ผลของโปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการรับประทานอาหารเฉพาะโรคต่อความรู้และพฤติกรรมของผู้ปกครองและผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด
คำสำคัญ:
โปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการรับประทานอาหาร, ผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็ง, ผู้ปกครอง, แนวคิด Precede Frameworkบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการส่งเสริมความรู้ด้านโภชนาการให้ผู้ปกครองต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารในผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด โปรแกรมฯเน้นศึกษาบทบาทสำคัญของผู้ปกครอง เนื่องด้วยเป็นผู้ดูแลด้านโภชนาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด โดยโปรแกรมฯพัฒนาขึ้นตามกรอบแนวคิด Precede Framework รูปแบบการวิจัยเป็นการศึกษากึ่งทดลอง แบบการวิจัยกลุ่มเดียว วัดก่อนการให้โปรแกรม หลังการให้โปรแกรม และในวันที่ 14 หลังการให้โปรแกรม กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ปกครองและผู้ป่วยเด็กมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดในหอผู้ป่วยเด็กโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้คือ แบบทดสอบความรู้เรื่องโภชนาการสำหรับเด็กที่ได้รับเคมีบำบัดของผู้ปกครอง และแบบสอบถามด้านพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้ป่วย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา, สถิติ Paired t-test และสถิติการถดถอยแบบพหุคูณ
ผลการวิจัย พบว่า หลังการได้รับโปรแกรมฯ ค่าคะแนนความรู้เรื่องโภชนาการของผู้ปกครองสูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมฯ โดยคะแนนส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ หัวข้อที่เกี่ยวกับชนิดของนม (p = 0.006) และอาหารที่อาจจะเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรค (p = 0.04) ส่วนค่าคะแนนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร พบว่า ก่อนได้รับโปรแกรมฯ ผู้ปกครองที่เคยได้รับคำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์มาก่อนจะมีคะแนนมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.04) และภายหลังได้รับโปรแกรมฯ พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัดมานานกว่าจะมีคะแนนพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ดีกว่า (p = 0.02) สรุปได้ว่า ผู้ปกครองที่เข้าร่วมโปรแกรมฯ มีความรู้ด้านโภชนาการเพิ่มขึ้นและมีส่วนช่วยส่งเสริมให้ผู้ป่วยเด็กมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ดีและเลือกอาหารที่เหมาะสมมากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. World Source: Globocan [Internet].2021 [cited 2023 Dec 14]; https://gco.iarc.fr/today/online-analysis-table
National Cancer Institute. NATIONAL CANCER INSTITUTE:NCCR Explorer [Internet].2020 [cited 2023 Dec 14]; https://nccrexplorer.ccdi.cancer.gov/application.html
นุตตรา สุวันทารัตน์. 5โรคมะเร็งร้ายในเด็ก. [อินเทอร์เน็ต].2562 [เข้าถึงเมื่อ 27 ก.ย. 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/มะเร็งในเด็ก
Saengsipanthkul S. Hospital-acquired malnutrition in paediatric patients: a multicentretrial focusing on prevalence, risk factors, and impact on clinical outcomes. Eur J Pediatr. 2021;180(6):1761-67.
De Naurois J, Novitzky-Basso I, Gill MJ, Marti FM, Cullen MH, Roila F, et al. Management of febrileneutropenia:ESMO clinical practice guidelines. Ann Oncol. 2010;21 Suppl 5:v252-6. doi: 10.1093/ annonc/mdq196.
นิศารัตน์ ชูชาญ, ภานุวัฒน์ นิ่มนวล. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการรับประทานอาหารสำหรับเด็กอนุบาลในเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร. วารสารครุศาสตร์. 2023;50(2):7-8.
เกศรา แสนงาม, ลดาวัลย์ ประทีปชัยกูร, กมลวรรณ ภูวัฒนานนท์. การพัฒนาความรู้และการ ปฏิบัติของมารดาในการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว. สงขลานครินทร์เวชสาร. 2545;23(2):261-268.
ลดาวัลย์ ประทีปชัยกูร, อุทัยวรรณ พุทธรัตน์, เกศรา แสนงาม, กมลวรรณ ภูวัฒนานนท์, เยาวภา จารุธนเศรษฐ์, นิตยา ปัญจมิดิถี. การพัฒนามาตรฐานการพยาบาลเด็กป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวโดยใช้ข้อวินิจฉัยการพยาบาล. วารสารวิจัยทางการพยาบาล. 2542;3(2):148-171.
ศศิธร วรรณพงษ์, ฉันทิกา จันทร์เปีย. พฤติกรรมของบิดามารดาหรือผู้เลี้ยงดูในการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว. วารสารพยาบาลศาสตร์, 2543;18(2):44-55.
Piaget J. The origins of intelligence in children. W.W. Norton & Company. 1963.
อติพร สำราญบัว, เบญจมาศ ทำเจริญตระกูล. พฤติกรรมสุขภาพทางเลือกที่ชวยลดความดันโลหิตสูง. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา. 2560;23(2):121-132.
New Zealand Ministry of Health. Food and nutrition guidelines for healthy children and young people (aged 2-18 years). Ministry of Health. 2012:80-95.
ปัจจะ กุลพงษ์. โรคมะเร็งในเด็ก. หน่วยโลหิตวิทยาและโรคมะเร็ง ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2540.
จันจิรา จิตต์วิบูรณ์. การรับรู้ภาวะสุขภาพและการดูแลตนเองตามทางเลือกในการรักษาของผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลผู้ใหญ่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สงขลา. 2543:6-43.