ผลของการให้ข้อมูลอย่างมีแบบแผนร่วมกับการให้ดูหรือไม่ให้ดูภาพประกอบต่อความวิตกกังวลของผู้หญิงที่มารับการตรวจอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอดหรือทางทวารหนักเป็นครั้งแรก
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบคะแนนความวิตกกังวลและความพึงพอใจของผู้หญิงระหว่างกลุ่มที่ได้รับข้อมูลอย่างมีแบบแผนร่วมกับการให้ดูและไม่ให้ดูภาพหัวตรวจและภาพหุ่นจำลองวิธีการอัลตราซาวนด์
รูปแบบการวิจัย: การวิจัยทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม
วิธีดำเนินการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยที่มารับการตรวจอัลตราซาวนด์โดยวิธีการตรวจทางช่องคลอดหรือทางทวารหนักเป็นครั้งแรก จำนวน 164 ราย เลือกโดยวิธีการสุ่มออกเป็นสองกลุ่ม โดยทั้งสองกลุ่มจะได้รับการให้ข้อมูลเพื่อเตรียมตรวจฯ เหมือนกัน แตกต่างกันตรงที่ได้ดูกับไม่ได้ดูภาพหัวตรวจและภาพหุ่นจำลองวิธีการตรวจประกอบการให้ข้อมูล เก็บข้อมูลโดยใช้แบบวัดความวิตกกังวลโดยทั่วไปและขณะเผชิญ และแบบสอบถามความต้องการของผู้ป่วยในการดูภาพประกอบการให้ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และ การทดสอบไคสแควร์ การทดสอบทีแบบสองกลุ่มอิสระ และแบบสองกลุ่มสัมพันธ์กัน
ผลการวิจัย: กลุ่มที่ได้ดูภาพและกลุ่มที่ไม่ได้ดูภาพประกอบมีคะแนนความวิตกกังวลและมีความพึงพอใจต่อกระบวนการให้ข้อมูลเพื่อเตรียมตรวจอัลตราซาวนด์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (p > .05)
สรุปและข้อเสนอแนะ: ผลการศึกษาแสดงว่าความเข้าใจในเนื้อหาข้อมูลมีความสำคัญกว่าการให้ดูภาพประกอบ ดังนั้นพยาบาลควรให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงสะท้อนของผู้ป่วย เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการพูดคุยและสื่อสารให้ผู้ป่วยมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนเข้ารับการตรวจ
Article Details
ลิขสิทธิ์: วารสารพยาบาลศาสตร์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่ผลงานที่ตีพิมพ์ ห้ามผู้ใดนำบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารพยาบาลศาสตร์ไปเผยแพร่ในลักษณะต่างๆ ดังต่อไปนี้ การส่งบทความไปตีพิมพ์เผยแพร่ที่อื่น การนำบทความเผยแพร่ออนไลน์ การถ่ายเอกสารบทความเพื่อกิจกรรมที่ไม่ใช่การเรียนการสอน ยกเว้นเสียแต่ได้รับอนุญาตจากวารสารพยาบาลศาสตร์

Disclaimer: เนื้อหาบทความหรือข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารพยาบาลศาสตร์ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและไม่มีส่วนรับผิดชอบแต่อย่างใด
เอกสารอ้างอิง
Wongtiraporn W, Rattanachaiyanont M, Tanmahasamut P, Benjapibal M, Ruengkhachorn I. Gynecology, Vol. 2. 1st ed. Bangkok: PA Living Printing; 2011. 466 p. (in Thai).
Guwalairut J, Chunprasert W, Hemasuk W. The effect of information intervention about pelvic examination to the anxiety of first pelvic examination client. Bangkok: Nursing Department, Faculty of Medicine Siriraj Hospital, Mahidol University; 2002. 35 p. (in Thai).
Cheemai C. Trait anxiety, self esteem and coping strategies of senior students at Kasetsart University, Bangkhen Campus [master, s thesis]. Bangkok: Kasetsart University; 2009: 182 p. (in Thai).
Paenkaew J, Kethmatus C. Effects of modeling on anxiety reduction of the nursing students prior to principles and techniques in nursing practicum. Bulletin of Suanprung. 2016;32(3):44-53. (in Thai).
Chetchotsak Y, Sittiwongsa P, Wongwi P. Effects of information giving on anxiety, knowledge and practice among mothers of infants with retinopathy of prematurity. Srinagarind Medical Journal. 2013;28(2):155-62. (in Thai).
Maneerat T. The effects of listening to an audio tape describing relaxation breathing technique combined with music on preoperative anxiety in patients undergoing transurethral resection prostatectomy [master, s thesis]. Songkhla: Prince of Songkla University; 2004. 84 p. (in Thai).
Thongnamwon R. Study on anxiety level in the pro-operative patients at Krathumbean Hospital [master’s thesis]. Bangkok: Silpakorn University; 2006. 75 p. (in Thai).
Pituksung A, Tanterothum J, Supharerx S, Waranukulsak O. The study of anxiety, stress and information required of the preoperative outpatients. Siriraj Nursing Journal. 2011;4(1):35-42. (in Thai).
Ngamlarus C, Chongsuvivatwong V, McNeil E. n4Studies: sample size calculation for an epidemiological study on a smart device. Siriraj Med J. 2016;68(3):160-70.
Julian JL. Measures of anxiety. Arthritis Care Res (Hoboken). 2011;63 Suppl 11:S467-72. doi: 10.1002/acr.20561.
Speilberger CD. Anxiety and behavior. New York: Academic Press; 1966. 430 p.