การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ออนไลน์เพื่อสร้างเสริมสมรรถนะการสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงวิชาชีพ รายวิชาปฏิบัติการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น สำหรับนักศึกษาพยาบาล
คำสำคัญ:
สื่อการเรียนรู้ออนไลน์, สมรรถนะ การสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงวิชาชีพ, ปฏิบัติการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น, นักศึกษาพยาบาลบทคัดย่อ
งานวิจัยและพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาสื่อการเรียนรู้ออนไลน์เพื่อสร้างเสริมสมรรถนะการสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงวิชาชีพ ในรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น สำหรับนักศึกษาพยาบาล 2) ศึกษาประสิทธิผลของสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ และ 3) ศึกษาความพึงพอใจต่อสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ กลุ่มตัวอย่าง คือนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา ปีการศึกษา 2566 จำนวน 205 คน ได้จากการสุ่มอย่างง่าย แบ่งเป็นกลุ่มทดสอบประสิทธิภาพ จำนวน 41 คน คือแบบเดี่ยว จำนวน 3 คน แบบกลุ่ม จำนวน 8 คน และภาคสนาม จำนวน 30 คน และกลุ่มทดสอบประสิทธิผล จำนวน 164 คน ดำเนินการวิจัยระหว่างเดือนกรกฎาคม 2565- สิงหาคม 2567 เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย 1) ไลน์ออฟฟิเชียลพร้อม-พรี (Prom-Pre) 2) แบบทดสอบความรู้ เรื่องปฏิบัติการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น (KR-20 = .74) 3) แบบประเมินทักษะ การสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงวิชาชีพ (a = .91) และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (a = .97) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติ Paired t-test
ผลการวิจัย พบว่า 1) สื่อที่พัฒนาขึ้นมี 5 องค์ประกอบ คือ คู่มือโรค กรณีศึกษา แบบทดสอบ หนังสือแนะนำ และคำถามและคำตอบมีประสิทธิภาพและค่าดัชนีประสิทธิผลสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (80/80) 2) ภายหลังการเรียนรู้ด้วยสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ นักศึกษาพยาบาลมีค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้ (M = 19.08, S.D. = 1.56) สูงกว่าก่อนการใช้สื่อ (M = 12.49, S.D. = 3.35) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (t = -25.93, p = 0.001) และทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงวิชาชีพ โดยรวมอยู่ในระดับสูง (M = 54.14, S.D. = 3.12) ความพึงพอใจของนักศึกษาพยาบาลต่อสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ โดยรวมในระดับมาก (M = 3.97, S.D. = 0.52) ดังนั้นไลน์ออฟฟิเชียล พร้อม-พรี (Prom-Pre) จึงเป็นสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ที่มีความเหมาะสมอย่างมากต่อการพัฒนาสมรรถนะการสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงวิชาชีพ ในทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน สำหรับนักศึกษาพยาบาล ข้อเสนอแนะ บุคลากรด้านสุขภาพสามารถพัฒนาสมรรถนะการสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงวิชาชีพด้วยตนเอง โดยใช้ไลน์ออฟฟิเชียลพร้อม-พรีเพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับผู้รับบริการ
References
WHO. Nursing and midwifery. [online]. (2022). [cited 2022 08 19]. Available from: https://www.who.int/news-room/ fact-sheets/detail/nursing-and-midwifery
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. รายงานข้อมูลทรัพยากรสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ 2564. [ออนไลน์]. (2564). [เข้าถึงเมื่อ 19 สิงหาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก : https:// spd.moph.go.th/wp-content/uploads/2023/ 05/3.infographic-C.pdf
วิจิตร ศรีสุพรรณ และกฤษดา แสวงดี. ข้อเสนอเชิงนโยบายในการแก้ปัญหาการขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพในประเทศไทย. Thai Journal of Nursing Council 2555; 27: 5 – 12.
วิภาวี อนุพันธ์พิศิษฐ์ เสนีย์ สุวรรณดี พรรณทิพา เวชรังษี และนิติบดี ศุขเจริญ. ภาพอนาคตพยาบาลไทยในประชาคมอาเซียน. วารสารพยาบาลตำรวจ 2559;8:119-28.
Haque S, Rukmini D, Mujyanto J. The Nursing Students’ Needs of English for Specific Purposes to Minimize Difficulty in Learning English. English Education Journal 2022; 12: 665 – 72.
