ความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่สถานีสุขภาพ
คำสำคัญ:
ความดันโลหิตสูง, สถานีสุขภาพบทคัดย่อ
ทีมให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลสังขะ ได้มีการนำร่องให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงรับยาที่สถานีสุขภาพ เพื่อลดความแออัด ลดเวลารอคอยและเพิ่มการเข้าถึงบริการ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงระหว่างที่สถานีสุขภาพและหน่วยบริการปฐมภูมิ
การศึกษาครั้งนี้ใช้รูปแบบ Descriptive cross-sectional study เป็นการศึกษากลุ่มเดียว โดยศึกษาในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมได้ดีจำนวน 100 คน อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ที่มีความดันในช่วง 6 เดือนก่อนเข้าร่วมวิจัยอยู่ในเกณฑ์ดี โดยใช้ค่าเฉลี่ยความดันโลหิต 4 ครั้งหลังสุดของการรับยาที่หน่วยบริการปฐมภูมิ และที่สถานีสุขภาพ
ผลการศึกษา กลุ่มตัวอย่างเข้าเกณฑ์ทั้งหมด 90 คน มีอายุเฉลี่ย 63.6±10.6 ปี เป็นเพศหญิงร้อยละ 67.8 ความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวเฉลี่ยที่สถานีสุขภาพและหน่วยบริการปฐมภูมิมีค่าเท่ากับ 128.5±11.4 และ 129.3±11.0 mmHg ตามลำดับ ความดันโลหิตขณะหัวใจคลายตัวเฉลี่ยที่สถานีสุขภาพและหน่วยบริการปฐมภูมิมีค่าเท่ากับ 76.6±8.1 และ 77.9±7.2 mmHg ตามลำดับ จากผลการวิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้ paired t-test พบว่าไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ จากผลการศึกษาความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่สถานีสุขภาพในกลุ่มผู้ป่วยที่ควบคุมได้ดี พบว่าไม่มีความแตกต่างกับความดันโลหิตที่หน่วยบริการปฐมภูมิ ดังนั้นผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมระดับความดันโลหิตได้ดีสามารถจัดบริการการดูแลรับยาความดันโลหิตที่สถานีสุขภาพเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการ ลดเวลารอคอย และเพิ่มความรอบรู้ด้านสุขภาพ
เอกสารอ้างอิง
ddc.moph.go.th [Internet]. กรมควบคุมโรค รณรงค์วันความดันลิตสูงโลก ปี 2567 เน้นย้ำให้ประชาชนวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อ. [เข้าถึงเมื่อ 2024 Jul 17]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=43037&deptcode=brc&news_views=3244
Chobanian AV, Bakris GL, Black HR, et al. The seventh report of the Joint National Committee on prevention, detection, evaluation, and treatment of high blood pressure: the JNC 7 report, JAMA. 2003;289(19):2560-72.
Lewington S, Clarke R, Qizilbash N, et al. Age-specific relevance of usual blood pressure to vascular mortality: a meta-analysis of individual data for one million adults in 61 prospective studies, Lancet. 2002;360(9349):1903-13.
สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. สาเหตุของปัญหาการควบคุมความดันโลหิตในประเทศไทย. แนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูง ในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ. 2562. สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย (Thai Hypertension Society); 2562:2.
hdc.moph.go.th [Internet]. ร้อยละผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตได้ดี [เข้าถึงเมื่อ 2024 Jul 17]. เข้าถึงได้จาก: https://hdc.moph.go.th/srn/public/standard-report-detail/2e3813337b6b5377c2f68affe247d5f9.
คติมันต์ สนธิแก้ว, สว่างจิต สุรอมรกุล. การวัดความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้านในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มารับการรักษาที่คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช. วชิรเวชสารและวารสารเวชศาสตร์เขตเมือง 2021;65(1):37-44.
สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. นิยามโรคความดันโลหิตสูงและการวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูง. แนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูง ในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ. 2562. สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย (Thai Hypertension Society); 2562:9-12.
World Health Organization. Measuring BP. Who technical specifications forautmated non-invasive blood pressure measuring devices with cuff. Geneva; 2020:25-9.
พัฒนาภรณ์ หาญคำภา. การพัฒนารูปแบบการควบคุมระดับความดันโลหิตโดยใช้สถานีสุขภาพ และการมีส่วนร่วมของชุมชน อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม. วารสารวิชาการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม 2567;8:168-84.
นลัท พรชัยวรรณาชาติ, วรยศ ดาราสว่าง. ผลการลดความดันโลหิตในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ได้รับการดูแลจากสถานีสุขภาพชุมชนตำบลหนองตาด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ 2567;39(4):621-30.
Kronish IM, Kent S, Moise N, Shimbo D, Safford MM, Kynerd RE, et al. Barriers to conducting ambulatory and home blood pressure monitoring during hypertension screening in the United States. J AM Soc Hypertens 2017;11(10):573-80.