Comparative Study of Serum Dehydroepiandrosterone Sulfate Levels in HIV-1 Infected and HIV-1-seronegative Royal Thai Army Conscripts

Main Article Content

Khunakorn Kana
Sutchana Tabprasit
Kamonwan Songprasom
Thippawan Chuenchitra
Narin Hiransuthikul

Abstract

บทคัดย่อ

ในช่วงเวลาประมาณ 15 ปีที่ผ่านมานี้ นักวิจัยเริ่มพบว่าฮอร์โมนดีฮัยโดรอีพิแอนโดรสเตอโรน (DHEA) และดีฮัยโดรอีพิแอนโดรสเตอโรนซัลเฟต (DHEA-S) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย (androgen) ที่ถูกสร้างโดยต่อมหมวกไต มีบทบาททางด้านภูมิต้านทานของร่างกายมนุษย์ในการที่จะตอบโต้เชื้อเอชไอวี การศึกษาระดับของ DHEA-S ในเลือดของพลทหารกองประจำการที่มีสุขภาพแข็งแรงเปรียบเทียบกับระดับของฮอร์โมนดังกล่าวในพลทหารกองประจำการที่ติดเชื้อเอชไอวี-1แต่ยังไม่แสดงอาการ ร่วมกับความสัมพันธ์ของระดับฮอร์โมนกับปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่การติดเชื้อโรคที่มักเกิดร่วมกับการติดเชื้อเอชไอวี-1 โดยควบคุมตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อระดับของ DHEA-S ในเลือด จะเป็นประโยชน์ในการที่จะได้ทราบระดับของฮอร์โมนนี้ที่เชื่อถือได้ อันจะนำไปสู่การศึกษาวิจัยในอนาคตที่อาจจะนำระดับของ DHEA-S ในเลือดมาใช้ในการพยากรณ์โรคเอดส์ต่อไป วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาถึงค่าเฉลี่ยของระดับฮอร์โมน Dehydroepiandrosterone Sulfate (DHEA-S) ในเลือดของพลทหารฯ ที่ติดเชื้อเอชไอวี-1 เปรียบเทียบกับพลทหารฯที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี-1 รูปแบบการศึกษา: การศึกษาเชิงวิเคราะห์ ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง สถานที่ทำการวิจัย: สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร กรุงเทพมหานคร วิธีการศึกษา: ทำการศึกษาระดับของฮอร์โมน DHEA-S, ภาวะการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด บีและซี การติดเชื้อซิฟิลิส ในเลือดของชายไทยที่ได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นพลทหารกองประจำการกองทัพบก ผลัดพฤษภาคม 2549 จำแนกเป็นผู้ที่ติดเชื้อ เอชไอวีแต่ยังไม่แสดงอาการจำนวน 72 ราย และผู้ที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวีจำนวน 199 ราย นำมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลเกี่ยวกับการสูบบุหรี่และระยะเวลาของการติดเชื้อเอชไอวี ผลการศึกษา: ค่ามัธยฐานของระดับฮอร์โมน DHEA-S ในเลือดของกลุ่มที่ติดเชื้อเอชไอวี และกลุ่มที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี เท่ากับ 1.23 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร และ 1.42 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ เมื่อทำการวิเคราะห์โดยใช้สถิติทดสอบ t-test พบว่าระดับฮอร์โมน DHEA-S ในเลือดของกลุ่มที่ติดเชื้อเอชไอวีต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.037) สรุป: ระดับฮอร์โมน DHEA-S ในเลือดของพลทหารฯ ที่ติดเชื้อเอชไอวี-1 ต่ำกว่าในพลทหารฯที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี-1อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

คำสำคัญ: ดีฮัยโดรอีพิแอนโดรสเตอโรน • เอชไอวี-1 • พลทหารกองประจำการ

 

Abstract

Background : Around the past 15 years, there are evidences that the adrenal androgen dehydroepiandrosterone (DHEA) and its sulfoconjugated derivative (DHEA-S) have some roles in immunity against HIV viruses. Determining the true and reliable mean serum DHEA-S level by adjusting related factors (covariates) which can affect serum DHEA-S level is essential for fully understanding natural changes of this hormone in healthy young men and asymptomatic naive HIV-infected young men. Objectives : To determine the serum dehydroepiandrosterone sulfate (DHEA-S) levels in HIV-1 infected Thai military conscripts compare to HIV-1-seronegative Thai military conscripts. Design : Cross-sectional analytic study. Setting : Armed Forces Research Institute of Medical Sciences (AFRIMS), a research center. Research Methodology: We studied left-over serum samples of selected sample population. This study included 72 HIV-1 infected and 199 HIV-1-seronegative serum samples of Royal Thai Army Conscripts in round of induction May 2006. The serum samples were tested for serum dehydroepiandrosterone sulfate levels, hepatitis B surface antigen, anti hepatitis C virus antibody, rapid plasma reagin, and HIV-1 subtypes B, E, and D IgG-Capture enzyme immunoassay. Results : The median serum DHEA-S levels in HIV-1 infected group and HIV-1-seronegative group were 1.23 and 1.42 micrograms/mL, respectively. There was significant difference in serum DHEA-S levels between two groups (p=0.037). Conclusion : Serum DHEA-S levels in asymptomatic HIV-1 infected Thai military conscripts were lower than serum DHEA-S levels in HIV-1-seronegative Thai military conscripts statistical significantly.

Key Words: Dehydroepiandrosterone • HIV-1 • Thai conscript

Article Details

Section
นิพนธ์ต้นฉบับ (Original Article)