Niyomsat, Y., Aunchangwang, W., Niyomkar, S., and Kaewampai, P. The development and validation of self-directed learning, online educational media to promote listening and reading proficiency in english for nursing professionals among nursing students. Journal of Nursing and Therapeutic Care 2023; 41 : 1-16. (in Thai)
Popa DE. Medical discourse and ESP courses for Romanian nursing undergraduates. Procedia-Social and Behavioral Sciences 2013; 83 : 17 – 24.
สมบัติ คชสิทธิ์ จันทนี อินทรสูต และธนกร สุวรรณพฤฒิ. การจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้กับผู้เรียนยุค THAILAND 4.0. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) 2560; 7: 175 – 86.
จินตนา อาจสันเที๊ยะ สุนันท์ ลี้อิสสรพงษ์ และพัชนี ธรรมวัฒนานุกูล. การศึกษาพยาบาลแห่งอนาคตในยุคพลิกโฉมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโคโรนาไวรัส 2019. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท2565;4: 1 – 11.
อุมาสวรรค์ ชูหา พัชรา สมชื่อ สุภาวดี นาคสุขุม ปุณรดา พวงสมัย รุ่งนภา ประยูรศิริศักดิ์ และจริยา มงคลสวัสดิ์. ผลิตพยาบาลอย่างไรให้ตอบโจทย์ผู้ใช้บัณฑิตในศตวรรษที่ 21: ความท้าทายของอาจารย์พยาบาลไทย. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม 2562;16:176-86.
McGriff, S. J. Instructional system design (ISD): Using the ADDIE model. Instructional Design Models 2000; 226: 1-2.
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย2556;5:7-20.
Sri-ard, B. Statistic (10th ed). Bangkok, Thailand: Suriyasan; 2017.
Polit, D. F. Statistis and analysis for nursing research (2nd ed). United States of America: Pearson Education; 2010.
Burns, N., & Grove, S.K.The Practice of nursing research: Conduct, critiqute, and utilization. (6th ed). United States of America: Elsevier Saunders; 2009.
Willis, J. A framework for task-based learning. London: Lonhman; 1996.
Willis, J. & Willis, D. Doing Task-Based Teaching. Oxford: Oxford University Press; 2012.
สมรัก ครองยุทธ เรืองฤทธิ์ โทรพันธ์ วิมลพรรณ สังข์กุล ชนิกานต์ เกษมราช รัสวรรณ แสนคำหมื่น และกตกร ประสารวรณ์. ผลของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้แผนภาพมโนทัศน์ต่อการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักศึกษาพยาบาล. วารสารพยาบาลตำรวจ 2565;14:370-77.
วิจิตรา กุสุมภ์ และสุลี ทองวิเชียร. การพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักศึกษาพยาบาล. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 2560; 25: 1 – 8.
ณัฏฐณิชา ศรีบุณยวัฒน ศรีมนา นิยมค้า จุฑารัตน์ มีสุขโข ฐิติมา สุขเลิศตระกูล พัชราภรณ์ อารีย์ และจันท์พิมพ์ สารากร. การพัฒนาสื่อการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ผ่านเว็บด้านทักษะการพยาบาลกุมารเวชศาสตร์สำหรับนักศึกษาพยาบาล. พยาบาลสาร 2562;46: 199 – 209.
ธีรวัฒน์ ช่างปัด และสุมลชาติ ดวงบุบผา. การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ออนไลน์เพื่อสร้างเสริมความสามารถในการตัดสินใจบริหารยามอร์ฟีนในสถานการณ์จำลองทางคลินิกของนักศึกษาพยาบาล ชั้นปีที่ 3. วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล 2566;29:1-18.
Thungfonphoom, N., Khammathit, A., Wannachok, T., Naka, N., Susuk, B., and Kongnarong, A. The effectiveness of web-based learning on the improvement of English skills among the 1st year nursing student, Boromarajonani college of nursing Udonthani. Journal of Health Research and Innovation 2022;5:87-98. (in Thai)
สุรัตนา อดิพัฒน์. การจัดการเรียนการสอนแบบเน้นภาระงานโดยบูรณาการเทคโนโลยีสำหรับนักศึกษาครูภาษาอังกฤษ. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์ 2561; 33 :21 – 8.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2025 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กระทรวงสาธารณสุข
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และบุคลากรท่านอื่นๆในสำนักงานฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว