การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทางพลศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะผู้เรียนในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพปัญหาสมรรถนะผู้เรียนและแนวทางการจัดการเรียนรู้ทางพลศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะผู้เรียนในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม 5 ระดับ และแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน 1) ศึกษาสภาพปัญหา สมรรถนะผู้เรียน จากแนวคิด ทฤษฎี เอกสาร และสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ แบบกึ่งโครงสร้างจำจำนวน 10 คน 2) นำข้อมูลที่ได้มาจัดทำเป็นข้อคำถามในแบบสอบถาม เพื่อหาฉันทามติ ด้วยวิธีเทคนิคเดลฟายประยุกต์ โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 19 คน และ 3) ประเมินและยืนยันการพัฒนารูปแบบฯรอบที่ 3 จากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 10 คน
ผลการวิจัยพบว่า 1. มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติยังมีปัญหาหลายด้าน เช่นด้านผู้สอนทางพลศึกษา ยังไม่เพียงพอต่อการจัดการเรียนรู้และยังมีประสบการณ์ด้านการสอนน้อยทำให้จัดกิจกรรมในกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนไม่หลากหลาย ด้านสิ่งสนับสนุน สื่อ ดิจิทัลยังไม่สมบูรณ์และเพียงพอต่อบุคลากร ด้านหลักสูตรต้องมีการปรับปรุงพัฒนา ผู้บริหารควรต้องทบทวนให้มีระบบที่เป็นไปได้จริง 2. สมรรถนะผู้เรียนที่เหมาะสมจากการสังเคราะห์เอกสารและยืนยันจากผู้ทรงคุณวุฒิ มี 6 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการสื่อสารและการใช้เทคโนโลยี 2)ด้านคุณธรรม จริยธรรม 3) ด้านความรู้และวิชาการ 4) ด้านลักษณะบุคคลความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ 5) ด้านทักษะทางพลศึกษา และ 6) ด้านการวิจัย และ3.รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ ที่จัดทำขึ้นเป็นที่ยอมรับของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เกี่ยวข้องทางพลศึกษาว่ามีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด ทั้ง 6 องค์ประกอบ 64 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ 1) ด้านหลักสูตรพลศึกษา 2) ด้านทรัพยากรการจัดการ 3) ด้านการบริหารจัดการ 4) ด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ 5) ด้านการวัดและประเมินผลและ 6) ผลการเรียนรู้ และได้รูปแบบที่เป็นไปได้ในการนำไปใช้ได้จริงในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Asree Saeedi. (2018). Development of training curriculum for enhancing competency of physical education teachers in the 21st century by applying learning facilitation in conjunction with teaching potential enhancement (Doctoral dissertation), Chulalongkorn University.
Boonchom Sri-saard. (2013). Statistical methods for research (5th ed.). Bangkok: Suree Wiyasan.
Kajorn Trisophanakorn, Karan Panyo, & Thanakorn Panyawong. (July 5, 2022). Interview.
Kittisak Phuangchor. (2019). Conditions and problems of physical education teaching management of Rajamangala University of Technology. Kanchanabar Rajabhat University Journal, 8(1), January - June.
Ministry of Higher Education Science, Research and Innovation. (2022). Ministerial regulation standards for higher education curriculum B.E. 2565. Retrieved from https//www.mhesi.qo.th
Office of the National Economic and Social Development Board. (2018). National strategy 20 years (2018 - 1037). Bangkok: office of the Secretary of the National Strategy Board.
Saowaluk Pramann, Toasak Kawjaratwilail, & Theeranan Tanphanich. (2022). Comprtencies for physical education teachers. Journal of Liberal Arts and Management Science, 9(1), January - June.
Sitthichai Phaengthip, & Maturot Chongchaikij. (2019). Knowledge management model development of the faculty of education, Yala Rajabhat University by using information technology. AL-NUR Graduate School Journal Fatoni University, 14(26), January - June.
Thailand National Sports University. (2020). Strategy of Thailand National Sports 6 Strategies. photocopy documents.
Tissana Kheammanee. (2021). Science of teaching, body of knowledge for effective learning process management (25th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press.