ผลการรับรู้ของการหมุนเวียนงานของบุคลากรสายวิชาชีพพยาบาลในมุมมองของผู้หมุนเวียน และผู้รับผลงาน: กรณีศึกษา กลุ่มงานการพยาบาล รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
คำสำคัญ:
การหมุนเวียนงาน, บุคลากรสายวิชาชีพพยาบาล, ผู้หมุนเวียน, ผู้รับผลงานบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการรับรู้ของการหมุนเวียนงานของบุคลากรสายวิชาชีพพยาบาล ในมุมมองของผู้หมุนเวียน และผู้รับผลงาน กลุ่มงานการพยาบาล รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้หมุนเวียน จำนวน 11 คน ผู้รับผลงาน ได้แก่ ผู้บังคับบัญชา จำนวน 5 คน และผู้ใต้บังคับบัญชา จำนวน 148 คน เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสอบถามที่ได้ดัดแปลงจากดุษฎี โยเหลาและคณะ (2546) การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสถิติเชิงพรรณนา โดยคำนวณค่าเฉลี่ย ร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า การรับรู้ของผู้หมุนเวียน พบว่า มีความรู้เพิ่มขึ้น และมีประสบการณ์เพิ่มขึ้น อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.09 และ 4.09 ตามลำดับ ได้รู้จักผู้ร่วมงานใหม่มากขึ้นอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.36 มีการพัฒนาตนเองมากขึ้นค่าเฉลี่ย 4.09 ได้รับการยอมรับจากผู้ร่วมงานมากขึ้น อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.64 การรับรู้ของผู้บังคับบัญชา พบว่า ผู้หมุนเวียนได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.40 การประสานงานมีความคล่องตัวขึ้น อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.60 มีความตื่นตัว และกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้น อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.60 ในขณะเดียวกันผู้หมุนเวียนมีปัญหาด้านการปรับตัว ทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล อยู่ในระดับมากเช่นกัน ค่าเฉลี่ย 3.60 และการรับรู้ของผู้ใต้บังคับบัญชา พบว่า ผู้หมุนเวียนมีความเพียรในการทำงานอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.97 ประสานงานได้อย่างคล่องตัวขึ้นอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.76 มีความตื่นตัว และกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้นอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.84
ข้อเสนอแนะจากการศึกษาครั้งนี้คือ การหมุนเวียนงาน ควรเริ่มต้นจากนโยบาย กำหนดเป้าหมาย กรอบระยะเวลาในการหมุนเวียนให้ชัดเจน รวมทั้งการเตรียมความพร้อมการปฏิบัติ ความรู้ ก่อนที่จะนำระบบหมุนเวียนงานมาใช้ และการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจให้กับผู้หมุนเวียน เพื่อลดผลกระทบด้านความเครียด และวิตกกังวลมากจนอาจส่งผลด้านความเจ็บป่วยทางจิตและกายได้
เอกสารอ้างอิง
กระแสโลก กระแสโลก. (2551). เรียนรู้ระบบราชการญี่ปุ่น: มองผ่านกรอบแนวคิดของข้าราชการไทย (ออนไลน์). มติชนรายสัปดาห์, ค้นหาวันที่ 5 มีนาคม 2559. จาก website: https://info.matichon.co.th/weekly/
จิรศักดิ์ โพกาวิน. (2551). การหมุนเวียนงาน (Job Rotation) ทางเลือกหนึ่งสำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (ออนไลน์), ค้นหาวันที่ 5 มีนาคม 2559. จาก website: https://www4.msu. ac.th/politics/book6y/2/2/5.pdf.
ดุษฏี โยเหลา และคณะ. (2546). การศึกษา
ผลกระทบของการหมุนเวียนผู้บริหารระดับกลางของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. รายงานการวิจัย ฉบับที่ 89, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
รัตติยา ปริชญากร. (2556). ทัศนคติต่อการนำระบบการหมุนเวียนงาน (Job Rotation) มาใช้กับเจ้าหน้าที่ในสายงานเดียวกัน: กรณีศึกษาผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. วารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 9 (1), 41 – 56.
ศิริพร แก้วแพรก. (2549). การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในเชิงธุรกิจ. วารสารการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์, 2(2), 241 – 249.
สัมฤทธิ์ ยศสมศักดิ์. (2548). หลักรัฐประศาสนศาสตร์แนวคิดและทฤษฎี. กรุงเทพฯ:รัตนพรชัย การพิมพ์.
อรวรรณ บิลันธน์โอวาท. (2554). การสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Graham Lowe. (2008). Energize & Enhance Employee Value with Job Rotation, ค้นหาวันที่ 5 มีนาคม2559. จาก website: https://yellowedge.files.wordpress.com/2008/06/jobrotation.pdf.
jobjob. (2551). ชาร์จแบตฯพนักงานด้วย Job Rotation, ค้นหาวันที่ 5 มีนาคม 2559. จาก website: https://www.jobjob.co.th/th/HR-Variety/ 564.