Developing and Testing of an Instrument Assessing Factors Related to Professional Psychological Help Seeking Behavior of Nursing Students
Main Article Content
บทคัดย่อ
Purpose: This study aimed to develop and test the quality of a developed questionnaire based on the theory of planned behavior to measure factors related to professional psychological help seeking behavior of nursing students.
Design: This study was a methodological study.
Methods: This study consisted of 2 phases, developing a questionnaire and testing the quality of the questionnaire. The subjects were 1st- 4th nursing students in academic year 2013 from one Faculty of Nursing, Bangkok who screened with the Depression Anxiety Stress Scale questionnaire and had a least 1 aspart of the questionnaire above normal level. Phase 1, 100 subjects completed the open-ended questionnaire for analysing salient beliefs related to attitudes toward behavior, subjective norm, and perceived behavioral control to develop a questionnaire. Content analysis was used for this phase. Phase 2, 70 subjects answered the developed questionnaire. Item analysis with t-test between the high and the low score groups and internal consistency were performed.
Main findings: The results found that there were 41 items from 50 items indicated statistic significantly. The questionnaire, a rating scale with 2 poles and 7 point scale, consisted of 19 items for measuring attitude variable, 11 items for measuring subjective norm, 8 items for measuring behavioral control, and 3 items for measuring intention. The reliabilities with Cronbach’s alpha coefficient of each aspect were between .65 - .96
Conclusion and recommendations: This study provided evidence of developing a questionnaire based on the theory of planned behavior for measuring factors related to seek such help. However, this questionnaire in a new measurement for nursing student context. Before using this questionnaire, nurse educators and mental health professionals should repeat testing the quality of the questionnaire.
การสร้างและทดสอบเครื่องมือประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการแสวงหาการช่วยเหลือทางจิตใจ จากบุคลากรทางสุขภาพจิตของนักศึกษาพยาบาล
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อสร้างและทดสอบคุณภาพของเครื่องมือประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการแสวงหาการช่วยเหลือทางจิตใจจากบุคลากรทางสุขภาพจิตของนักศึกษาพยาบาล ซึ่งสร้างขึ้นตามแนวคิดทฤษฎีการวางแผนพฤติกรรม
รูปแบบการวิจัย: การพัฒนาเครื่องมือ
วิธีดำเนินการวิจัย: แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะพัฒนาเครื่องมือ และระยะทดสอบคุณภาพเครื่องมือกลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 ของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ที่มีระดับคะแนนจากการคัดกรองด้วยแบบประเมินความทุกข์ทางจิตใจ ความเครียด ซึมเศร้าและวิตกกังวลอย่างน้อย 1 ด้านสูงกว่าปกติ ระยะที่ 1 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 100 คน ตอบแบบสอบถามปลายเปิดเพื่อวิเคราะห์ความเชื่อเกี่ยวข้องกับบททัศนคติต่อพฤติกรรม การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง และการรับรู้ในการควบคุมพฤติกรรมในการนำไปสร้างแบบสอบถาม ระยะนี้วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ระยะที่ 2 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 70 คน ตอบแบบสอบถามที่สร้างขึ้น นำข้อมูลที่ได้มาตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือด้วยการหาอำนาจจำแนกจากความแตกต่างของตัวแปรระหว่างกลุ่ม คะแนนสูง และกลุ่มคะแนนต่ำโดยใช้สถิติ t-test และวิเคราะห์หาความเชื่อมั่นของแบบสอบถามด้วยการทดสอบสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค
ผลการวิจัย : พบว่า แบบสอบถามที่สร้างขึ้นนี้ จำนวน 50 มี ข้อคำถามที่ใช้ได้จำนวน 41 ข้อ ลักษณะคำตอบเป็นมาตรวัดแบบ 2 ขั้วแบ่งเป็น 7 ระดับ ประกอบด้วยข้อคำถามความตั้งใจในการทำพฤติกรรมจำนวน 3 ข้อ ทัศนคติต่อพฤติกรรมจำนวน 19 ข้อ การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงจำนวน 11 ข้อ และการรับรู้ในการควบคุมพฤติกรรมจำนวน 8 ข้อ ความเชื่อมั่นขอแบบสอบถามอยู่ระหว่าง .65 - .96
สรุปและข้อเสนอแนะ: การศึกษาครั้งนี้เป็นหลักฐานในการนำทฤษฎีการวางแผนพฤติกรรมมาใช้สร้างแบบสอบถามในการประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ การแสวงหาการช่วยเหลือทางจิตใจจากบุคลากรทางสุขภาพจิตอย่างไรก็ ตามแบบสอบถามนี้เป็นเครื่องมือใหม่ในบริบทของนักศึกษาพยาบาล อาจารย์และบุคคลากรทางสุขภาพจิต ควรได้มีการทดสอบคุณภาพของเครื่องมือซาํ้ ก่อนนำไปใช้
คำสำคัญ: การสร้างแบบสอบถาม แบบวัดปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการแสวงหาการช่วยเหลือทางจิตใจ ทฤษฎีการวางแผนพฤติกรรม นักศึกษาพยาบาล
Article Details
ลิขสิทธิ์: วารสารพยาบาลศาสตร์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่ผลงานที่ตีพิมพ์ ห้ามผู้ใดนำบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารพยาบาลศาสตร์ไปเผยแพร่ในลักษณะต่างๆ ดังต่อไปนี้ การส่งบทความไปตีพิมพ์เผยแพร่ที่อื่น การนำบทความเผยแพร่ออนไลน์ การถ่ายเอกสารบทความเพื่อกิจกรรมที่ไม่ใช่การเรียนการสอน ยกเว้นเสียแต่ได้รับอนุญาตจากวารสารพยาบาลศาสตร์

Disclaimer: เนื้อหาบทความหรือข้อคิดเห็นใดๆ ในวารสารพยาบาลศาสตร์ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและไม่มีส่วนรับผิดชอบแต่อย่างใด