การศึกษาผลการรักษาโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายรยางค์์อุดตันเรื้อรัง ด้วยวิธีการผ่าตัดผ่านสายสวนหลอดเลือด โดยการใช้้สายอัลตราซาวด์ หลอดเลือดระหว่างผ่าตัดเปรียบเทียบกับการฉีดสีหลอดเลือดวิธีปกติ ในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุุประสงค์์: โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายรยางค์์อุดตันเรื้อรัง เป็นสาเหตุุที่ทำให้้เกิดการสูญเสียรยางค์์เป็นลำดับต้น ๆ การรักษาโดยการผ่าตัดเพิ่มมีีความจำเป็นสำหรับผู้ป่วย ซึ่งในปัจจุบันการผ่าตัดผ่านสายสวนหลอดเลือดเป็นที่นิยม ซึ่งในระหว่างการผ่าตัด การใช้้สายอัลตราซาวด์หลอดเลือด (intravascular ultrasound (IVUS) guided) มีีแนวโน้มที่จะให้ข้อมูลในการวางแผนการรักษามากขึ้นเมื่อเทียบกับการใช้้แค่่การฉีดสีีผ่านหลอดเลือดวิธีปกติิ (angiographic guided) ซึ่งอาจจะมีีผลทำให้้ผลการรักษาดีขึ้น โดยจุดประสงค์์ของการศึกษานี้เพื่อต้องการเปรียบเทียบผลการรักษาโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายรยางค์์อุดตันเรื้อรังโดยวิธีผ่าตัดผ่านสายสวนโดยการใช้ข้อมูลจากสายอัลตราซาวด์หลอดเลือดกับการใช้ข้อมูลจากการฉีดสีแบบปกติ ในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
วิธีการดำเนินการ: เป็นการศึกษาแบบ retrospective cohort study ในผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคหลอดเลือด แดงส่วนปลายรยางค์อุดตันเรื้อรัง และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตั้งแต่เดือนมกราคม 2562- ธันวาคม 2565
ผลการศึกษา: ข้อมูลการรักษา 98 รยางค์จากผู้ป่วย 90 คนถูกรวบรวม แบ่งเป็นผู้ป่วยที่เข้ารับผ่าตัดผ่านสายสวนหลอดเลือดโดยการใช้ข้อมูลจากการฉีดสีแบบปกติจำนวน 69 รยางค์ และจากการใช้ข้อมูลจากสายอัลตราชาวด์หลอดเลือดจำนวน 29 รยางค์ พบว่าอัตราการสูญเสียรยางค์และการผ่าตัดช้ำในช่วง 6 เดือน (major adverse limb event) ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (angiography 20.3% vs IVUS 20.7%; p=0.964) และอัตราการตาย ระหว่างผ่าตัดในช่วง 30 วัน ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติเช่นกัน (angiography 8.79b vs IVUS 10.3%; p=0.796)
สรุป: การรักษาโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายรยางค์คุดตันเรื้อรังด้วยวิธีการผ่าตัดผ่านสายสวนโดยการใช้ข้อมูลจากสายอัลตราชาวด์หลอดเลือดยังไม่ลดอัตราการสูญเสียรยางค์และการผ่าตัดซ้ำในช่วง 6 เดือนได้ การศึกษาในจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอาจจะเห็นแสดงให้เห็นแนวโน้มการรักษาที่ดีขึ้น นอกจากนั้นแล้วผลการรักษาในด้านอื่นของการใช้สายอัลตราชาวด์หลอดเลือดอาจจะมีความจำเป็นที่ต้องศึกษาเพิ่มเติม เช่น การเกิดหลอดเลือดฉีกขาดหลังผ่าตัด เป็นต้น
Downloads
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความในวารสารนี้อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ กรมแพทย์ทหารบก และเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)
ท่านสามารถอ่านและใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา และทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัย หรือการอ้างอิง โดยต้องให้เครดิตอย่างเหมาะสมแก่ผู้เขียนและวารสาร
ห้ามใช้หรือแก้ไขบทความโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อความที่ปรากฏในบทความเป็นความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น
ผู้เขียนเป็นผู้รับผิดชอบต่อเนื้อหาและความถูกต้องของบทความของตนอย่างเต็มที่
การนำบทความไปเผยแพร่ซ้ำในรูปแบบสาธารณะอื่นใด ต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร
เอกสารอ้างอิง
Conte MS, Bradbury AW, Kolh P, White JV, Dick F, Fitridge R, et al. Global Vascular Guidelines on the Management of Chronic Limb-Threatening Ischemia. Eur J Vasc Endovasc Surg. 2019;58(1s):S1-S109.e33.
Loffroy R, Falvo N, Galland C, Fréchier L, Ledan F, Midulla M, et al. Intravascular Ultrasound in the Endovascular Treatment of Patients With Peripheral Arterial Disease: Current Role and Future Perspectives. Front Cardiovasc Med. 2020;7:551861.
Pliagas G, Saab F, Stavroulakis K, Bisdas T, Finton S, Heaney C, et al. Intravascular Ultrasound Imaging Versus Digital Subtraction Angiography in Patients with Peripheral Vascular Disease. J Invasive Cardiol. 2020;32(3):99-103.
Soga Y, Takahara M, Ito N, Katsuki T, Imada K, Hiramori S, et al. Clinical impact of intravascular ultrasound-guided balloon angioplasty in patients with chronic limb threatening ischemia for isolated infrapopliteal lesion. Catheter Cardiovasc Interv. 2021;97(3):E376-e84.
Fujihara M, Yazu Y, Takahara M. Intravascular Ultrasound-Guided Interventions for Below-the-Knee Disease in Patients With Chronic Limb-Threatening Ischemia. J Endovasc Ther. 2020;27(4):565-74.
Iida O, Takahara M, Soga Y, Suzuki K, Hirano K, Kawasaki D, et al. Efficacy of intravascular ultrasound in femoropopliteal stenting for peripheral artery disease with TASC II class A to C lesions. J Endovasc Ther. 2014;21(4):485-92.
Panaich SS, Arora S, Patel N, Patel NJ, Savani C, Patel A, et al. Intravascular Ultrasound in Lower Extremity Peripheral Vascular Interventions: Variation in Utilization and Impact on InHospital Outcomes From the Nationwide Inpatient Sample (2006-2011). J Endovasc Ther. 2016;23(1):65-75.
Sheikh AB, Anantha-Narayanan M, Smolderen KG, Jelani QU, Nagpal S, Schneider M, et al. Utility of Intravascular Ultrasound in Peripheral Vascular Interventions: Systematic Review and Meta-Analysis. Vasc Endovascular Surg. 2020;54(5):413-22.
Mills JL, Sr., Conte MS, Armstrong DG, Pomposelli FB, Schanzer A, Sidawy AN, et al. The Society for Vascular Surgery Lower Extremity Threatened Limb Classification System: risk stratification based on wound, ischemia, and foot infection (WIfI). J Vasc Surg. 2014;59(1):220-34.e1-2.