพิพัฒน์

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์การวิจัย 1) เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารก่อนและหลังการทดลองของกลุ่มทดลองและของกลุ่มควบคุม และ 2) เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารหลังการทดลองระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม วิธีดำเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 80 คน ได้จากการสุ่มอย่างง่าย แบ่งเป็นกลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาโดยใช้รูปแบบการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ จำนวน 40 คน และกลุ่มควบคุมที่ได้รับการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาแบบปกติ จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ จำนวน 8 แผน มีค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 0.83 และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความรู้ เจตคติ การปฏิบัติ และทักษะการสื่อสาร มีค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 0.83, 0.94, 1.00, และ 0.98 ระยะเวลาในการวิจัย 8 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยของคะแนนด้วยค่าที ผลการวิจัยพบว่า 1) ค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความรู้ เจตคติ การปฏิบัติ และทักษะการสื่อสารหลังการทดลองของกลุ่มทดลองสูงกว่าก่อนทดลอง และค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความรู้ของกลุ่มควบคุมหลังการทดลองสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านเจตคติ การปฏิบัติ และทักษะการสื่อสารของกลุ่มควบคุมหลังการทดลองไม่แตกต่างจากก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ 2) ค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความรู้ เจตคติ การปฏิบัติ และทักษะการสื่อสารของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สรุปผลการวิจัย การจัดการเรียนรู้สุขศึกษาโดยใช้รูปแบบการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาแบบปกติ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เผือกเชาวไว พ. ., สรายุทธพิทักษ์ จ. ., & รอดพิพัฒน์ ส. . (2023). การพัฒนาการเรียนรู้สุขศึกษาโดยใช้รูปแบบการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารของนักเรียนมัธยมศึกษา. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, 15(3), 45–56. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/article/view/257669
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Chanisara Metpattarahiran. (2020). Creative Problem Solving. Emagazine of the Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology, 222, January - February.

Delisle, R. (1997). How to use problem - based learning in the classroom. Alexandria.

Ministry of education. (2018). Basic Education Core Curriculum. Retrieved from http://academic.obec.go.th/newsdetail.php?id=75

Nuttaphong Kanchanachaya. (2016). Creative problem - solving process instructional management. SDU Res. J., 12(3), September – December.

Organization for Economic Co - operation and Development or OECD. (2018). Programme for International Student Assessment or PISA. Retrieved from https://pisathailand.ipst.ac.th/issue-2019-48/

Pinyo Wongthong, & Wanchai Noiwong. (2020). Indicators of super 4Cs skills for learners in the 21st Century: A concise literature review. Journal of Humanities and Social Sciences Thonburi University, 49(1).

Pornsawan Vongtathum. (2015). Creative Problem - Solving Thinking skills for 21st Century of Learning. Journal of education khon kaen university, 38(2), April – June.

Pranee Lambensa. (2016). Measuring and Evaluating Studies. Sahamit print development.

Scott Jeffrey. (2021). Eight easy creative problem - solving techniques that really work. Retrieved from https://scottjeffrey.com/creative-problem-solving-techniques/

Sirikan Chaiyasit, & Narong Somphong. (2020). Development of creative problem - solving learning model on intelligent instructional innovation system to enhance creative thinking skill of undergraduate students. NRRU Community Research Journal, 14(2), April - June.

Songyot Sakunya, & Wanintorn Supap. (2020). The development of creative problem solving competency on the application of linear equation for one variable topic on mathematising process of 7th grade students. Journal of Education Naresuan University, 22(4), October - December.

World Economic Forum. (2019). Global Competitiveness Index: GCI. Retrieved from https://www.weforum.org/reports/how-to-end-a-decade-of-lost-productivity-growth/?DAG=3&gclid=EAIaIQobChMIwqPDyNfJgAMVoRGDAx0cNg2tEAAYASAAEgLlHvD_BwE