การตัดสินความเป็นคู่ขนานของข้อสอบด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผลโดยอาศัยทฤษฎีฉันทามติทางวัฒนธรรมแบบมีรูปแบบ

Main Article Content

อนุพงษ์ กันธิวงค์
โชติกา ภาษีผล

บทคัดย่อ

บทนำ: ข้อสอบคู่ขนานด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผลที่สร้างขึ้นก่อนการสอบเพื่อวัดและประเมินผลการเรียนรู้ขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ในการตัดสินความเป็นคู่ขนานของข้อสอบ วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบความเป็นคู่ขนานของข้อสอบคู่ขนานด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผลที่ได้จากการคัดเลือกโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญกับการตัดสินความเป็นคู่ขนานของข้อสอบโดยอาศัยฉันทามติทางวัฒนธรรมแบบมีรูปแบบและศึกษาระดับความสามารถในการตัดสินความเป็นคู่ขนานของข้อสอบด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผลของผู้เชี่ยวชาญ วิธีดำเนินการวิจัย: ประชากรที่ใช้ในการวิจัยผู้เชี่ยวชาญในการสอนนักศึกษาแพทย์ สังกัดวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า จำนวน 225 คน ตัวอย่างที่ใช้จำนวน 63 คน ทำการวัดระดับความสามารถในการตัดสินความเป็นคู่ขนานของข้อสอบจำนวน 20 ข้อ ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาและกำหนดความเป็นคู่ขนานของข้อสอบโดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญทางเภสัชวิทยาจำนวน 3 คน จากนั้นวิเคราะห์ทางสถิติเพื่อหาระดับความสามารถในการตัดสินความเป็นคู่ขนานของข้อสอบของผู้เชี่ยวชาญและตัดสินความเป็นคู่ขนานของข้อสอบโดยอาศัยทฤษฎีฉันทามติทางวัฒนธรรมแบบมีรูปแบบด้วยโปรแกรม UCINET ผลการวิจัย: ผู้เชี่ยวชาญผ่านเกณฑ์ความสามารถในการตัดสินความเป็นคู่ขนานของข้อสอบ จำนวน 43 คน (ร้อยละ 68.25) และแบบวัดมีความเป็นเอกมิติ (สัดส่วนของค่าไอเกนสูงสุดต่อลำดับที่ 2 = 3.11) ผลการตัดสินความเป็นคู่ขนานของข้อสอบโดยผู้เชี่ยวชาญตามการวิเคราะห์ฉันทามติทางวัฒนธรรมแบบมีรูปแบบ สอดคล้องกับการกำหนดข้อสอบคู่ขนานโดยผู้เชี่ยวชาญตามความตรงตามเนื้อหาจำนวน 16 ข้อ (ร้อยละ 80.00) สรุป การตัดสินความเป็นคู่ขนานของข้อสอบโดยผู้เชี่ยวชาญโดยอาศัยทฤษฎีฉันทามติทางวัฒนธรรมแบบมีรูปแบบมีความสอดคล้องกับการกำหนดข้อสอบคู่ขนานโดยผู้เชี่ยวชาญตามความตรงตามเนื้อหาสูง สามารถใช้ในการตัดสินความเป็นคู่ขนานของข้อสอบก่อนการสอบได้อย่างเหมาะสม

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
กันธิวงค์ อ, ภาษีผล โ. การตัดสินความเป็นคู่ขนานของข้อสอบด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผลโดยอาศัยทฤษฎีฉันทามติทางวัฒนธรรมแบบมีรูปแบบ. R. Thai Army Med. J. [อินเทอร์เน็ต]. 30 กันยายน 2019 [อ้างถึง 23 ธันวาคม 2025];72(3). available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/rtamedj/article/view/218980
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ (Original Article)